โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ตามไปดู 9 (ไม้)ป่าเดียวกันในไทย ดูรูปก็สวยแล้วแต่ของจริงสวยยิ่งกว่า!

ONCE

อัพเดต 23 ก.พ. 2566 เวลา 00.02 น. • เผยแพร่ 23 ก.พ. 2566 เวลา 00.02 น.

ผืนป่าธรรมชาติมีเสน่ห์มัดใจนักท่องเที่ยวได้เสมอ ซึ่งสถานที่หลายแห่งมีความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ชนิดที่แฟนพันธุ์แท้นักเดินทางเห็นภาพปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเป็นที่ไหน สำหรับเมืองไทยมีแหล่งเที่ยวธรรมชาติสวยๆ ให้ไปสัมผัสมากมายหลากหลายรูปแบบ

ONCE คัดสรร 9 ป่าเดียวกันของไทยที่พิเศษไม่เหมือนใคร มากระตุ้นให้นักเดินทางผู้หลงใหลธรรมชาติ ต้องออกไปตามรอย

ป่าตะบูนโบราณ บ้านท่าระแนะ จังหวัดตราด

รากไม้ยาวคดเคี้ยวเกี่ยวพันกันหนาแน่นเป็นลานกว้างสามารถลงไปเดินได้ ไม่ใช่ฉากในเทพนิยายเรื่องไหน แต่เป็นธรรมชาติของจริงที่บ้านท่าระแนะ ซึ่งซ่อนความมหัศจรรย์ของ ‘ต้นตะบูน’ เป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวที่ถูกยกให้เป็นอันซีนเมืองตราด

ลานกว้างที่เกิดจากรากของต้นตะบูนโบราณอายุหลายร้อยปี สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้มาเยือน และเป็นเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่นในเมืองไทย ชาวบ้านในชุมชนช่วยกันอนุรักษ์เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวจนเคยได้รับรางวัลป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์ระดับประเทศมาแล้ว โดยระหว่างทางการล่องเรือไปยังป่าตะบูนโบราณ ยังเต็มไปด้วยป่าโกงกางและต้นจาก มอบอรรถรสของการเดินทางไปเจอความลับที่ซุกซ่อนในผืนป่าดึกดำบรรพ์

ช่วงเวลาแห่งความงาม: ฤดูร้อน เดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงที่ปริมาณน้ำไม่มาก สามารถเห็นรากต้นตะบูนได้ชัดเจน

ภาพ : Shutterstock

ป่าเสม็ดโบราณ สวนพฤกษศาสตร์ จังหวัดระยอง

พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในภาคตะวันออกแห่งนี้ จะทำให้ลืมไปเลยว่าอยู่ในจังหวัดระยอง เพราะทัศนียภาพรอบตัวเสมือนดินแดนที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มีเพียงเสียงกระซิบจากผืนป่า และเสียงเหล่าปักษานานาชนิดที่โผบินเกาะไปตามกิ่งยอดของต้นเสม็ด

“ต้นเสม็ด” อายุนับพันปีที่สันนิษฐานว่าเคยเป็นพื้นที่น้ำเค็มมาก่อน เบียดเสียดกิ่งก้านกันเป็นป่าทึบอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำ และยังมีไฮไลท์เด็ดอย่าง “หญ้าหนังหมา” หรือแพหญ้าที่ปรับตัวกับสภาพธรรมชาติจนกลายเป็นผืนหญ้าขนาดใหญ่ลอยน้ำ สามารถขึ้นไปยืนได้สบายๆ โดยการสำรวจให้ได้อรรถรสที่สุดต้องล่องเรือไปในพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้ เพื่อค้นพบความมหัศจรรย์ของป่าโบราณอันน่าทึ่ง

ช่วงเวลาแห่งความงาม: ล่องเรือไปช่วงสาย หรือเย็น จะได้ไม่ร้อนเกินไป ในช่วงฤดูฝน สวนพฤกษศาสตร์มีปริมาณน้ำมาก ทั้งสวยลึกลับและได้ความตื่นเต้น

ภาพ : Shutterstock

ป่าสน สวนป่าดอยบ่อหลวง จังหวัดเชียงใหม่

ถ้าสวนสนบ่อแก้วของเชียงใหม่ เป็นป่าสนท่องเที่ยวในยุคบุกเบิก “สวนสนดอยบ่อหลวง” ในอำเภอฮอด ก็เป็นอีกจุดหมายที่มาสานต่อตำนานความงดงามแห่งป่าสน ที่มอบบรรยากาศสุดว้าวราวกับอยู่ต่างประเทศ

สวนป่าดอยบ่อหลวง ในความดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ มอบความสวยชวนตะลึงของต้นสนสามใบที่สูงหลายสิบเมตรเรียงรายกันนับร้อยนับพันต้น บนพื้นที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่าพันเมตร ทั้งสภาพอากาศและทิวทัศน์นั้นราวกับเป็นประเทศเมืองหนาว โดยเฉพาะความพิเศษของการเปิดพื้นที่ให้พักแรม ไม่ว่าจะนอนอุ่นๆ ในบ้านทรงเอเฟรมแสนจะน่ารัก หรือกางเต็นท์ใต้แสงดาวและเงาสน

ช่วงเวลาแห่งความงาม: ด้วยสภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และวิวป่าสนที่สวยเกินบรรยาย ไปเมื่อไหร่ก็สวยเมื่อนั้นล่ะ!

ภาพ : Shutterstock

ทุ่งโปรงทอง จังหวัดระยอง

พื้นที่ป่าชายเลนกว่า 6,000 ไร่ ละลานตาไปด้วยสีเขียวอ่อนอมเหลืองของต้นโปรง โดยมีสีเขียวเข้มของต้นโกงกางสลับเฉดสีอยู่รอบนอก และเมื่อใบโปรงสัมผัสแดดแจ่มจ้า ก็เปลี่ยนให้ท้องทุ่งกว้างมีสีสันอร่ามตาจนได้รับการขนามนามว่า ทุ่งโปรงทอง

ท้องทุ่งแบบป่าชายเลนแห่งนี้ เติบโตอยู่ในพื้นที่ปากน้ำประแส อำเภอแกลง มีสะพานไม้เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1 กิโลเมตร ให้เดินเข้าไปสัมผัสความสวยงามของพืชพรรณป่าชายเลนได้อย่างใกล้ชิด และมีระเบียงชมวิวในมุมสูงซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นความงามของท้องทุ่งต้นโปรงที่โอบล้อมอยู่รอบทิศได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

ช่วงเวลาแห่งความงาม: เวลาบ่ายในวันที่ฟ้าเป็นใจ จะสัมผัสความหมายของทุ่งโปรงทองได้ชัดเจน

ภาพ : Shutterstock

อุโมงค์ต้นยางพารา จังหวัดนครศรีธรรมราช

หลายปีก่อน คงไม่มีใครคาดคิดว่าในวันหนึ่ง “สวนยางพารา" พืชเศรษฐกิจที่อยู่คู่เมืองไทยมานานจนชินตาจะกลายเป็นสถานที่เช็คอินสุดฮิตของนักท่องเที่ยว เพราะด้วยลักษณะของลำต้นสูงเรียว การปลูกเว้นระยะอย่างเป็นระเบียบ และสีสันชอุ่มเขียวดึงดูดสายตา เกิดเป็นมุมสวยถ่ายรูปได้เก๋ๆ ไม่แพ้โลเคชั่นอื่นๆ

หนึ่งในสวนยางพาราโดดเด่น ลองแวะไปที่เส้นทางสู่ถ้ำเขาวังทอง อำเภอขนอม ซึ่งมีถนนตัดผ่านสวนยางระยะทางประมาณ 500 เมตร โอบขนาบด้วยความร่มรื่นของต้นยางพาราสูงชะลูด ส่วนปลายของต้นยางทั้งสองฝั่งถนนโน้มเข้าหากันคล้ายอุโมงค์ ลองนึกถึงช่วงเวลาที่แสงแดดลอดผ่านกิ่งก้านลงมาก็ยิ่งเพิ่มความงามให้กับอุโมงค์ต้นยางพาราได้อีกเป็นเท่าตัว

ช่วงเวลาแห่งความงาม: ช่วงเช้าฤดูฝน อาจได้สายหมอกในสวนยาง ส่วนช่วงสายหรือบ่ายแก่ๆ ในวันอากาศแจ่มใส จะได้แสงแดดสวยๆ ลอดผ่านอุโมงค์

ภาพ : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส

ได้ชื่อว่าเป็น ป่าพรุผืนสุดท้ายของประเทศไทย ความยิ่งใหญ่ของผืนป่าดงดิบผสมพื้นที่น้ำท่วมขังอันเป็นนิยามของ “ป่าพรุ” ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่าแสนไร่ใน 4 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส และประกาศสถานะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งการอนุรักษ์มาแล้วกว่าสองทศวรรษ โดยมีชื่อทางการว่า “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” หรือ ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร

ระบบนิเวศของป่าพรุโต๊ะแดงมีความหลากหลายและซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็น “ดิน” ที่ทับถมจากซากพืชกลายเป็นชั้นดินที่หนาและปกป้องระบบนิเวศ “น้ำ” ที่ท่วมขังตลอดทั้งปี แต่ก็มีการไหลเวียนเป็นดั่งเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงผืนป่า หรือ “พืชและสัตว์” นานาชนิดที่อาศัยอยู่ในป่าพรุ ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน แมลง และนกนับร้อยสายพันธุ์

ช่วงเวลาแห่งความงาม: เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เป็นช่วงที่ฝนตกน้อยที่สุด เหมาะแก่การสำรวจป่าพรุ

ภาพ : Shutterstock

ป่าโกงกาง 200 ปี จังหวัดระนอง

เป็นความโชคดีของชาวระนอง ที่ผืนป่าชายเลนริมฝั่งอันดามันในชุมชนหงาว ถูกกำหนดให้เป็นเขตปลอดการทำสัมปทานไม้มาตั้งแต่ยุคอดีต ผลลัพธ์ที่ส่งต่อมาในวันนี้จึงมีป่าโกงกางใบเล็กขนาดยักษ์ ที่มีอายุยืนยาวกว่า 200 ปี เพียงแห่งเดียวของไทย

ความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนในศูนย์วิจัยป่าชายเลนจังหวัดระนอง ได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็น “พื้นที่สงวนชีวมณฑล” ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศชายฝั่ง นอกจากต้นโกงกางยักษ์สูงราว 30 เมตร อายุสองศตวรรษที่เป็นไฮไลท์ต้องล่องเรือไปชมแล้ว ป่าโกงกางในพื้นที่ศูนย์วิจัยฯ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ลัดเลาะเดินเท้าเข้าไปชมป่าชายเลนที่ความสูงใหญ่ของต้นโกงกาง และธรรมชาติอันหลากหลายนั้นสมกับเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ติดระดับโลก

ช่วงเวลาแห่งความงาม: พื้นที่ป่าชายเลนเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่แนะนำไปตั้งแต่เช้า อากาศไม่ร้อน และเก็บสีสันความงามได้เต็มอิ่ม

Photo credit ploypemuk / Shutterstock.com

ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ดอกบัวตองนั้นบานอยู่บนยอดดอย … บทเพลงสุดคลาสสิกที่ถ่ายทอดความงามสื่อถึงเชียงใหม่ แต่ถ้าจะอยากชมดอกบัวตองงามๆแบบตระการตา เหลืองอร่ามบานสะพรั่งทั้งดอย ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าต้องไป “ทุ่งบัวตอง” แห่งดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

แม้สถานะก่อนจะมาเป็นดาวเด่นด้านการท่องเที่ยว ต้นบัวตองเคยเป็นวัชพืชมาก่อน แต่เมื่อพืชที่มีต้นกำเนิดจากเม็กซิโก ถูกนำมาปลูกบนพื้นที่รกร้างห่างไกลบนดอยแม่อูคอ กาลเวลาผ่านไปก็ค่อยๆขยายพันธุ์ไปเต็มเนินเขาที่สลับซับซ้อน แปรสภาพเป็นความสวยงามของดอกบัวตองเกินกว่าคณานับ ราวกับผืนพรมสีเหลืองสดใสห่มคลุมไปทั่วทั้งหุบเขา และกลายเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวระดับแนวหน้าแห่งเมืองสามหมอกไปในที่สุด

ช่วงเวลาแห่งความงาม: เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม คือ ช่วงเวลาที่ดอกบัวตองบานสะพรั่งไปทั้งดอย

ภาพ : Shutterstock

ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

ดอกกระเจียว เปรียบเสมือนความสดชื่นสีชมพูแห่งฤดูฝน (แต่บางสายพันธุ์ก็สีขาว) เมื่อสีสันสดใสตัดไปกับป่าเขียวขจี ก็ยิ่งขับเน้นความงดงามของธรรมชาติดอกไม้ชนิดนี้ โดยเฉพาะการได้ชมดอกกระเจียวบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่า ซึ่งทุ่งดอกกระเจียวที่มีชื่อเสียงระดับประเทศต้องยกให้จังหวัดชัยภูมิ

ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และอุทยานแห่งชาติไทรงาม เป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตที่ไม่ผิดหวัง เมื่อสัญญาณความชุ่มฉ่ำของฤดูฝนโปรยปรายลงมา อีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นดอกกระเจียวสีชมพู สีขาว ก็ทยอยกันอวดความงามในผืนป่า โดยการเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวเดินเท้าไปตามจุดต่างๆ เพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบนิเวศของธรรมชาติ และมีทุ่งดอกไม้สวยๆ ให้ได้ชมกันทุกฤดูฝน

ช่วงเวลาแห่งความงาม: ดอกกระเจียวบานสะพรั่งมากที่สุดในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม - ต้นเดือนกันยายน แนะนำให้ไปตั้งแต่เช้า มีโอกาสได้ภาพดอกกระเจียวกับสายหมอกสวยน่าประทับใจ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...