โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อโยธยา รูปร่างหน้าตาเมืองสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ

MATICHON ONLINE

อัพเดต 22 เม.ย. 2566 เวลา 10.40 น. • เผยแพร่ 22 เม.ย. 2566 เวลา 10.31 น.

อโยธยา รูปร่างหน้าตาเมืองสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ

เมืองอโยธยาถูกบังคับสูญหาย จึงไม่พบผังเมืองและเรื่องราวความเป็นมาของอโยธยาในเอกสารการศึกษาผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของแหล่งมรดกโลก พระนครศรีอยุธยา ทั้งๆ ระบบรถไฟความเร็วสูงที่จะสร้างมีทิศทางแนวเหนือ-ใต้ ผ่าเมืองอโยธยาเต็มๆ

  • อโยธยา อยู่ตรงไหน?

อโยธยา อยู่นอกเกาะเมืองอยุธยาทางด้านตะวันออก บริเวณปัจจุบันเป็นทางรถไฟและสถานีรถไฟอยุธยา

ตัวเมืองอโยธยามีคูน้ำคันดินทำผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และกำกับด้วยตำนานพงศาวดารอโยธยาศรีรามเทพนคร

  • รูปร่างหน้าตาเมืองอโยธยา

เมืองอโยธยาสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีรายละเอียดได้จากงานวิจัยที่ได้ทุนจากศูนย์มานุษยวิทยา สิรินธร (องค์การมหาชน) เรื่อง ระบบลำน้ำสมัยอยุธยา (ศูนย์มานุษยวิทยา สิรินธร พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2562) ของ พเยาว์ เข็มนาค (2490-2561) ชาว อ.อุทัย พระนครศรีอยุธยา อดีตข้าราชการกรมศิลปากร ตำแหน่งสุดท้ายเป็นหัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ดังนี้

ด้านกว้าง แนวตะวันออก – ตะวันตก ประมาณ 1,400 เมตร

ด้านยาว แนวเหนือ-ใต้ ประมาณ 3,100 เมตร

ลักษณะการวางผังเมืองคล้ายกันมากกับเมืองสุพรรณบุรี แต่ที่สุพรรณบุรีคันดินยังเหลืออยู่ ส่วนเมืองอโยธยาไม่ปรากฏให้เห็นเลย

พเยาว์ เข็มนาค ศึกษาจากภาพถ่ายทางอากาศ พ.ศ. 2496 พบว่า

ด้านเหนือคูเมืองยังปรากฏแนวชัดเจน ตั้งแต่เหนือวัดอโยธยาพุ่งตรงไปผ่านคลองทรายหรือแม่นํ้าป่าสัก ปัจจุบันเข้าเกาะลอย ชาวบ้านเรียกคลองบนเกาะช่วงนี้ว่าคลองวัดข้าวสารดำ แผนที่ของพระยาโบราณยังปรากฏแนวคูคลองช่วงนี้ให้เห็นอยู่

ด้านทิศตะวันตกคูเมืองคือคูขื่อหน้า ตอนเหนือของคูด้านนี้อยู่บนเกาะลอย ผ่านวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา ไปชนกับคลองข้าวสารดำ ยังปรากฏร่องรอยจากภาพถ่ายเก่าให้เห็น

ด้านใต้ คูเมืองจากคูขื่อหน้าพุ่งเข้าคลองสวนพลู ซึ่งเป็นคูเมืองเดียวกันไปบรรจบกับคูเมืองด้านใต้ที่คลองพระนอน ยังปรากฏแนวคูชัดเจน พุ่งตรงผ่านด้านทิศใต้ของวัดใหญ่ชัยมงคลไปที่บริเวณวัดไก่เตี้ย (ร้าง)

ด้านทิศตะวันออกคือ คูเมืองคลองมเหยงคณ์ แต่ช่วงจากคลองกระมังลงไปทางใต้ (เขตวัดใหญ่ชัยมงคล) มีขาดเป็นช่วง (ภาพถ่ายทางอากาศ พ.ศ. 2496)

  • คูคลองในเมืองอโยธยา

พเยาว์ เข็มนาค เป็นชาวอยุธยาโดยกำเนิด ได้เดินสำรวจด้วยตนเองหลายครั้งแล้วพบดังนี้

คูขื่อหน้า เป็นตัวกลางระหว่างกรุงศรีอยุธยากับอโยธยา

ฝั่งอโยธยานั้นมีคลองขุดเชื่อมกับคูขื่อหน้ามากกว่าทางกรุงศรีอยุธยา ถึงแม้จะสถาปนากรุงศรีอยุธยาแล้วก็ตาม มิได้หมายความว่าอโยธยาจะหมดความสำคัญลง แต่ยังให้ความสำคัญอยู่มาก ด้วยเป็นพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกข้าว และใช้เป็นทุ่งนาหลวง วัดวาอารามต่างๆ ยังได้รับการบูรณะซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา จนสิ้นกรุงศรีอยุธยา ขุนนางบางท่านหรือแม้แต่เจ้าแม่ดุสิตก็มีนิวาสสถานอยู่ในเมืองอโยธยา

คูคลองในเมืองส่วนมากจะขุดให้อยู่ในแนวตะวันออก – ตะวันตก เป็นตาหมากรุกอย่างเป็นระเบียบ วัดวาอารามนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาบริเวณนี้จะมีมากกว่าบริเวณอื่นๆ

คลองแนวตะวันออก-ตะวันตกนับจากเหนือลงใต้

1.คลองวัดกระโจม ขุดเชื่อมระหว่างคลองทราย (แม่นํ้าป่าสัก) หรือคูเมืองด้านทิศตะวันตก กับคลองอโยธยาใต้วัดโบสถ์ราชเดชะ (ร้าง) ปัจจุบันไม่เหลือสภาพ แต่เห็นได้ชัดเจนจากภาพถ่ายทางอากาศ พ.ศ. 2496 และปากคลองวัดกระโจม จากแผนที่ของพระยาโบราณราชธานินทร์

2.คลองวัดประดู่ ขุดเชื่อมระหว่างคูขื่อหน้าใต้วัดนางชี กับคลองอโยธยาเหนือวัดกุฎีดาว ปัจจุบันขาดช่วงเป็นช่วงๆ มีถนนตัดผ่าน ลำคูแห้ง มีวัชพืชขึ้นหนาแน่น แต่เห็นได้ชัดเจน จากภาพถ่ายทางอากาศ พ.ศ. 2496 และแผนที่ของพระยาโบราณราชธานินทร์

3.คลองบ้านบาตรและคลองกระมัง ขุดเชื่อมระหว่างคูขื่อหน้ากับคลองหันตรา ไปออกคลองข้าวเม่า ปากคลองด้านทิศตะวันตกบรรจบกับคูขื่อหน้าหรือแม่นํ้าป่าสักปัจจุบัน เป็นที่ตั้ง ของวัดพิชัย คำให้การของขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรมว่าด้วยที่ค้าขายนอกกรุง กล่าวไว้ว่า บ้านสามเขาระบุบาตร์เหล็กน้อยใหญ่ขาย บ้านริมวัดพิชัย ต่อหุ่นตลุ่ม พานแว่นฟ้าสองชั้นขายบริเวณวัดพิชัยนี้เป็นที่ตั้งค่ายของพระยาตาก ก่อนที่จะตีฝ่าวงล้อมพม่าไปตั้งฐานทัพอยู่ที่จันทบุรี

4.คลองข้าวสาร เป็นคลองขุดเชื่อมระหว่างคูขื่อหน้ากับคลองดุสิต ปากคลองข้าวสาร เป็นที่ตั้งของวัดเกาะแก้ว วัดปราสาท (ร้าง) กองทัพของพม่าตั้งอยู่บริเวณนี้ ในคราวศึกเสียกรุงครั้งแรก ที่กล่าวไว้ในพระราชพงศาวดารว่า พม่าเอาศพทหารถมคูเมืองเข้ายึดป้อมราชคฤห์ และเข้าเมืองได้คือบริเวณนี้ ปากคลองมีประตูนํ้า

แผนที่ของชาวยุโรปที่เข้ามาในสมัยอยุธยา เขียนไว้ว่า บริเวณนี้เป็นอ่างใหญ่ เป็นที่ชุมนุมกันทางเรือ และมีสถานีการค้าย่อยของฮอลันดาอยู่บนฝั่งเกาะแก้วนี้อีกแห่งหนึ่งด้วย ย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวจีน ตั้งโรงเหล้า เลี้ยงสุกร ย่านค้าขายข้าว จึงได้ชื่อว่าคลองข้าวสาร และเป็นที่ตั้งของสถานีย่อยของฮอลันดาอีกแห่งหนึ่งด้วย

5.คลองขนมตาล หรือคลองถนนตาล อยู่ฝั่งใต้ของเกาะแก้ว ปากคลองด้านทิศตะวันตกบรรจบกับคลองสวนพลู ตะวันออกบรรจบกับคลองดุสิต และวัดสมอ (ร้าง) ปัจจุบันตื้นเขินมาก เรือเล็กเดินไม่ได้ ปากคลองทั้งสองด้านมีประตูนํ้า

  • คลองแนวเหนือ-ใต้ มีดังนี้

1.คลองดุสิต เป็นคลองขุดในแนวเหนือ-ใต้ ปากคลองด้านบนบรรจบกับคลองกระมัง ปากคลองด้านใต้บรรจบกับคลองพระนอน มีวัดดุสิต (ศาลเจ้าแม่ดุสิต) อยู่ริมคลองฝั่งตะวันออก ปัจจุบันยังพอมีนํ้าให้เรือเล็กแล่นได้ มีประตูนํ้าริมสะพานข้ามคลองถนนสายโรจนะ

2.คลองอโยธยา กุฎีดาว คือ คลองขุดเชื่อมคลองหันตรากับคลองกระมัง ปากคลองด้านบนเป็นที่ตั้งของวัดดุสิตและวัดอโยธยา ปากคลองด้านล่างบรรจบกับคลองกระมัง มีวัดสำคัญๆ อยู่หลายวัด เช่น วัดอโยธยา วัดดุสิต วัดโบสถ์ราชเดชะ วัดจักรวรรดิ วัดกุฎีดาว วัดสมณโกษฐาราม วัดนางคำ วัดสิงห์นารายณ์ เป็นต้น เป็นคลองที่มีกลุ่มโบราณสถานเรียงรายอยู่ทั้งสองฟากคลอง กลางเมืองอโยธยาหนาแน่น ตื้นเขินหมด เรือเล็กใหญ่เดินไม่ได้

3.คลองโพธารามเป็นคลองขุดเชื่อมคลองบ้านบาตร์กับคลองปากข้าวสาร ยังพอเห็นแนวคลองได้จากภาพถ่ายทางอากาศ ปัจจุบันเหลือแนวคลอง ลักษณะสระนํ้าที่บริเวณปากคลองด้านเหนือ ส่วนตอนกลางและปลาย ปัจจุบันไม่เหลือร่องรอยให้เห็น มีถนนโรจนะตัดผ่านคลอง และเป็นที่ตั้งของสำนักงานทางหลวงอยุธยา บ้านเรือนราษฎร

4. คลองไม่มีชื่อ นอกจากนี้ยังปรากฏร่องรอยของคูคลองจากด้านทิศตะวันตกของวัดอโยธยา วัดจักรวรรดิ วัดกุฎีดาว วัดสมณโกษฐาราม วัดโคกมะเกลือ มาชนกับคลองกระมัง แนวเดียวกับคลองดุสิต แต่แนวคูดังกล่าวขาดเป็นช่วงๆ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...