โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

แพท วงKlear เผยชีวิตสุดช้ำ วงเกือบแตกเพราะผู้ชายคนเดียว อึ้ง!ถูกหลอกให้เป็นมือที่สาม

ไนน์เอ็นเตอร์เทน

อัพเดต 23 ก.ค. เวลา 14.29 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. เวลา 07.29 น. • NineEntertain ข่าวบันเทิงอันดับ 1 ของไทย

นักร้องดัง แพท วง Klear หรือ แพท รัณนภันต์ เปิดใจผ่านรายการ เกิดมาเว่า เล่าถึงเส้นทางการเป็นนักร้อง กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เดินสายส่งเดโม่แต่ไม่มีค่ายไหนรับ พอได้เซ็นสัญญาอัลบั้มชุดแรกก็เจ๊งไม่เป็นท่า รักที่วาดฝันไว้พังทลาย ถูกหลอกให้กลายเป็นมือที่ 3 ไม่รู้ตัว เขียนเพลงเองจากทุกความเจ็บ

โดย แพท เล่าว่าแพทโตมากับครอบครัวที่เล่นกีตาร์ คุณพ่อคุณแม่ชอบร้องเพลง ตอนเด็ก ๆ ก็ร้องเพลงตามคาราโอเกะ ไม่รู้ว่าตัวเองร้องเพราะมั้ย รู้แค่ว่าร้องไม่เพี้ยน ตอนเรียนเป็นเด็กกิจกรรม เป็นนักกีฬา ตัวแทนร้องเพลง เป็นเชียร์ลีดเดอร์ด้วย แต่ก็ไม่ยอมให้การเรียนตก คิดว่าถ้าไม่ได้เป็นนักร้องก็คงเป็นสถาปนิก เพราะเรียนจบสถาปัตย์ และถ้าคุณพ่อแพทยังอยู่ วง Klear ไม่เกิดแน่นอน เพราะคุณพ่อมีบริษัทของตัวเองที่พัทยา แปลว่าเรียนจบแล้วยังไงก็คือต้องกลับไปทำงานสถาปนิกแน่นอน คำว่านักร้องไม่เคยอยู่ในหัวแพท เพราะว่าเราไม่สวย สมัยนั้นพิมพ์นิยมไม่ได้หลากหลายเหมือนทุกวันนี้ เราก็คิดว่าการที่จะไปเป็นดาราหรือไปเป็นนักร้อง ต้องมีหน้าตา รูปร่างที่ดี แต่เราเป็นเด็กตัวเล็ก ตัวดำ ตัวผอม มันเป็นปมตอนเด็ก ๆ ของเรา

ส่วนเส้นทางวง Klear เริ่มจากทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย เราไปแคสละครสถาปัตย์ แคสเสียง เขาจะให้ไปเป็นนางเอก แต่เรากลัวโดนบูลลี่ก็เลยออกมา ไปแคสเสียงไว้ให้ร้องเพลงละครคณะ พี่ที่เขาเป็นคนคุมเป็นพี่กีต้าร์วง Klear ทำวงขึ้นมาไปประกวดในมหาวิทยาลัย เขาหาคนร้องเพลง เราเดินผ่านเหมือนมีคนปล่อยคิว แต่งเพลงไปประกวดไม่ใช่เพลงที่มีอยู่ จนรวมได้เป็นอัลบัมแต่ไม่ได้เซ็นสัญญาที่ไหน ลงประกวดจนกว่าจะชนะ เปลี่ยนเวทีไปเรื่อย ๆ กระทั่งเรียนจบก็ไปยื่นเดโม่ที่ค่ายต่าง ๆ แต่ไม่มีใครเอาเลย เพราะว่าเขาบอกขายไม่ได้ หน้าตาไม่ดีด้วย สุดท้ายวงแตก แยกย้ายได้ 2 อาทิตย์แล้วก็มารวมกันใหม่ ไปซ้อมกันเล่น ๆ ที่ห้องพี่ต้า Paradox ซ้อมวันที่พี่ต้าอยู่พอดี เขาขอเดโม่และให้เงินไปทำอัลบั้ม ทำไปได้ครึ่งอัลบัม พี่ต้าต้องไปส่งงานที่ Genie Records แต่ไม่มีเดโม่ไปส่งเขา เพราะทำไม่เสร็จ แต่มีผลงานของวง Klear ซึ่ง Genie Records เป็นค่ายที่เราไม่ยื่นเพราะรู้สึกว่าเป็นค่ายที่ใหญ่เกินไป ตอนเย็นพี่ต้าก็โทรมาว่ามาอยู่กับพี่ แล้วได้ขึ้นคอนเสิร์ตของ Bodyslam แล้วก็ได้ออกอัลบัม ผลตอบรับอัลบั้มแรกคือ พังค่ะ เจ๊ง เพลงไม่ขาย ไม่เข้ากับตลาดเพลง พี่เขาให้โอกาสอีก 1 เพลง ถ้ารอดก็ไปกันต่อ เราเขียนเพลงเองมาตลอดและเป็นเพลงเศร้า จนวันหนึ่งได้มาลองเรียนเขียนเพลงกับพี่นิ่มสีฟ้า ลองเขียนเพลงรัก จนได้เพลง รักไม่ต้องการเวลา เพลงนี้ทำให้วงรอดชีวิตมาในตอนนั้น

ถามว่ามีประสบการณ์เกี่ยวกับความเจ็บปวดแบบที่แต่งในเพลงมั้ย เยอะค่ะ พูดได้เลยว่านอกเหนือจากแฟนคนแรกแล้วก็สามีคนปัจจุบันแล้ว นอกนั้นแย่หมดเลย หลังจากเสียคุณพ่อและเรื่องความรักที่ล้มเหลวหลายครั้ง บางความสัมพันธ์แย่มากจนเกือบเลิกทำวง เพราะแฟนเราไม่ชอบที่เราทำวง เขากดดันเราเยอะ เกือบถึงขั้นที่ต้องเลือกระหว่างวงกับเขา เราเลยตัดสินใจพักวงแล้วไปเรียนต่อ ตอนนั้นวงกำลังพีคเลยแต่ข้างในแพทคือพังทลายมาก เขาไม่ชอบให้เราร้องเพลง ไม่ชอบให้เราไปร้องเพลงร่วมกับผู้ชาย ฉะนั้น 90% ของเพลงและเอ็มวีเป็นเรื่องจริง เป็นการถ่ายทอดความเจ็บปวดและความรู้สึกที่เคยผ่านมาทั้งจากตัวเราและคนรอบข้างที่อกหักมา อย่างตอนทำ MV เพลงเจ็บให้ฟัง ทุกคนก็เล่าเรื่องของตัวเอง แพทก็เล่าเรื่องของแพท จนเอาไปทำเป็นเรื่องราวใน MV หลังจากคุณพ่อเสีย เราคบกันคนหนึ่ง เขาก็ไปรับไปส่งเราตอนทำงาน เราเจอกันทุกวัน มีรุ่นพี่มาทักว่าได้ยินว่าเขาแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ สุดท้ายก็มีเรื่องให้สงสัย เขาเป็นคนปิดมือถือตอนกลางคืน มีวันที่เรามีปัญหาตอนกลางคืนเราโทรหาเขาไม่ติด ปิดเครื่อง เขาให้เหตุผลว่าเขาเป็นคนหลับสนิท แต่หลัง ๆ เราทะเลาะกับเขา เลยพูดไปเลยว่ามีคนพูดแบบนี้จริงหรือเปล่า เขายอมรับแต่บอกว่าแยกกันอยู่กำลังจะหย่า

เราไม่ไหว เรารักมาก แต่ทำไมอยู่ดี ๆ เราถึงเป็นมือที่ 3 เราไม่โอเค ทะเลาะกันใหญ่โต จนกระทั่งเขาขอแต่งงาน แต่ก็ยังทะเลาะกันอยู่ดี คิดว่าสุดท้ายต่อให้ขอแต่งงานก็ยังทะเลาะกันอยู่ เราเลยเข้ากูเกิ้ลค้นหาชื่อเขา มันก็จะขึ้นที่อยู่เราก็เลื่อนดูไปเรื่อย ๆ จนเจอชื่อผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่เดียวกัน เขาทำงานในวงการเดียวกัน ซึ่งน่าจะใช่ เลยตัดสินใจขับรถไปที่คอนโดเขา พร้อมกับแหวนและสมุดที่เขียนด้วยกันไว้ ไปคืนฝากให้ผู้ชายคนนี้ แล้วรีเซฟชันคอนโดบอกว่าพี่ชายออกไปแล้ว แต่พี่ผู้หญิงอยู่ข้างบน จะขึ้นไปมั้ย เขาคงคิดว่าเราเป็นเพื่อน ในใจอยากขึ้นไปให้เอง หวังว่าเขาจะเปิดดูว่าของคืออะไร เพราะเราคิดว่าพี่ผู้หญิงควรได้รู้ความจริงเหมือนกับเรา เขาไม่ผิด เราก็ไม่ผิด ที่ผิดคือพี่ผู้ชาย เขาคู่ควรที่จะได้รู้ ไม่ควรโดนหลอกเหมือนกัน เราเลยขึ้นไปแล้วก็ยื่นถุงให้เขา ฝากให้พี่ผู้ชาย แต่ใน MV เราเพิ่มสีสันให้มีที่ตรวจครรภ์พร้อมกับแหวนไปด้วย”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

patklear

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...