โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

IQAir เปิดข้อมูล 19 ใน 20 เมือง มลพิษทางอากาศย่ำแย่ที่สุดในโลก ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย

JS100

อัพเดต 12 มี.ค. เวลา 02.56 น. • เผยแพร่ 11 มี.ค. เวลา 13.21 น. • JS100:จส.100
IQAir เปิดข้อมูล 19 ใน 20 เมือง มลพิษทางอากาศย่ำแย่ที่สุดในโลก ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย

บริษัท IQAir ของสวิตเซอร์แลนด์ที่ติดตามสำรวจคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองในอากาศขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (ค่า PM2.5) ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากที่สุด เปิดเผยผลการวิจัยคุณภาพอากาศในปีที่แล้ว(2567)ซึ่งทีมวิจัยของ IQAir พบว่า 20 เมือง/มหานครที่ติดอันดับกลุ่มที่มีมลพิษทางอากาศแย่มากที่สุดในโลก ส่วนใหญ่(13 เมือง)อยู่ในอินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก (1,400 ล้านคน) และประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วจากการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ประชากรหลายร้อยคนอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่และมหานครที่มีการจราจรติดขัดหนัก และอยู่อย่างแออัด โดยเฉพาะเมืองบายร์นิฮาต เมืองอุตสาหกรรมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย มีค่า PM2.5 อยู่ที่ 128.2 ในปีที่แล้ว สูงกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก(WHO)กว่า 25 เท่า

ส่วนเมืองอื่นๆ เช่น กรุงนิวเดลี มีค่า PM2.5 อยู่ที่ 91.8 มีมลพิษทางอากาศแย่ติดอันดับโลกเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ส่วนเมืองอื่นๆของอินเดียที่มีมลพิษทางอากาศแย่ที่สุดเช่น เมืองฟาริดาบัด เมืองโลนี เมืองคุรุคราม เมืองโนเอดาและเมืองเกรทเตอร์ โนเอดา อีก 4 เมืองในกลุ่มนี้อยู่ในปากีสถาน อีก 1 เมืองในประเทศจีนและคาซักสถาน ตามลำดับ ขณะเดียวกัน เมืองเดียวที่อยู่นอกทวีปเอเชียที่มีมลพิษทางอากาศแย่หนักที่สุดใน 20 อันดับแรกของโลกคือ กรุงเอ็นจาเมนา ของชาดทางตอนกลางของทวีปแอฟริกา ส่วนในทวีปอเมริกาเหนือ เมืองที่มีมลพิษทางอากาศแย่ที่สุด คือ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

สำหรับกรุงเทพฯติดอันดับที่ 53 ของโลก มีค่า PM2.5 อยู่ที่ 71 ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่อยู่ในอันดับที่ 37 มีค่า PM2.5 อยู่ 89 ทั้งนี้ ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกWHO ระดับของค่า PM2.5 ไม่ควรเกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สำหรับสำหรับฝุ่นละอองเล็กๆขนาด PM2.5 อาจจะเกิดจากสาเหตุ เช่น การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงประเภทฟอสซิล พายุฝุ่นและเกิดจากไฟป่า โดยฝุ่นขนาด PM2.5 มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ 20 เท่า สามารถจะลอยเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดของมนุษย์อย่างง่ายดาย อีกทั้งเป็นสาเหตุของโรคระบบทางเดินหายใจและโรคไตเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจกำเริบ เสี่ยงเป็นโรคอื่นๆเช่น โรคซึมเศร้าและโรคเครียด

#ผลวิจัย

#PMสองจุดห้า

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...