เเค่นึกก็คันยิบๆ! หน้าฝนนี้ “ยุงลาย”มา โดนกัดปุ๊ปเสี่ยง 3 โรคนี้
ยุงลาย ตัวร้าย!
วันนี้(2 พ.ค.68) เวลา 08.30 น. เว็บไซต์ รัฐบาลไทย ได้ออกมาเตือนภัยประชาชนให้ระวัง เกี่ยวกับ “ยุงลาย” กับ 3 พาหะโรคร้ายที่มากับฤดูฝน ล่าสุด นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข เป็นห่วงประชาชนในช่วงหน้าฝน ฝนตก น้ำขัง ทำให้เป็นแหล่งขยายพันธุ์ของยุงลาย สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ โรคที่มากับยุง ทั้ง 3 โรค ได้แก่ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคชิคุนกุนยา (ไข้ปวดข้อยุงลาย) 3.โรคไวรัสซิกา ซึ่งโรคดังกล่าวทั้ง 3 โรคจะมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาทันที
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า โรคไข้เลือดออกจะเกิดจากไวรัสชนิดหนึ่ง ชื่อว่า “ไวรัสแดงกี” (Dengue Virus) จะมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ โดยไวรัสนี้ไม่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้โดยตรง แต่อาศัยยุงเป็นพาหะในการนำโรค ยุงที่สำคัญในการนำโรคไข้เลือดออก คือ “ยุงลาย” ในประเทศไทยจะมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ ยุงลายบ้าน และ ยุงลายสวน คนที่ถูกยุงกัดจะไม่ได้มีอาการทันที ยุงจะอาศัยระยะฟักตัว โดยทั่วไประยะฟักตัวจะอยู่ประมาณ 7 – 10 วัน ส่วนโรคซิคุนกุนยา หรือ โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ระยะฟักตัวอาศัยระยะเวลา 3 – 7 วัน ผู้ที่ป่วยจะมีไข้สูง ร่วมกับอาการปวดข้อ มักจะเกิดขึ้นพร้อมกันหลาย ๆ จุดในร่างกาย การรักษาจะรักษาตามอาการเช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออก แต่โรคนี้จะไม่มีระยะวิกฤติ ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ในการป้องกัน
ส่วนโรคไวรัสซิกา เกิดขึ้นจาก เชื้อไวรัสซิกา อาการของโรค ไม่รุนแรงมาก เช่น มีผื่นแดงตามตัว มีเยื่อบุตาขาวอักเสบ แต่ถ้าหากผู้ป่วยมีการตั้งครรภ์ (โดยเฉพาะไตรมาสแรก) อาจจะทำให้เกิดอาการรุนแรงได้ เพราะไวรัสสามารถผ่านจากแม่สู่ลูกในครรภ์ได้ ส่งผลให้ทารกพิการ หรือมีพัฒนาการช้า ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหรืออาจสูญเสียการมองเห็นหรือได้ยิน หากมีความกังวลแนะนำให้ปรึกษากับหมอสูติแพทย์เพื่อติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
ท้ายสุด นายคารม กล่าวว่า ทั้ง 3 โรค สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย แต่พบบ่อยในเด็กวัยเรียน และวัยทำงานตอนต้น ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่ออาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ เด็กทารก และผู้สูงอายุ มีภาวะอ้วน หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคเม็ดเลือดแดงแตกง่าย หรือโรคที่เกิดจากฮีโมโกลบินผิดปกติ ผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหอบหืด โรคหัวใจขาดเลือด โรคไตวาย โรคตับเรื้อรัง รับประทานยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือยาในกลุ่มยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ และรัฐบาลห่วงใยสุขภาพทุกคน ขอให้ป้องกัน อย่าให้ถูกยุงลายกัด เก็บกวาดสถานที่ไม่ให้มีน้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย สำหรับผู้ประกอบการ จัดสิ่งแวดล้อมไม่ให้ยุงลายมีที่วางไข่ กำจัดภาชนะกักเก็บน้ำชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงขยะเศษภาชนะ กล่องโฟม จานรองกระถางต้นไม้ หรือกาบใบไม้ใหญ่ๆ เป็นประจำทุกสัปดาห์ หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ช่วงนี้พยายามอย่าให้ยุงกัดนะคะ ส่งผลอันตรายมากค่ะ
ที่มา:เว็บไซต์ รัฐบาลhttps://www.thaigov.go.th/news/contents/details/97029