โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ผอ.ท่าเรือแหลมฉบัง ยัน ชาวบ้านในพื้นที่ใช้ชีวิตตามปกติ หลังควบคุมการรั่วไหลสารเคมีได้แล้ว

MATICHON ONLINE

อัพเดต 29 ส.ค. 2566 เวลา 11.52 น. • เผยแพร่ 29 ส.ค. 2566 เวลา 11.34 น.

ผอ.ท่าเรือแหลมฉบัง เผย ชาวบ้านในพื้นที่ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยัน ควบคุมการรั่วไหลสารเคมีได้แล้ว

จากกรณีที่ เกิดเหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ ตู้สินค้าอันตรายหมายเลข TLLU2697694 Class 5.2 UN 3106 สารเคมีเป็น Organic peroxide type d, solid (สารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์) จำนวน 378 กล่อง ซึ่งมีกลิ่นฉุนรุนแรง และมีฤทธิ์กัดกร่อน เหตุเกิดภายในลานพักตู้คอนเทนเนอร์ JWD เขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 สิงหาคมนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุดวันเดียวกัน นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอศรีราชา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมถึงนายสัมฤทธิ์ ผู้จัดการความปลอดภัย บริษัทแห่งหนึ่ง ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุกันอีกครั้ง

ล่าสุด นายธวัชชัย ได้สั่งอพยพคนงานในพื้นที่ รวมถึงพื้นที่ข้างเคียงไปพักอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่บริเวณหอคอยท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการข้างเคียงเพิ่มเติมหรือไม่

ทั้งนี้ทางบริษัทแจ้งว่า ได้ให้ทางลูกค้าเข้ามาตรวจสอบความเสียหายของสินค้าแล้ว โดยปิดทางออกของช่องทางน้ำเพื่อนำไปกำจัดและป้องกันน้ำไหลออกสู่สาธารณะ รวมถึงเฝ้าระวังเนื่องจากเป็นลานวางตู้คอนเทนเนอร์สำหรับสารเคมีที่เป็นอันตรายทั้งหมด

ในขณะที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอศรีราชา ได้ดำเนินการตรวจสอบและคัดแยกกลุ่มผู้อพยพทั้งหมด ณ หอสังเกตการณ์ท่าเรือแหลมฉบัง และประสาน อสม.ลงสำรวจพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติม

เมื่อเวลา 14.45 น. ร.อ.กานต์ เมนะรุจิ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ได้ออกมาแถลงยืนยันว่า เหตุเพลิงไหม้ตู้สารเคมีในโกดัง JWD ซึ่งเก็บสินค้าอันตรายนั้น ล่าสุดสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้วและท่าเรือได้ประกาศยุติปฏิบัติการศูนย์ควบคุมเหตุเพลิงไหม้แล้วในเวลา 15.00 น.ยืนยันชาวบ้านในพื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

พร้อมบอกว่าหลังได้รับแจ้งเหตุสารเคมีในตู้สินค้าในโกดัง JWD ที่กักเก็บสินค้าอันตรายเกิดเพลิงไหม้เมื่อ เวลา 10.00 น.นายวีรชาติ พุทธรักษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ได้เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุทันทีและเปิดศูนย์ควบคุมสถานการณ์ ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ โดยได้นำเครื่องมือต่างๆ เข้าระดับเหตุดังกล่าวเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น ใช้เวลาในการควบคุมสถานการณ์ประมาณ 1 ชั่วโมง

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีตู้เก็บสารเคมีเสียหายจำนวน 2 ตู้ คือตู้ที่เกิดการลุกไหม้ และอีก 1 ตู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยในช่วงที่เกิดเหตุมีกลุ่มควัน ทำให้บริษัทที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ มีพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันที่ฟุ้งกระจาย

จึงรีบนำพนักงานดังกล่าวออกนอกพื้นที่ไม่รวมตัวที่บริเวณหอสังเกตการณ์ ซึ่งมีประมาณ 14 คน นอกจากนั้นยังตรวจสอบบุคคลที่อยู่ใกล้เคียงเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไร ส่วนบางรายที่มีอาการก็นำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง

ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และสามารถควบคุมสถานการณ์เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นได้แจ้งให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ที่หยุดชะงักในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถดำเนินการได้ตามปกติ

ส่วนเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประกาศเตือนประชาชนให้อพยพออกจากพื้นที่หากมีสารเคมีรั่วไหลนั้น ขณะนี้ขอยืนยันว่าตู้คอนเทนเนอร์ที่มีปัญหา ได้นำแยกไปยังพื้นที่ควบคุมที่มีเครื่องมือพร้อมอยู่แล้ว และได้ดำเนินการตามมาตรการของกรมควบคุมมลพิษ”

ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะจากการตรวจสอบพบว่าตัวสารเคมีที่เกิดเพลิงลุกไหม้เป็นเพียงคาร์บอนมอนนอกไซด์ ส่วนกลิ่นนั้นเกิดจากวัสดุที่บรรจุผลิตภัณฑ์เท่านั้น จึงส่งผลกระทบกับผู้ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเฉพาะในแง่ของการสูดดมควันเป็นจำนวนมาก

“เราได้ตรวจสอบอย่างชัดเจน สารเคมีที่อยู่ในตู้ ไม่มีผลกระทบในระยะยาว เป็นเพียงช่วงที่เกิดการลุกไหม้เท่านั้น และช่วงเวลาที่เกิดเหตุเพียง 30 นาที และควบคุมเพลิงไว้ได้ และมั่นใจได้ว่าในพื้นที่รอบๆ ท่าเรือแหลมฉบัง ใช้ชีวิตได้ตามปกติ และไม่มีสารเคมีรั่วไหลจากพื้นที่แน่นอน” ร.อ.กานต์กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...