โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

48 ปีค้าปลีกภูธร "กนกกาญจน์" ชูจุดแข็งราคาถูกแข่ง 4 ห้างยักษ์

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 01 ก.พ. 2563 เวลา 10.38 น. • เผยแพร่ 31 ม.ค. 2563 เวลา 04.15 น.

การแข่งขันกันอย่างรุนแรงในธุรกิจค้าปลีกตามหัวเมืองใหญ่ในจังหวัดต่าง ๆ นอกจากต้องแข่งขันระหว่างทุนท้องถิ่นด้วยกันเองแล้ว เมื่อทุนส่วนกลางขยายฐานเข้าไปเปิดศึก ยิ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นต้องปรับตัวกันหนักขึ้นเพื่อความอยู่รอดในธุรกิจ

โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี นอกจากจะมีห้างสรรพสินค้าเก่าแก่หลายห้างที่เปิดแข่งขันกันอยู่แล้ว ยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ดาหน้ากันเข้าไปเปิด เพื่อหวังรองรับการเติบโตจากการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งฝั่งไทย และฝั่งเมียนมา ที่เดิมคาดว่าจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น เช่น ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี

ดังนั้น ห้างภูธรเก่าแก่เจ้าถิ่นจะปรับตัวอย่างไร “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “ณัฐสินี กนกวรกาญจน์” กรรมการผู้จัดการ “ห้างกนกกาญจน์” ทายาทรุ่นที่ 2 ของห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองกาญจนบุรี และดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 48 ปี ถึงความเป็นมาของธุรกิจ และการปรับตัวที่ทำให้ยืนหยัดมาได้ถึงทุกวันนี้ว่า

จากตึกแถว 2 คูหาสู่ห้างภูธร

“ณัฐสินี” เล่าว่า หลังเรียนจบคณะอักษรศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพิ่งเข้ามาช่วยงานคุณพ่อ “เอี่ยม กนกวรกาญจน์” และคุณแม่ “นิลวรรณรัตน์ กนกวรกาญจน์” และพี่ชายคนที่ 4 “ปริญญา กนกวรกาญจน์”  บริหารกิจการเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากพี่น้องคนอื่น ๆ ได้แยกย้ายไปเปิดกิจการของตนเอง อาทิ ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าเจ้าใหญ่ใน จ.กาญจนบุรี และร้านค่าส่งเครื่องบริโภค รวมถึงกิจการโรงแรมกนกกาญจน์ เพลส ที่อยู่ในเครือกนกกาญจน์อีกด้วย

ณัฐสินีบอกว่า เดิมกนกกาญจน์เริ่มเปิดกิจการเป็นร้านค้าตึกแถว2 ห้อง เมื่อ 23 ปีก่อนจะกลายมาเป็นห้างสรรพสินค้าเต็มตัว 25 ปีจนถึงปัจจุบัน กนกกาญจน์มีอยู่เพียงสาขาเดียว พื้นที่ทั้งหมด 15,000 ตารางเมตร  อยู่ใจกลางเมือง รวมทั้งหมด 5 ชั้น โดยแบ่งเป็นพื้นที่บริการลูกค้าทั้งหมด 3 ชั้นและสำนักงานอีก 2 ชั้น เป็นที่ดินของราชพัสดุ ซึ่งทำสัญญาเช่าระยะยาว เพิ่งต่อสัญญาใหญ่รอบสองเป็นระยะเวลา 30 ปี ถือเป็นทำเลทองอยู่กลางเมือง ทำให้มีปัญหาเรื่องการจอดรถ แต่จะไม่เปลี่ยนทำเลที่ตั้ง เพราะเป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ในตัวเมืองกาญจนบุรี กลุ่มลูกค้าก็เป็นคนเก่าในพื้นที่ แต่พยายามหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มวัยรุ่น

ชูจุดแข็งราคาถูกกว่าตลาด

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ห้างกนกกาญจน์มีการปรับตัวในการบริหารมาตลอด เรามีจุดแข็งในแง่ของราคาสินค้า สถานที่ตั้ง และการบริการ เน้นการขายสินค้าอุปโภค-บริโภคเป็นหลัก ด้วยราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปเหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้า มีจุดแข็งด้านการบริหารในแบบฉบับของตัวเอง เพราะเป็นห้างสรรพสินค้าในท้องถิ่นสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัว รวดเร็ว โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากส่วนกลางเหมือนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ประกอบกับมีสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป สินค้ามีโปรโมชั่นหลากหลาย เช่น ลด แลก แจก แถม

ในส่วนของด้านการบริการ พยายามปลูกฝั่งให้พนักงานบริการเหมือนกับครอบครัวของตนเองและบริการจากใจถึงใจกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ด้วยความที่ห้างมีความเก่าแก่จึงทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่า ทำให้ตอนนี้พยายามปรับเพื่อที่จะดึงดูดให้เด็กรุ่นใหม่เข้ามาใช้บริการมากขึ้น อย่างการมีร้านชาบู KFC ร้านหนังสือ ซีเอ็ด ร้านชานมไข่มุก และร้านอาหาร อิ่มสุข ซึ่งพยายามปรับจากที่เมื่อก่อนเป็น food center ที่ไม่มีจุดดึงดูด ก็ปรับให้เป็นร้านอาหารที่น่านั่ง และราคาเป็นมิตรกับนักเรียนนักศึกษา ส่วนทางฝั่ง games center เมื่อก่อนมีเพียงตู้คาราโอเกะและเครื่องเกม จึงปรับให้มีบ้านบอลเพิ่ม เนื่องจากเด็กจะขอให้ผู้ปกครองพามา ซึ่งทางกนกกาญจน์ได้เปิดร้านอาหารที่ชื่อว่า “อิ่มสุข” ขึ้น จึงทำให้ยอดโตขึ้นในทุก ๆ ปี ด้วยบริการ รสชาติของอาหาร ความสดใหม่

“นอกจากนี้ยังได้ไอเดียทดลองเพิ่มกลยุทธ์การขายสินค้าทางด้านกีฬาเข้ามาด้วย หลังจากเข้ามาบริหารงาน เพราะส่วนตัวมีความชื่นชอบด้านกีฬาอยู่แล้ว โดยได้นำรองเท้า adidas เข้ามาขายเป็นเจ้าแรกในเมืองกาญจน์ ผลตอบรับอยู่เกณฑ์ดีมาก แต่เทรนการออกกำลังกายไม่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในจังหวัดจึงขายได้เพียงปีเดียว”

ปรับตัวสู้ศึก-ค้าออนไลน์

ณัฐสินีบอกว่า สำหรับการแข่งขันกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มาเปิดในจังหวัดกาญจนบุรี ทางห้างกนกกาญจน์มองว่าเป็นคู่ค้ามากกว่าคู่แข่ง ทำให้เกิดการพัฒนาตัวเองมากขึ้นและคงจุดแข็งเอาไว้

แต่ยอมรับว่าช่วงแรกที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เข้ามาเปิดมีการดึงซัพพลายเออร์บางส่วนที่เปิดในห้างกนกกาญจน์ไปบ้าง ด้วยภาพลักษณ์ความที่เป็นแบรนด์ห้างใหญ่น่าเชื่อถือ ทำให้ทางห้างกนกกาญจน์ต้องมีการปรับตัว จัดรายการลดแลกแจกแถม เพื่อดึงฐานลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ พร้อมกับสนับสนุนซัพพลายเออร์แบรนด์อื่น ๆ ที่อยู่กับห้างกนกกาญจน์มากขึ้น เพื่อที่จะกระตุ้นยอดขายและช่วยเหลือกันทั้งสองฝ่าย

ขณะเดียวกันปัจจุบันทางห้างกนกกาญจน์ได้ขยายตลาดไปยังช่องทางออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ลาซาด้า ช้อปปี้ และฟรีส่งผ่านเคอรี่ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรี ผู้บริหารมักตื่นตัวกับแบรนด์สินค้าใหม่ แต่ไม่ได้รับความนิยมในระยะยาว ฉะนั้นการนำแบรนด์สินค้าใหม่เข้ามาจึงต้องวางแผนให้รัดกุม

เล็งลงทุนขยายสาขาเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม ณัฐสินียอมรับว่า ในช่วงปีที่ผ่านมากำลังซื้อของห้างกนกกาญจน์ไม่ค่อยดีนัก จากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว แต่เมื่อรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นกำลังซื้อผ่านโครงการชิม ช้อป ใช้ ส่งผลให้ยอดขายของห้างกนกกาญจน์กระเตื้องขึ้นระดับหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดราชบุรี และสุพรรณบุรี โดยปี 2562 ที่ผ่านมามียอดขายประมาณ 700 ล้านบาท

ในปี 2563 มีแผนเตรียมการปรับ food center, games center ให้มีความน่าสนใจ เพื่อดึงดูดให้มีผู้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น จะทำให้ห้างกนกกาญจน์มีความทันสมัยเพิ่มขึ้น และในอนาคตมีแผนขยายสาขาเพิ่มไปอยู่ใน community mall ที่มีแผนจะสร้างใกล้บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว และอาจจะขยายสาขาไปยังจังหวัดใกล้เคียงอย่างจังหวัดสุพรรณบุรี

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...