โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

นายกฯมาเลเซียเผยไทย-กัมพูชาตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข มีผลตั้งแต่เที่ยงคืน 28 กรกฎาคม

ไทยพับลิก้า

อัพเดต 28 ก.ค. เวลา 20.14 น. • เผยแพร่ 28 ก.ค. เวลา 18.27 น.

เมื่อเวลาประมาณ 16.49 น วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ตามเวลาในประเทศไทย ได้มีการแถลงข่าวผลการประชุมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยนาย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรีของไทย

นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย กล่าวเริ่มการแถลงข่าวผ่าน Live ของเพจ Berita RTM ว่า ในนามของรัฐบาลมาเลเซียในอาเซียน ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมสมาคมของข้าพเจ้า นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฮุน มาเนต และนายกรัฐมนตรีไทย ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ไม่เพียงแค่มาร่วมงานเท่านั้น แต่มีน้ำใจอย่างยิ่งที่จะเข้าร่วมการหารืออย่างตรงไปตรงมา และมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการสร้างสันติภาพ และด้วยความพยายามและการมีส่วนร่วมของพวกเขา เราจึงได้เห็นพัฒนาการและผลลัพธ์เชิงบวกอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อกัมพูชา ไทย และอาเซียน

รัฐบาลมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ร่วมฉบับนี้

ภายหลังการประชุมพิเศษและการพูดคุย ซึ่งมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพและเป็นสักขีพยาน ณ เมืองปุตราจายา และมีสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย เข้าร่วมการประชุม รวมทั้งยังมีสหรัฐอเมริกาที่ร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างแข็งขันจัดการประชุมนี้ขึ้น

เพื่อส่งเสริมการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสันติ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และรักษาการนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ได้แสดงจุดยืนและความเต็มใจที่จะหยุดยิงโดยทันทีและกลับสู่ภาวะปกติ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ติดต่อกับผู้นำของทั้งสองประเทศ โดยเรียกร้องให้ผู้นำทั้งสองประเทศหาทางแก้ไขข้อขัดแย้งโดยสันติ

ทางด้านจีนได้ติดต่อกับกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมการเจรจา การหยุดยิง และการฟื้นฟูสันติภาพอย่างแข็งขัน การมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกฝ่ายตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันต่อสันติภาพ การเจรจา และเสถียรภาพในภูมิภาค ทั้งกัมพูชาและไทยได้บรรลุความเข้าใจร่วมกันดังนี้

ประการที่หนึ่ง ข้อตกลงทันทีและการหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยจะมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น.เที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ใน นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญยิ่งสู่การลดความตึงเครียดและการฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง

ประการที่สอง ให้จัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้บัญชาการทหารภาค ผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 1 และ 2 ฝ่ายไทย และผู้บัญชาการทหารภาคที่ 4 และ 5 ฝ่ายกัมพูชา ในเวลา 07.00 น.ของวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ซึ่งก็คือพรุ่งนี้เช้าเวลา 7 นาฬิกา และตามด้วยการประชุมกับผู้ช่วยทูตฝ่ายกลาโหมที่นำโดยประธานอาเซียน หากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน

ประการที่สาม จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ General Border Committee(GBC เป็นกลไกระดับทวิภาคีที่สำคัญของฝ่ายทหาร) ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 โดยกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ

ในฐานะประธานอาเซียนปัจจุบัน มาเลเซียพร้อมที่จะประสานงานและสังเกตการณ์คณะทำงานเพื่อตรวจสอบและดูแลให้มีการปฏิบัติ มาเลเซียจะหารือกับประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อเข้าร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภูมิภาคในการสนับสนุนสันติภาพในพื้นที่

ทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะกลับมามีการติดต่อสื่อสารโดยตรงระหว่างนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีกลาโหมของทั้งสองประเทศ รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมของมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ได้รับมอบหมายให้พัฒนากลไกโดยละเอียดสำหรับการดำเนินการ ตรวจสอบ และรายงานการหยุดยิง

กลไกนี้จะเป็นรากฐานสำหรับสันติภาพและความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืนล

การประชุมครั้งนี้ย้ำถึงความตั้งใจร่วมกันของมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ที่จะยึดมั่นในหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือพหุภาคี เพื่อการแก้ไขสถานการณ์ที่ยุติธรรมและยั่งยืน

จากนั้นนายอันวาร์ได้เชิญ นาย ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาขึ้นแถลง

ที่มาภาพ:https://www.thaigov.go.th/gallery/contents/details/16661

นายฮุน มาเนตกล่าวว่า วันนี้เรามีการประชุมที่ดีและมีผลลัพธ์ที่ดีมาก ซึ่งหวังว่าจะยุติการสู้รบที่ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตและการบาดเจ็บจำนวนมากในทันที และยังทำให้ผู้คนต้องพลัดถิ่นจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายมีประชาชนที่ต้องอพยพจำนวนประมาณ 300,000 คน โดยเป็นฝ่ายกัมพูชา 140,000 คน และฝ่ายไทย 160,000 คน

เราหวังว่าแนวทางแก้ไขที่นายกรัฐมนตรีอันวาเพิ่งประกาศไป จะเป็นเงื่อนไขในการเดินหน้าการหารือทวิภาคีเพื่อกลับสู่ความสัมพันธ์ที่ปกติ และเป็นรากฐานสำหรับการลดระดับความรุนแรงในอนาคต

ในการนี้ ข้าพเจ้าขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมแห่งมาเลเซียสำหรับการเป็นเจ้าภาพการประชุมที่เร่งด่วนและทันท่วงทีนี้ รวมถึงความพยายามและความคิดริเริ่มส่วนตัวของนายกฯอันวาร์ ในการไกล่เกลี่ยการหยุดยิงโดยทันทีระหว่างกัมพูชาและไทยในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณอย่างมากต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สำหรับการไกล่เกลี่ยที่เด็ดขาดในวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 อีกด้วย

กัมพูชาตระหนักถึงความพยายามของสหรัฐอเมริกา และขอขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯที่จัดการประชุมครั้งสำคัญนี้เพื่อสนับสนุนสันติภาพ ข้าพเจ้าขอขอบคุณรัฐบาลจีนสำหรับสาธารณรัฐจีน และสำหรับความพยายามและการมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ซึ่งเป็นผลลัพธ์เชิงบวกตามที่เรามีในปัจจุบัน ข้าพเจ้าขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีภูมธรรมสำหรับบทบาทเชิงบวกของท่านในการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ที่เราได้มีร่วมกันในวันนี้ ซึ่งจะนำไปสู่ข้อตกลงที่จะยุติการสู้รบทันทีตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป และเปิดทางให้มีการประชุมกันระหว่างกองทัพกับกองทัพตั้งแต่เช้าพรุ่งนี้ โดยจะเริ่มจากการประชุมผู้บัญชาการภาคเวลา 07.00 น. เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่จะหารือหลัวงจากนี้กับผู้แทนจากทูตอาเซียน นำโดยมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนของเรา โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบภายหลังการประชุม นอกจากนี้ เราจะมีการประชุม GBC นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะเป็นเวทีที่ดีสำหรับการหารือเพิ่มเติมเพื่อกลับสู่ภาวะปกติ

ข้าพเจ้าขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับผลลัพธ์ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลลัพธ์ที่เราได้มาในวันนี้จะมอบโอกาสมากมายให้กับประชาชนหลายแสนคนทั้งสองฝ่าย เพื่อกลับสู่ภาวะปกติ และยุติการสู้รบระหว่างประเทศของเรา และเป็นเวลาที่จะเริ่มสร้างความไว้วางใจ ความเชื่อมั่น และความร่วมมือระหว่างกัมพูชาและไทยให้ก้าวไปข้างหน้า และขอขอบคุณอีกครั้ง นายกรัฐมนตรีอันวาร์

จากนั้นนายอันวาร์กล่าวเชิญนายภูมิธรรมขึ้นกล่าว

นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆว่า ข้าพเจ้าขอขอบคุณจากในจริงต่อนายกรัฐมนตรีอันวาร์ รัฐบาลจีน และประธานาธิบดีทรัมป์ สำหรับความเห็นที่ดีและความห่วงใย ผลการประชุมในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของประเทศไทยที่จะดำเนินนโยบายสันติ ขณะที่ยังคงปกป้องอำนาจอธิปไตยและชีวิตของประชาชนของเราต่อไป

เราตกลงที่จะหยุดยิงโดยมีมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าความตกลงการหยุดยิงดังกล่าวจะดำเนินอย่างลุล่วงโดยสุจริตใจจากทั้งสองฝ่าย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...