โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

หวนรวมเป็นหนึ่ง “รูปปั้นเทพเจ้า” กลับมาประกอบร่าง-หลังถูกแยกฝังกว่า 3,000 ปี

Khaosod

อัพเดต 17 มิ.ย. 2565 เวลา 04.36 น. • เผยแพร่ 17 มิ.ย. 2565 เวลา 02.58 น.

หวนรวมเป็นหนึ่ง “รูปปั้นเทพเจ้า” กลับมาประกอบร่าง-หลังถูกแยกฝังกว่า 3,000 ปี

หวนรวมเป็นหนึ่ง - ซินหัว คณะนักโบราณคดีของจีนยืนยันความสำเร็จของการประกอบประติมากรรมสัมฤทธิ์ซึ่งขุดพบเมื่อไม่นานนี้ที่ ซากโบราณซานซิงตุย มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ ประเทศจีน ซึ่งเป็นการประกอบเข้ากับอีกหนึ่งชิ้นส่วนสัมฤทธิ์ที่ขุดพบก่อนหน้านี้ ทำให้ประติมากรรมที่ถูกแบ่งแยกเมื่อราว 3,000 ปีก่อน รวมเป็นหนึ่งอีกครั้ง

ประติมากรรมสัมฤทธิ์อันวิจิตรงดงามนี้มีส่วนหัวคล้ายศีรษะมนุษย์และลำตัวคล้ายงู พร้อมดวงตาปูดโปน งา และเขา สำหรับบริเวณเหนือส่วนหัวเป็น “จุน” หรือภาชนะใส่เหล้าองุ่นโบราณ รูปทรงคล้ายแตรสีชาด บริเวณใต้ส่วนมือเป็น “เหลย” หรือภาชนะใส่เหล้าองุ่นโบราณ รูปทรงเหยือกฐานสี่เหลี่ยม

“รูปปั้นเทพเจ้า” กลับมาประกอบร่าง-หลังถูกแยกฝังกว่า 3,000 ปี

A successfully matched bronze sculpture that depicts a human-head, snake-body, and bird-claw figure, in southwest China's Sichuan Province. (Photo by Lu Haizi/Xinhua)

รายงานระบุว่าประติมากรรมส่วนลำตัวถูกขุดพบจากหลุมบูชายัญ หมายเลข 8 เมื่อเร็วๆ นี้ ขณะที่ชิ้นส่วนสัมฤทธิ์ซึ่งขุดพบก่อนหน้ามาจากหลุมบูชายัญ หมายเลข 2 เมื่อปี 2529 โดยชิ้นส่วนอันไม่สมบูรณ์สวมผ้านุ่งแนบลำตัวลายเมฆและมีขาพร้อมกรงเล็บนก 2 ข้าง ซึ่งคณะนักโบราณคดีสันนิษฐานว่าประติมากรรมศีรษะมนุษย์ ลำตัวงู และกรงเล็บนกนี้อาจเป็นรูปปั้นเทพเจ้า

นายหร่าน หงหลิน เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยโบราณวัตถุและโบราณคดีมณฑลซื่อชวน กล่าวว่าชิ้นส่วนจากหลุมต่างๆ ที่ประกอบเข้ากันพอดียืนยันข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ของคณะนักโบราณคดี และยังมีนัยสำคัญยิ่งยวดต่อการบูรณะโบราณวัตถุจากซากโบราณซานซิงตุย คาดว่าอาจมีการประกอบชิ้นส่วนสัมฤทธิ์ลักษณะนี้เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

“รูปปั้นเทพเจ้า” กลับมาประกอบร่าง-หลังถูกแยกฝังกว่า 3,000 ปี

A successfully matched bronze sculpture that depicts a human-head, snake-body, and bird-claw figure, in southwest China's Sichuan Province. (Photo by Lu Haizi/Xinhua)

การบูรณะโบราณวัตถุชิ้นใหม่นี้ยังบ่งชี้ว่าหลุมบูชายัญ 2 หลุม ถูกขุดขึ้นพร้อมกัน และประติมากรรมสัมฤทธิ์นี้ถูกแยกเป็นสองส่วนก่อนฝัง ซึ่งนับเป็นองค์ความรู้อันมีคุณค่าต่อการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ตามลำดับเวลาของหลุมบูชายัญแต่ละหลุม เหตุผลของการทำลายโบราณวัตถุ และภูมิหลังทางสังคมในขณะนั้น

ทั้งนี้ ซากโบราณซานซิงตุย ซึ่งถูกยกย่องเป็นหนึ่งในสุดยอดการค้นพบทางโบราณคดีอันยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกแห่งศตวรรษที่ 20 ถูกค้นพบช่วงปลายทศวรรษ 1920 ครอบคลุมพื้นที่ 12 ตารางกิโลเมตร ณ เมืองกว่างฮั่น มณฑลซื่อชวน โดยมีการคาดการณ์ว่าซากโบราณแห่งนี้ตกทอดมาจากอาณาจักรสู่ซึ่งมีความเก่าแก่ราว 3,000-4,500 ปี

เมื่อปี 2529 คณะนักโบราณคดีค้นพบโบราณวัตถุล้ำค่าหลายพันชิ้นจากหลุมบูชายัญ หมายเลข 1 และหมายเลข 2 อาทิ คทาทองคำ และต้นไม้สัมฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งปลุกกระแสความสนใจจากทั่วโลก ต่อมามีการขุดค้นหลุมบูชายัญเพิ่ม 6 หลุม ตั้งแต่ปี 2563 โดยปัจจุบันมีการค้นพบโบราณวัตถุมากกว่า 50,000 ชิ้น อาทิ เครื่องสัมฤทธิ์ หยก เครื่องทอง เครื่องปั้นดินเผา และวัตถุทำจากงาช้าง

“รูปปั้นเทพเจ้า” กลับมาประกอบร่าง-หลังถูกแยกฝังกว่า 3,000 ปี

Part of a successfully matched bronze sculpture that depicts a human-head, snake-body, and bird-claw figure, in southwest China's Sichuan Province. (Photo by Lu Haizi/Xinhua)

“รูปปั้นเทพเจ้า” กลับมาประกอบร่าง-หลังถูกแยกฝังกว่า 3,000 ปี

A bronzeware part that was unearthed from the No. 2 sacrificial pit in 1986 at the Sanxingdui Ruins site in southwest China's Sichuan Province. (Sanxingdui Museum/Handout via Xinhua)

หวนรวมเป็นหนึ่ง

Scattered parts of a newly unearthed bronze sculpture at the No. 8 sacrificial pit at the Sanxingdui Ruins site in southwest China's Sichuan Province. (Xinhua/Shen Bohan)

หวนรวมเป็นหนึ่ง

Scattered parts of a newly unearthed bronze sculpture at the No. 8 sacrificial pit at the Sanxingdui Ruins site in southwest China's Sichuan Province. (Xinhua/Shen Bohan)

หวนรวมเป็นหนึ่ง

Scattered parts of a newly unearthed bronze sculpture at the No. 8 sacrificial pit at the Sanxingdui Ruins site in southwest China's Sichuan Province. (Xinhua/Shen Bohan)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...