โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สำนักพุทธฯ ชง กม.คุ้มครองพระพุทธศาสนา เอาผิดทำเสื่อมเสีย

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 11 ก.ค. เวลา 15.28 น. • เผยแพร่ 11 ก.ค. เวลา 06.27 น. • สำนักข่าวไทย อสมท

11 ก.ค.- สำนักพุทธฯ เตรียมเสนอกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพิ่มโทษจำคุก 1-7 ปี และปรับ 20,000-140,000 บาท กับทั้งพระและฆราวาส เสพเมถุนจนปาราชิก ป้องปรามการทำผิด โดนทั้งกฎพระธรรมวินัยและอาญา

นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า วันนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เตรียมส่งร่างพระราชบัญ ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา ให้กับนายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา และว่าควรปรับปรุงส่วนใดบ้าง เนื่องจากเคยทำไว้แล้วเมื่อปี 2564-2565 เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน สีกากอล์ฟ น่าจะเป็นโอกาสที่จะนำร่างพ.ร.บ.นี้มาทบทวนอีกครั้ง

ในสาระสำคัญดังกล่าว พ.ร.บ.นี้จะมีบทลงโทษพระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิกหรือประพฤติลวงละเมิดพระธรรมวินัยให้จำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้สมัครใจเสพเมถุนกับพระภิกษุหรือสามเณร ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย โทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดทำให้พระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในพระธรรมวินัยต้องมีมลทินมัวหมอง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปีปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นต้น

เชื่อว่า เมื่อพุทธศาสนิกชนเห็นวิกฤติครั้งนี้ น่าจะให้ความสนใจว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวในการนำมาใช้ป้องและปราม ผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งมีความผิดทางพระธรรมวินัยแล้ว ยังโดยกฎหมายอาญาด้วย

อย่างไรก็ตาม ร่างพ.ร.บดังกล่าว เคยนำเสนอเมื่อปี 2564 – 2565 แต่เนื่องจากมีความเห็นที่หลากหลายในแวดวงกฎหมาย ที่ระบุว่าปัจจุบันพระสงฆ์เองก็มี ศีล 227 ข้อ ซึ่งเป็นตัวบทกฎหมายพระธรรมวินัยที่พระพุทธองค์บัญญัติไว้ แล้วมีกฎหมายบ้านเมืองอาญาที่ระบุเรื่องการทำผิดไว้แล้วน่าจะเพียงพอ แต่ตอนนี้โลกเปลี่ยนไป ศีล 227 ข้อเอาไม่อยู่ อย่างเหตุการณ์สีกา ก.ครั้งนี้ถือว่าเป็นซีรีส์และวิกฤติใหญ่ ซึ่งไม่เคยเห็นเหตุการณ์ใดใหญ่เท่าครั้งนี้

โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม จะนำเสนอให้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาว่าควรปรับปรุงส่วนใดบ้าง และขั้นตอนต่อไปคือ ตั้งคณะกรรมการทั้งฆราวาส ผู้แทนมหาเถรสมาคมมาร่วมพิจารณาปรับปรุงร่างต่อไป ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคมให้มติเห็นชอบ เพื่อเสนอร่างสู่สภา เข้าสู่กระบวนการทำขั้นตอนของกฎหมายต่อไป -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...