3 สัญญาณเตือน เข้าสู่วัยทอง แนะ 5 เคล็ดลับหญิงวัย 45 รับมือ
The Bangkok Insight
อัพเดต 19 ต.ค. 2565 เวลา 00.01 น. • เผยแพร่ 19 ต.ค. 2565 เวลา 00.01 น. • The Bangkok Insightเผย3 สัญญาณอาการเตือนเข้าสู่วัยทอง แนะ5 เคล็ดลับเตรียมรับมือหรือขอรับคำปรึกษาและตรวจสุขภาพวัยทอง
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่18 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีวัยทองโลก(World Menopause Day) เพื่อรณรงค์ให้สตรีที่มีอายุ45 ปีขึ้นไปให้ความสำคัญและตระหนักในการเตรียมความพร้อมดูแลสุขภาพตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพของสตรีในช่วงใกล้หมดและหลังหมดประจำเดือน ซึ่งในช่วงอายุ45 - 55 ปี เมื่อย่างเข้าสู่วัยทองจะพบการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย โดยเฉพาะการทำงานของรังไข่ที่สร้างฮอร์โมนเพศหญิงลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ จนถึงหมดประจำเดือน ถ้าประจำเดือนขาดหายไปครบ1 ปี แสดงว่ารังไข่ ได้หยุดทำงานแล้ว ถือว่าได้เข้าสู่วัยทองอย่างสมบูรณ์ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา
3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง
- จะมีอาการร้อนวูบวาบตามตัวและหน้าอก อารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดเหงื่อออกมากโดยเฉพาะเวลากลางคืน
- ช่องคลอดแห้งผิวหนังแห้งปัสสาวะบ่อยหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่นอนไม่หลับความต้องการและความรู้สึกทางเพศลดลง
- โรคที่เกิดจากความเสื่อมถอยของร่างกายตามอายุ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะอ้วนลงพุง ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ภาวะดื้อต่ออินซูลิน และโรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
การดูแลสุขภาพเพื่อรับมือกับการเข้าสู่สตรีวัยทอง5 วิธี
1) กินอาหารให้ครบ5 หมู่ และเน้นกินอาหารที่มีแคลเซียมสูงอาทินม โยเกิร์ตงาขาว งาดำ ปลาเล็กปลาน้อยผักใบเขียว เป็นต้น แคลเซียมที่รับเข้าไปจะเป็นตัวเสริมสร้างกระดูก เพื่อป้องกันภาวะกระดูกพรุนและกินอาหารที่มีไฟโตเอสโตรเจนได้แก่ถั่วเมล็ดแห้งโดยเฉพาะถั่วเหลืองหรือผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองในปริมาณพอเหมาะจะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบของสตรีวัยหมดประจำเดือนได้
2) ลดอาหารประเภทแป้งอาหารมันอาหารทอดอาหารเค็มน้ำหวานชากาแฟหรืออาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเพราะอาจทำให้อารมณ์แปรปรวนและกระวนกระวายมากขึ้นนอกจากนี้ยังช่วยควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิดภาวะอ้วนลงพุงป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดโรคความดันโลหิตสูงรวมทั้งควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
3) ออกกำลังกายเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและให้ร่างกายได้รับแสงแดดบ้างเพื่อช่วยในการสร้างวิตามินดีซึ่งมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเช่นเดินเร็วปั่นจักรยานว่ายน้ำโยคะรำมวยจีนเมื่ออายุมากขึ้นไม่ควรออกกำลังกายที่ใช้แรงกระแทกโดยเฉพาะข้อเข่าที่รับน้ำหนักมากอาจเป็นสาเหตุของข้อเข่าเสื่อม
4) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ6 - 8 ชั่วโมง จะช่วยเพิ่มความจำ ทำให้มีสุขภาพดี มีอายุยืนยาว
5) รู้จักผ่อนคลายความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส
“ทั้งนี้ หากพบว่าอาการดังกล่าวมีความรุนแรงขึ้นหรือมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน สามารถเข้ารับบริการคลินิกวัยทอง คลินิกส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งจะมีบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาการวัยทอง และให้บริการตรวจร่างกายทั่วไป เช่น ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต ตรวจน้ำตาลและไขมันในเลือด ตรวจความหนาแน่นของกระดูก ตรวจมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม เพื่อประเมินอาการ รับคำแนะนำแนวทางการป้องกัน รักษา และดูแลตนเองที่ถูกต้อง ตามความเหมาะสมต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม