โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

" นฤมล " เปิดงาน ประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน

Khaosod

อัพเดต 12 มิ.ย. เวลา 07.41 น. • เผยแพร่ 12 มิ.ย. เวลา 07.11 น.

" นฤมล " เปิดงาน ประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน พร้อมหนุนอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ป้อนตลาดในประเทศ สร้างรายได้ให้เกษตรกร

วันที่ 12 มิ.ย. 2568 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานเปิดงาน “ ประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานและผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2568” ณ พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ทรงห่วงใยประชาชนคนไทยในพื้นที่ทุรกันดาร

ทรงส่งเสริมให้ชาวบ้านรวมตัวกันทำอาชีพเลี้ยงไหม รวมถึงส่งเสริมเกี่ยวกับกิจการหม่อนไหม จนปัจจุบันกลายเป็นอาชีพของชาวบ้านไปแล้ว โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ก็ได้สานต่องานของกรมหม่อนไหมจากสมเด็จย่าด้วย ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯได้ตั้งปณิธานว่า จะทำงานถวายให้กับทั้ง 2 พระองค์ เพื่อที่จะทำให้การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และการทอผ้าไหมดำรงอยู่คู่วิถีชีวิตของคนไทยต่อไป

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ โดยนำภูมิปัญญา เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาปรับใช้ในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรและชุมชน เพื่อให้สามารถพัฒนาและบริหารจัดการสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นได้อย่างยั่งยืน

โดยเฉพาะ “ผ้าไหมไทย” ซึ่งนับเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งการจัดการแข่งขันและประกวดในครั้งนี้ ถือว่ามีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการพัฒนาคุณภาพเส้นไหมและผ้าไหมไทย ให้ได้มาตรฐาน และเกิดแหล่งผลิตเส้นไหมและผ้าไหมที่มีคุณภาพสูง

ยังได้เน้นย้ำกรมหม่อนไหม ให้มีการส่งเสริมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อให้คนรุ่นใหม่ ประชาชนทั่วไปที่สนใจหันมาประกอบอาชีพหม่อนไหมมากขึ้น ผ่านนโยบาย "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" เนื่องจากจำนวนผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมีลดลง จากในอดีตที่มีประมาณ 100,000 ราย แต่ปัจจุบันพบว่ามีจำนวนประมาณ 87,000 ราย จึงต้องฝากไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยกันลงไปสนับสนุน

ขณะเดียวกัน ความต้องการรังไหมภายในประเทศยังคงสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการเส้นไหม จึงต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ หากมีการขยายอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมก็จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มสูงขึ้นให้เกษตรกร และยังเป็นการอนุรักษ์ และสืบทอดภูมิปัญญาด้านหม่อนไหมให้คงอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป

นายนวนิตย์ พลเคน อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า กรมหม่อนไหมได้จัดงานประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานและผลิตภัณฑ์หม่อนไหม อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้ดำรงอยู่ตลอดไป

และเพื่อยกย่องเชิดชูเยาวชน บุคคล ชุมชน และหมู่บ้านที่ผลิตผลงานที่มีคุณภาพ สามารถรักษาวิถีการผลิตเส้นไหม การทอผ้าไหม ให้คงอยู่คู่ชุมชนอย่างแข็งแรงและยังช่วยกระตุ้นภาคการผลิตให้ก้าวทันความต้องการของตลาดในปัจจุบัน

สำหรับผู้ชนะเลิศอันดับ 1 – 3 ในแต่ละประเภทจะได้รับโล่และเงินรางวัล พร้อมได้รับเกียรตินำผลงานไปจัดแสดงในงาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย” ประจำปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ก.ค. – 3 ส.ค. 2568 ณ อิมแพ็ค ฮอลล์ 6-7 เมืองทองธานี โดยจะมีพิธีมอบรางวัลพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ซึ่งการประกวดในปีนี้แบ่งออกเป็น 32 ประเภท ได้แก่ การแข่งขันสาวไหม 6 ประเภท การประกวดผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน 25 ประเภท และการประกวดสิ่งประดิษฐ์จากผ้าไหม 1 ประเภท โดยมีผลงานเข้าร่วมกว่า 800 ชิ้น จากเยาวชน เกษตรกร กลุ่มผู้ผลิตผ้าไหม และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์หม่อนไหมทั่วประเทศ นับเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมศักยภาพของผู้ผลิตไหมไทยให้ก้าวไกลสู่ตลาดสากล พร้อมธำรงไว้ซึ่งมรดกภูมิปัญญาไทยให้ยั่งยืนต่อไป

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : " นฤมล " เปิดงาน ประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...