ตรัง ชาวตรังอนุรักษ์ต้นมะไฟป่าในสวนยาง ต้นเดียวสร้างรายได้หลายพันบาท
ตรัง ชาวบ้าน ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ร่วมอนุรักษ์ผลไม้ป่าหายาก “มะไฟป่า” ไว้ในสวนยางพารา นอกจากได้กินในฤดูกาล ยังสร้างรายได้จากผลผลิตปีละหลายร้อยกิโลกรัม ขายกิโลละ 30 บาท เสริมรายได้ช่วงฤดูฝน ขณะผลไม้ป่าหลายชนิดเริ่มหายากจากการขยายพื้นที่เกษตรเชิงเดี่ยว
เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนของทุกปี ก็พบว่าไม้ผลทุกชนิดที่กำลังเจริญเติบโตและออกผลผลิต ก็จะเริ่มทยอยสุกให้สามารถเก็บกิน เก็บขายกันได้แล้ว ไม่เว้นแม้แต่ผลไม้ป่าที่สมัยก่อนจะพบเห็นได้โดยง่าย เพราะมีในทุกพื้นที่ แต่ปัจจุบันนี้ผลไม้ป่าเริ่มหายากมากขึ้น เมื่อมีไม้ผลทางเศรษฐกิจเข้ามาแทนที่ ประกอบกับประชาชนปรับพื้นที่ไปปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นๆแทน เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทำให้ผลไม้ป่าที่ขึ้นโดยทั่วไปก็ถูกตัดโค่นทิ้งไปด้วย
แต่ในพื้นที่ ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งมีสภาพพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ เพราะอยู่ติดกับเขตเทือกเขาบรรทัด ชาวบ้านหลายครัวเรือนที่เห็นถึงคุณค่าของผลไม้ป่าหายาก ยังได้พยายามอนุรักษ์ผลไม้ป่าเอาไว้ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชไว้ให้ลูกหลานสืบต่อไปไม่ให้สูญหาย สามารถมีผลไม้ป่าไว้กินตามฤดูกาล และกลายเป็นผลไม้ที่หายาก จึงสามารถขายสร้างรายได้ๆด้วย
โดยที่ในสวนยางพารา พื้นที่หมู่ 4 ต.ปากแจ่ม ของนายวิชัย นุ้ยขาว และนางพิมธนัท สุดฉิม สองสามีภรรยา ก็ได้เว้นต้นมะไฟป่าที่มีอยู่เพียงจำนวน 1 ต้น บริเวณริมสวนยางพาราเอาไว้โดยไม่ตัดโค่นทิ้ง ปรากฏว่าในปีนี้ออกผลดกเต็มต้น และกำลังสุกเหลืองอร่ามมองเห็นตั้งแต่ระยะไกล โดยเจ้าของก็ยืนยันว่า พยายามรักษาสายพันธุ์เอาไว้ เพื่อได้มีผลไม้ชนิดนี้ไว้เก็บกินตามฤดูกาล เพราะตอนนี้หากินยากอย่างมากแล้ว ปรากฏว่ามีคนติดต่อมาขอซื้อไม่ขาดสาย จึงปีนเก็บเองด้วย และให้คนมาปีนเก็บให้ โดยจะเอาแจกบ้าง ขายบ้าง โดยจะวางขายหน้าบ้านในราคากก.ละ 30 บาท เพียงต้นเดียวได้หลายร้อยกิโลกรัม ซึ่งปีที่ผ่านมาไม่ได้เก็บขาย เพราะมีคนมาแอบเก็บไปก่อน
ทางด้านคุณลุงสุวรรณ คงแก้ว อายุ 65 ปี ชาวต.ปากแจ่ม ซึ่งร่างกายแข็งแรง ยังสามารถปีนขึ้นไปเก็บผลมะไฟป่าได้อย่างคล่องแคล่ว บอกว่า แค่ต้นนี้ต้นเดียวได้ประมาณ 300-400 กก. เพราะดกมาก รสชาติของมะไฟป่าจะออกหวานอมเปรี้ยว แต่หากผลสุกเต็มที่จะออกหวานมาก ซึ่งต้นมะไฟป่ายังหาได้ในพื้นที่ตำบลปากแจ่ม แม้จะมีไม่มากนัก เพราะยังมีเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของสวนบางรายพยายามเว้นเอาไว้ไม่ตัดโค่นทิ้ง เพื่ออนุรักษ์เอาไว้ให้ลูกหลานได้เห็น และได้เอาไว้กินเมื่อถึงฤดูกาล ทั้งนี้ ในปัจจุบันถ้าเหลือกิน เหลือแจก ก็สามารถขายได้ด้วย เพราะเป็นผลไม้ป่าหายาก โดยเฉพาะคนในเมืองจะไม่มีให้เห็นแล้ว
สำหรับต้นนี้ต้นเดียว คาดทำรายได้เสริมให้เจ้าของได้ไม่ต่ำกว่าไม่ต่ำกว่า 9,000 บาท