'บิ๊กป้อม' ถก กก.สิ่งแวดล้อม สั่งทุกหน่วยเร่งเยียวยาปชช. รับผลกระทบน้ำมันรั่ว จ.ระยอง
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ครั้งที่ 1/2565 โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรรมการและเลขานุการ และดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสผ. ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม และผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
โดยที่ประชุม ได้รับทราบสถานการณ์การแก้ไขปัญหาน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลจังหวัดระยอง จากนั้น ได้มีการพิจารณารายงาน EIA จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีเทา ระยะที่ 1 วัชรพล-ทองหล่อ ของกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนรอง อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน โดยเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม สีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว (2) โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ ของกรมธนารักษ์เพื่อให้ผู้สูงอายุมีที่พักอาศัยพร้อมอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับการดำรงชีวิต มีระบบการดูแลรักษาสุขภาพและสวัสดิการอื่นๆ แบบครบวงจร (3) โครงการระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ ตาก 2 – แม่สอด ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และ (4) โครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ของกองทัพเรือ และสำนักงาน EEC เพื่อสนับสนุนการพัฒนา EEC รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยของสนามบินและความมั่นคง ทั้งนี้เจ้าของโครงการ ต้องดำเนินการตามมาตรการฯ ที่กำหนดในรายงานฯ อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งรับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการ และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมฯ ยังได้พิจารณาเรื่องเชิงนโยบายที่สำคัญ จำนวน 3 เรื่อง ได้แก่ (1) กรอบท่าทีไทย และหลักการต่อร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีและทางการเมือง ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 5 ช่วงที่ 2และการประชุมสมัยพิเศษ เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (2) การพิจารณากรอบการเจรจาและท่าทีของประเทศไทยในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะ สมัยที่ 4 และร่างปฏิญญาบาหลีว่าด้วยการต่อต้านการค้าปรอทอย่างผิดกฎหมายทั่วโลก และ (3) การกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากสถานที่ฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกหลักสุขาภิบาล เพื่อให้เป็นไปตามกฎกระทรวงสุขลักษณะการจัดการมูลฝอยทั่วไป พ.ศ.2560