โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทำไม ‘เกาะกลางถนน’ ใหญ่กว่าถนน กรมทางหลวงชี้แจงแล้ว!!

The Bangkok Insight

อัพเดต 20 ก.พ. 2566 เวลา 11.06 น. • เผยแพร่ 20 ก.พ. 2566 เวลา 11.06 น. • The Bangkok Insight

กรมทางหลวง ชี้แจง กรณีเกาะกลางถนนใหญ่กว่าถนน ตำบลสองแพรก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เน้นออกแบบให้สอดคล้องกับลักษณะทางกายภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง

ตามที่สื่อออนไลน์ได้นำเสนอข่าวประชาชนในพื้นที่ตำบลสองแพรก อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดความสงสัยกรณีเกาะกลางกว้างกว่าถนน เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา นั้น

เกาะกลางถนน

กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานทางหลวงที่ 16 (นครศรีธรรมราช) และแขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 3 ขอเรียนชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่บนทางหลวงหมายเลข 4037 ตอน สองแพรก-ควนสว่าง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเส้นทางขนาด 4 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร พร้อมทางเท้าและระบบระบายน้ำทั้ง 2 ฝั่ง

ทั้งนี้ เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของถนนบริเวณดังกล่าว เป็นทางลาดชันสูงจากด้านต้นทางลงมาด้านปลายทางซึ่งเป็นย่านชุมชน และยังมีส่วนราชการ โรงเรียนจำนวน 2 แห่ง และสถานีบริการเชื้อเพลิงด้วย จึงมีความจำเป็นต้องออกแบบ และก่อสร้างจุดกลับรถ ให้สอดคล้องกับลักษณะทางกายภาพของพื้นที่

ดังนั้น จึงออกแบบจุดกลับรถไม่ให้เกิดการตัดกระแสจราจรหลัก ด้วยการกลับรถจากด้านในของถนนในทิศทางหนึ่งไปยังด้านในของถนนในอีกทิศทาง และมีช่องจราจรสำหรับเร่งความเร็ว เพื่อรวมกับกระแสจราจรหลักได้อย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ เส้นทางดังกล่าว ยังมีปริมาณรถบรรทุกทางด้านการเกษตรเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องออกแบบให้เกาะกลางถนนมีความกว้างมากกว่าปกติ เพื่อให้มีวงเลี้ยวการกลับรถที่เพียงพอ สำหรับรถขนาดใหญ่ที่วิ่งลงเนินด้วยความเร็ว

ขณะเดียวกัน ยังได้เทพื้นคอนกรีตเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความปลอดภัยของคนเดินเท้า รวมถึงมีการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างตลอดแนว โดยในอนาคตเมื่อมีความจำเป็นในการขยายเส้นทางเป็น 6 ช่องจราจร จะสามารถใช้พื้นที่เกาะกลางดังกล่าว สำหรับการเพิ่มจำนวนช่องจราจรได้ต่อไป

ทล. ขอเรียนว่าการดำเนินการดังกล่าวของ ทล. นั้น ดำเนินการโดยคำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยของผู้ใช้ทางเป็นสำคัญ และพร้อมที่จะรับฟังข้อแนะนำหรือความคิดเห็นของผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วน ทล. โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...