ตอบโต้ทันที!! ห้าม จยย.-รถเข็นเขมรเข้าด่านคลองลึก หลังกัมพูชาประกาศงดซื้อพลังงานจากไทย
สระแก้ว – ตอบโต้ทันที!! ห้าม จยย.-รถเข็นเขมรเข้าด่านคลองลึก จ.สระแก้ว หลังกัมพูชาออกมาตรการตอบโต้ไทยอีกขั้น โดยประกาศยุติการนำเข้าเชื้อเพลิงและกาซธรรมชาติจากไทย โดยมีผลตั้งแต่เที่ยงคืน 22 มิ.ย.เป็นต้นไปมา ทำให้เกิดความตึงเครียดรวมทั้งมีการเจรจากันระหว่างเจ้าหน้าที่ขึ้น เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเพจข่าว Khmer Times ได้รายงานข่าวด่วน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ว่า พล.อ.ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ออกเผยแพร่ทางโซเชียล ว่าราชอาณาจักรกัมพูชาจะยุติการนำเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากไทย เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย) เป็นต้นไป ซึ่งการประกาศดังกล่าว เป็นการยกระดับความตึงเครียดระหว่างประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2 ฝ่าย ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
ซึ่งรายงานข่าวยังระบุอีกว่า ฮุน มาเนต ได้กล่าวเสริมว่ากัมพูชามีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดหาเชื้อเพลิงและก๊าซจากประเทศอื่น เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศ โดย Khmer Times กล่าวถึงการประกาศงดซื้อดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลัง ความขัดแย้งทางการทูตและเศรษฐกิจระหว่างกรุงพนมเปญและกรุงเทพมหานคร ซึ่งรวมถึง ข้อกล่าวหาเมื่อเร็วๆ นี้จากเจ้าหน้าที่ไทย เกี่ยวกับปฏิบัติการอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ถูกกล่าวหาว่า ตั้งอยู่ในกัมพูชาและการปิดจุดผ่านแดนสำคัญอย่างกะทันหันโดยกองทัพไทยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ทำให้กัมพูชา ตอบโต้ด้วยการปิดจุดผ่านแดน 2 แห่งและการงดซื้อพลังงานจากไทยดังกล่าว
ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนี้ว่า หลังเวลา 09.00 น.ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทยกัมพูชา หน้าจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังทางฝั่งกัมพูชาเปิดด่าน ทางกองกำลังบรูพา ได้สั่งห้ามรถมอเตอร์ไซค์ รถเข็นสองล้อ กัมพูชาเข้าฝั่งไทย บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว 3 จุดผ่านแดนถาวร และ 2 จุดผ่อนปรนทำให้บรรยากาศด่านคลองลึกเกิดความเคร่งเครียด โดยมีเจ้าหน้าที่เจรจาฝั่งกัมพูชาเข้ามาเจรจากันอย่างตึงเครียด ซึ่งปกติจะมีประชาชนกัมพูชาจำนวนมากขับขี่รถจักรยานยนต์ รถจักยานยนต์พ่วงข้างและรถเข็น มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ทางฝั่งไทย ทางกองกำลังบูรพาได้ออกมาตรการตอบโต้ หลังกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทยเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ได้รับคำสั่งที่ กห0481.2/416 ลงวันที่ 23 มิ.ย.68 ให้สกัดกั้นเต็มรูปแบบ โดยห้ามยานพาหนะขนาดเล็กทุกชนิดของประชาชนกัมพูชา เข้าฝั่งไทยโดยเด็ดขาด แต่รถจักรยานยนต์ที่มีหมายเลทะเบียนไทยและรถยนต์ สามารถเข้า-ออกได้ตามปกติ ซึ่งหลังประตูด่านฝั่งกัมพูชาเปิดประตูด่าน เจ้าหน้าที่ไทยได้หยุดยานพาหนะที่พยายามจะข้ามแดนไว้ทันที พร้อมกับแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบ โดยชาวกัมพูชาหลายคนที่ไม่ทราบและมีอาการตกใจไม่เข้าใจการห้ามดังกล่าว ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาได้เข้ามาเจรจากับฝ่ายไทย โดยอ้างว่า ไม่ทราบล่วงหน้า ว่าฝั่งไทยจะบังคับใช้มาตรการเข้มข้นนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังพบอีกว่า มีแรงงานกัมพูชาบางคน แสดงความไม่พอใจกับการดำเนินมาตรการดังกล่าว โดยบอกว่า จำเป็นต้องเอารถเข้ามาดำเนินการด้านเอกสารกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร มิฉะนั้นจะเสียค่าปรับ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ชาวกัมพูชาที่ใช้รถจักรยานยนต์ คาดว่า จะมีประมาณ 1 พันคัน ได้รับความเดือดร้อนในทันที ทั้งนี้ ผลการเจรจาระดับหน่วยปฏิบัติการระหว่างไทย–กัมพูชา ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชาเป็นไปด้วยดี โดยทั้งสองฝ่ายได้จับมือกัน และให้ต่างฝ่ายต่างชี้แจงให้ประชาชนของแต่ละประเทศทราบว่า หลังจากนี้ รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถเข็น ไม่สามารถข้ามแดนได้ แต่สามารถจอดไว้ฝั่งกัมพูชา และเดินข้ามผ่านแดนผ่านช่องคนเดิน เข้าสู่ฝั่งประเทศไทยได้ตามปกติ ทำให้สถานการณ์ในช่วงสายที่ผ่านมาคลี่คลายลงบ้าง ซึ่งกรณีนี้เจ้าหน้าที่ไทยแจ้งว่า ไม่สามารถผ่อนปรนได้ เนื่องจากเป็นคำสั่งจากกองกำลังบูรพาและเป็นมาตรการเพิ่มเติม เพื่อกำหนดระยะเวลาเข้า-ออก ตามมาตรการของไทย
—————————- ขอบคุณภาพ/สวท.สระแก้ว, ทีม ปชส.สระแก้ว, กกล.บูรพา