"อดิศร เพียงเกษ" เปรียบเพื่อไทย - ก้าวไกล มัดกันเป็นข้าวต้ม ย้ำ "พิธา"ต้องได้เป็นนายกคนที่ 30 เชื่อสว. จะอยู่ข้างประชาชน
(9ก.ค.66) เวลา 09.00 น. นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาระบุว่า พรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ซึ่งเรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตยเราได้มัดกันเป็นข้าวต้ม โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล โดยมีประชาชนเหมือนตอกไม้ไผ่
.
นายอดิศร กล่าวว่า ซึ่งพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล จะต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ในบรรดาพรรคที่ไม่ได้เสียงเกินครึ่งไม่ถึง 250 เสียง แต่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้มีการทำ MOU กันได้ 312 เสียง ยืนยันว่าจะไม่มีการแตกเสียงกัน อย่างที่ผ่านมาที่มีการเลือกประธานสภา ทุกคนก็ได้ลงเสียงเดียวกันที่เลือกนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
.
นายอดิศร กล่าวต่อไปว่าโดยนายพิธานั้น เป็นคนหนุ่มอายุ 42 ปี ได้รับการเลือกจากประชาชนที่จะให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ที่ผ่านมาคนไทยขาดคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศมานานแล้ว กว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเสียโอกาสและเศรษฐกิจของประเทศไม่ดี
.
"การที่นายพิธาจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะเข้ามากอบกู้เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่มีเสียง ส.ส. จำนวน 141 เสียง" นายอดิศร กล่าว
.
นายอดิศร เพียงเกษ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 13 ก.ค. ที่จะมาถึงจะมีการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 1 โดยรัฐสภามี สมาชิกวุฒิสภากับสภาผู้แทนราษฎรรวม 750 คน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เรียกได้ว่า "เลว" มากที่สุด เพราะมีการให้สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. มาเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีได้
.
นายอดิศร กล่าวด้วยว่า ซึ่งตนเองได้มีการพูดคุยกับ สว. บางคนแล้ว โดยอยากให้ ส.ว. ทุกคน ได้เคารพถึงประชาชน ที่ได้มีการเลือกตั้ง ส.ส. เข้ามา วุฒิสภาจึงจะได้รับความน่าเชื่อถือจากพี่น้องประชาชน แม้ว่ายังมี ส.ว.บางคน ที่ให้เหตุผลจะไม่เลือกนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีความชอบส่วนตัว
.
นายอดิศร กล่าวต่อไปอีกว่า ตนได้ยกมือไหว้พร้อมบอกว่าสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะ ก็ควรจะไม่ต้องตั้งข้อสงสัยอะไรมากมาย เพราะประชาชนได้ตัดสินไปแล้วอย่าไปสวนทาง เพราะผู้พิพากษาที่ตัดสินไปก็คือประชาชน
.
"ท่านจะมาทำตัวใหญ่กว่าประชาชนไม่ได้ หากทำตัวใหญ่กว่าประชาชน เชื่อได้เลยว่า ส.ว. จะไม่มีที่อยู่" นายอดิศร กล่าว
.
นายอดิศร บอกด้วยว่า ตนเองหวังว่า ส.ว. จะเห็นแก่การเติบโตของระบอบประชาธิปไตย เพราะ ส.ว.ทั้ง 250 คน นั้นไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง โดยตนเองเชื่อว่า ส.ว. หลายคนที่ตนเองรู้จักเป็นเพื่อนกัน ซึ่งติดใจเรื่อง ม.112 ทำให้ทาง ส.ว. จะเลือกนายพิธาโดยไม่มีเงื่อนไข โดยนายพิธา จะต้องมีการไปตอบคำถามเรื่อง ม.112 นี้ให้ได้
.
นายอดิศร กล่าวอีกว่า ซึ่งในเร็ว ๆ นี้จะมีการชุมชนของ FC พรรคก้าวไกลที่เซ็นทรัลเวิลด์ จะส่งผลสร้างความพอใจให้กับ ส.ว. หรือ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องของทางพรรคก้าวไกล เพราะต่อไปก็คือการที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งจบไปแล้วแต่ลากตั้งไม่จบ
.
"ตนเองได้แต่หวังว่าบ้านเมืองจะต้องเดินหน้าไปเสียที เพราะประชาชนหวังว่า อยากมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพราะที่ผ่านมาต้องทนการบริหารงานของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มากว่า 10 ปี ขณะนี้ถึงเวลาปลดโซ่ตรวนซึ่งประชาชนได้ตัดสินไปแล้ว" นายอดิศร กล่าว
.
เพจ:ข่าวเวิร์คพอยท์ https://www.facebook.com/NewsWorkpoin