โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

กลางสมรภูมิรบศพทหาร “จตุพร” ถามย้ำ! กกต.จัดหย่อนบัตรวันเดียวทั่ว ปท. ได้จริงหรือไม่?

สยามรัฐ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

แย้ง กกต. จัด ลต.กลางสนามรบ ย้ำถามหย่อนบัตรพร้อมกันทั่ว ปท.ในวันเดียวทำได้จริงหรือไม่ คาดถ้ามีกฎอัยการศึกจะทำอย่างไร แนะคิดหาช่องออกรอจนกว่าศึกสงบจึง ลต.ดีกว่าไหม ซัดการเมืองมุ่งแต่ขบเหลี่ยมจนยุบสภาก่อปัญหาทับถมบนศพทหารกันอีก

เมื่อ 13 ธ.ค. 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยย้ำถามว่า ท่ามกลางสงครามไทย-กัมพูชาทวีความรุนแรงขึ้น คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถจัดเลือกตั้งทั่วไปในวันเดียวพร้อมกันทั่วประเทศได้เรียบร้อยหรือไม่ ควรรอให้การสู้รบสงบก่อนดีกว่าไหม? และถ้ามีกฎอัยการศึกจะได้เลือกตั้งหรือไม่

“บัดนี้ยังไม่เห็นแววว่า จะมีประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ถ้าไม่เกิดขึ้นมันดี แต่เราพอจะคาดการณ์สถานการณ์ว่า ถ้ายังมีสงครามอยู่ก็เลือกตั้งทั่วประเทศพร้อมกันลำบากและอาจทำไม่ได้ ดังนั้น กกต.ควรไปหาช่องทางตามกฎหมายว่า ถ้าไปกำหนดวันรับสมัครแล้วนับไปอีก 45 วันเป็นวันเลือกตั้งทั่วประเทศ ซึ่งการหาเสียงก็ไม่ชะงัก”

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ยุบสภาที่เกิดจากปัญหาการแก้ รธน.รายมาตรา วาระสอง ม.256/28 ที่ สว.ต้องการคงอำนาจผ่านมติวาระสาม โดยต้องใช้เสียง สว.อย่างน้อย 1 ใน 3 จากจำนวนที่มีอยู่ จนลุกลามเป็นความขัดแย้งขบเหลี่ยมการเมืองระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยและข้อตกลง MOA สนับสนุนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

นายจตุพร กล่าวว่า พรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยทำ MOA กัน เพียงแก้ รธน.และทำประชามติการแก้ รธน. แต่ไม่ได้ตกลงให้ไปตัดอำนาจ สว. กระทั่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เสนอให้ตัดอำนาจ สว. 1 ใน 3 ออกจากการแก้ รธน. จึงเป็นเรื่องใหญ่มาก

แม้การแก้ รธน. ม.256/28 ตามฉบับ กมธ.เสียงข้างมากกำหนดให้ใช้มติเห็นชอบของรัฐสภาต้องได้เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ แต่ กมธ.เสียงข้างน้อยให้คงมีเสียง สว.อย่างน้อยจำนวน 1 ใน 3 หรือจำนวน 67 เสียงด้วยจึงจะผ่านวาระสาม โดยพรรคภูมิใจไทยลงมติสนับสนุน กมธ.เสียงข้างน้อย จึงเป็นปัญหาขบเหลี่ยมการเมืองและนำไปสู่การยุบสภา

“แก้ รธน. ม.256/28 (ตาม กมธ.เสียงข้างมาก) เสมือนเสนอให้ สว.ยกมือให้แล้วตัดแขนตัวเองข้างหนึ่งสังเวย มันจึงไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ แม้ถ้า สว. เห็นชอบตาม กมธ.ข้างมาก โดยใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง แต่คงไม่ผ่านวาระสามอยู่ดี และจะถูกล้มแน่นอน"

อีกทั้งกล่าวว่า เมื่อการแก้ รธน.ถูกคว่ำแล้วด้วยเงื่อนไขการยุบสภา โอกาสจะแก้กันในครั้งหน้าย่อมยากไปอีก ดังนั้น หากการเมืองถ้ายอมถูกขัดใจบ้างโดยให้ สว.ยังใช้เสียง 1 ใน 3 แล้ว การแก้ รธน.ก็เดินไปข้างหน้าราบรื่นได้อีกเปราะหนึ่ง

นอกจากนี้ ถ้าเอาแต่ตามใจตัวเองต้องการเอาคืนยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ คงไม่มีรัฐบาลเสียงข้างน้อยรอให้ถูกเชือดกลางสภา จึงต้องยุบสภา ดังนั้น ถ้าประนีประนอมกัน ต่างฝ่ายไม่หักด้ามพร้ามด้วยเข่าแล้ว การยุบสภาคงไม่เกิดขึ้นเช่นกัน

สิ่งสำคัญเมื่อยุบสภาแล้ว กกต.สามารถจัดเลือกตั้งภายใน 60 วันนับตั้งแต่ยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค. ได้จริงหรือไม่ โดยนายแสวง บุญมี เลขา กกต. บอกให้กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปก่อน ถ้าเหตุการณ์ชายแดนไม่สงบลง ก็ไปเลื่อนขยายการเลือกตั้งได้อีก 30 วัน แต่ศาล รธน.เคยวินิจฉัยการเลือกตั้งสมัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ต้องจัดเลือกตั้งทั่วไปภายในวันเดียวพร้อมกันทั้งประเทศ

"กกต.ควรไปศึกษาการจัดการเลือกตั้ง ถ้ามีช่องทางรอให้เหตุการณ์สู้รบชายแดนสงบก่อนไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าจะขยายเวลาออกไป ก็กระทบงบประมาณหาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมือง ดังนั้น จะมีปัญหาตามมาเต็มกันไปหมด”

อีกทั้งแย้งหลักคิดของเลขา กกต.ว่า ไม่น่าสอดคล้องกับปัญหาสงครามไทย-กัมพูชา ถ้าในสถานการณ์ข้างหน้าการสู้รบยิ่งรุนแรงขึ้นแล้ว ซึ่งไม่ใครรู้ว่า ผบ.ทบ.จะประกาศใช้กฎอัยการศึกทั้งประเทศหรือไม่ ถ้ามีกฎอัยการศึก การเลือกตั้งทั่วไปจะยืดยาวออกไปอีก

"กกต.ควรไปหารือทั้งรัฐบาล พรรคการเมือง คณะกรรมการกฤษฎีกา และศาล รธน. ว่า ถ้าภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองมีภัยสงครามกันอยู่ เพื่อไม่ให้รัฐและพรรคการเมืองสูญเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ และเมื่อสงครามจบก็เริ่มนับหนึ่งเลือกตั้งเลย ดังนั้น (กกต.) ไม่ควรคิดอ่านให้บ้านเมืองเสียหายไปอีก” นายจตุพร ย้ำ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...