Consumer Finance กำลังจะผลักดันการเติบโตของ SCB
ตั้งแต่การเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ของ"ธนาคาร" SCB ไปเป็น SCBX
จากกลุ่มโตช้าแต่มีความมั่นคง ไปสู่การเติบโตรอบใหม่อย่างมีคุณภาพ
อาจจะยังไม่ชัดเจนมากเท่าไรนัก เมื่อดูจากราคาหุ้นที่ "แทบจะไม่ไปไหน" เลย
ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทำให้ตลาดยังสงสัยอยู่ว่า SCB จะมุ่งไปสู่ทิศทางไหน และการเติบโตรอบใหม่ คืออะไร ?
ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBB) ประกาศจ่ายปันผล 6 หมื่นล้ายให้กับ SCB ที่เป็น Holding ทำให้บริษัทจะใช้เงินทุนปรับโครงสร้างธุรกิจ และเริ่มเพิ่มทุนให้กับบริษัทย่อยใหม่ๆที่มีศักยภาพเติบโตสูง โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ คือ
1. Core Banking Services
… ธุรกิจเดิม ธนาคาร สถาบันการเงิน ที่ปรึกษาทางการลงทุน ประกันชีวิต
2. Consumer Finance & Digital Financial Services
… สินเชื่อเพื่อการบริโภค และการบริการทางการเงินดิจิทัล เช่น CardX, AutoX, alphaX, SCB Abacus
3. Digital Platform & Tech Services
… การลงทุนใน Tech Startup, SCB10X, Robinhood, TokenX
ประเด็นคือ ใน 3 ธุรกิจที่กล่าวมา กลุ่มไหน คือกลุ่มที่น่าจะโดดเด่นที่สุดในช่วง 3 ปีแรก
คำตอบ คือ กลุ่มที่ 2 หรือ Consumer Finance
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า วิเคราะห์ว่า 3 ปีแรก Consumer Finance จะเป็นพระเอกที่ช่วยเพิ่ม ROE ให้กับ SCB
โดย 3 กลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจ คือ CardX, SCB ABACUS และ AUTOX
1. CardXคือ ธุรกิจบัตรเครดิตที่จะรับโอนพอร์ตสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลมาจากธนาคาร SCB ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท มากกว่าบริษัทบัตรเครดิตที่เป็น Non-Bank อย่าง KTC และ AEONTS
… บทวิเคราะห์คาดว่า จะช่วยหนุนให้ธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของ SCB มี Asset Yield และพอร์ตสินเชื่อที่ใหญ่ขึ้น และทำให้ ROE ของธุรกิจเร่งขึ้นจนแตะระดับ 20%
2. SCB ABACUS และ MONIX คือ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ผ่านช่องทาง Digital Platform โดยใช้ AI และ Big Data เข้ามาช่วยในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อแทนการพิจารณาสินเชื่อแบบปกติของธนาคาร
… โดย SCB ABACUS จะให้บริการผ่าน Application "เงินทันเด้อ" เน้นลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการบน Platform ของพันธมิตรอย่าง Lazada และ Food Panda หรือ Platform ของ SCB เองอย่าง Robinhood
… ขณะที่ MONIX จะให้บริการผ่าน Application "FINNIX" เน้นลูกค้ารายย่อยที่ต้องการหาสินเชื่อเงินด่วน ซึ่งที่ผ่านมาแม้พอร์ตสินเชื่อจะไม่ใหญ่มาก แต่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถคิดดอกเบี้ยสูงสุดได้ถึง 33% ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์เดิม
3. AUTOX คือ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถภายใต้แบรนด์ "เงินไชโย" ซึ่งมีรูปแบบการทำธุรกิจคล้ายกับ
SAWAD และ MTC
โดยจุดเด่นของ "เงินไชโย" คือมีกระบวนการอนุมัติเงินที่รวดเร็ว มีการใช้เทคโนโลยีของกลุ่มเข้าไปเสริมระบบการทำงาน และเป็นผู้ประกอบการไม่กี่รายที่ให้บริการ Cash Card (เปิดวงเงินให้ลูกค้าถอนใช้เงินสดผ่านตู้ธนาคารได้ตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติ)
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบ ROE ของผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง SAWAD และ MTC อยู่ในระดับ 18-20%
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า มองว่า ธุรกิจทั้ง 3 ข้างต้นจะผลักดันการเติบโตในอีก 3 ปีข้างหน้า และคาดว่าจะเป็นการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างรายได้ดอกเบี้ยสูงให้กับ SCB
ส่วนการเติบโตระยะยาวจะมาจากกลุ่มธุรกิจ Fintech ซึ่งจะเริ่มเห็นผลลัพธ์มากขึ้นในอนาคต …
ถือเป็นหุ้นอีกตัวที่นักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิดครับ …
------------------------------------------------
Reference