โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

Michelin พัฒนายางเพื่อ Ferrari F80

autoinfo.co.th

เผยแพร่ 17 ก.ค. เวลา 04.00 น.

ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R K1 สะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของ Michelin ได้เป็นอย่างดี โดยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี, วิศวกรรมที่เหนือชั้น และกระบวนการที่แปลกใหม่ ช่วยผลักดันให้ยางรุ่นนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านสมรรถนะบนถนนแห้งเพื่อสุดยอดยนตรกรรมอย่าง Ferrari F80 (แฟร์รารี เอฟ 80)

ครั้งแรกกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้เวลาเพียง 15 เดือน ขั้นตอนค้นคว้าทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางอย่างเข้มข้นด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง (Intensive Virtual Exploration Phase) ซึ่งผสานการออกแบบทางดิจิทอล, การจำลองภาพเสมือนจริงในกระบวนการระดับต้นน้ำ (Upstream Simulation) และกระบวนการผลิตพิเศษหนึ่งเดียวในโลกของมิชลินที่เรียกว่า C3M ช่วยลดระยะเวลาพัฒนายาง และจำนวนยางต้นแบบที่ต้องผลิตเพื่อทดสอบคุณสมบัติทางกายภาพลงได้อย่างมาก การผสานรูปแบบการดำเนินงานใหม่ๆ ดังกล่าวช่วยให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ยางสำหรับจำหน่ายทั่วไปได้เร็วขึ้น โดยสามารถนำคุณสมบัติด้านสมรรถนะของรถ Ferrari F80 มาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานได้ตั้งแต่ขั้นตอนวิจัยแรกสุด ที่สำคัญยังช่วยลดจำนวนยางต้นแบบที่ต้องผลิตเพื่อทดสอบลงได้ 20-30 % ส่งผลให้ปริมาณการปล่อยแกสเรือนกระจกลดลงมากตามไปด้วย

ระบบจำลองภาพเสมือนจริง…เพื่อสมรรถนะที่เหนือกว่า

ระบบจำลองภาพเสมือนจริง (Simulation) มักถูกสงวนไว้ใช้ในวงการมอเตอร์สปอร์ทโดยเฉพาะในการพัฒนายางสำหรับรถไฮเพอร์คาร์ แต่ Michelin และ Ferrari ได้นำระบบดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนการพัฒนายาง (Pre-Development Phase) ซึ่งรถยนต์ที่จะใช้งานด้วยยังอยู่ในรูปแบบเสมือนจริงเท่านั้น โดยระบบจำลองภาพที่นำมาใช้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดขนาดยางที่เหมาะสมกับรถที่สุด

การทดลองเสมือนจริง (Virtual Trials) 2 ครั้ง ซึ่งจัดทำโดยใช้ระบบจำลองพลศาสตร์ (Dynamic Simulator) ของ Ferrari ณ เมือง Maranello ประเทศอิตาลี ช่วยยืนยันความเหมาะสมในการนำระบบจำลองภาพเสมือนจริงมาใช้กำหนดขนาดยาง ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่าง Michelin และ Ferrari ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ในขั้นตอนการออกแบบยังมีการจำลองภาพเสมือนจริงเพิ่มอีก 3 ครั้ง ซึ่งช่วยให้สามารถระบุคุณสมบัติของยางที่เหมาะสำหรับสมรรถนะของรถยนต์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ยางที่มาพร้อมสมรรถนะโดดเด่นเพื่อ Ferrari F80

เพื่อรองรับขุมพลัง, แรงบิด, แรงกดทางอากาศพลศาสตร์ และการทำความเร็วสูงสุดของรถไฮเพอร์คาร์ Ferrari F80 Michelin ได้รังสรรค์เนื้อยางสูตรผสมใหม่โดยใช้กระบวนการผสมเช่นเดียวกับที่ใช้ในยางสำหรับกีฬามอเตอร์สปอร์ท แต่เป็นครั้งแรกที่นำกระบวนการดังกล่าวมาใช้กับยางสำหรับใช้งานบนถนนทั่วไป ทำให้ได้เนื้อยางที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะเป็นเยี่ยม และสามารถรองรับทุกความเร็วในการขับขี่ นอกจากนี้ ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R K1 ยังใช้โครงยางเรเดียลแบบ 2 ชั้น (Twin Layer) ที่เสริมความแข็งแกร่ง และมีความหนาแน่นสูง จึงรองรับแรงเค้นแนวดิ่ง (Vertical Stress) และแรงเค้นแนวขวาง (Transverse Stress) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยางรุ่นนี้ยังใช้เทคโนโลยีชั้นวัสดุเสริมแรงบริเวณไหล่ยางแบบใหม่ล่าสุด โดยเป็นยางรุ่นแรกที่สามารถลดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ลงได้อย่างเด่นชัดเนื่องจากมีการเพิ่มความหนึบบริเวณไหล่ยางตลอดรอบเส้นยางเพื่อเพิ่มศักยภาพการยึดเกาะในระดับสูงสุด

ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่องค์ประกอบทั้ง 3 ประการข้างต้นถูกนำมาใช้ในยางสำหรับใช้งานบนท้องถนนทั่วไป นอกจากนี้ Michelin Pilot Sport Cup 2 R K1 ยังมีขนาดยางแตกต่างจากปกติ คือ 285/30 R20 สำหรับยางล้อหน้า และ 345/30 R21 สำหรับยางล้อหลัง

C3M: กระบวนการผลิตที่พิเศษไม่เหมือนใคร

เนื่องจากยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R K1 มีการออกแบบทางเทคนิคที่ซับซ้อน เพื่อให้การผลิตยางรุ่นนี้เป็นไปอย่างแม่นยำมากที่สุด Michelin จึงนำกระบวนการผลิต C3M ที่พัฒนาขึ้นเองมาใช้ กระบวนการผลิตนี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการกำหนด และจัดวางวัสดุแต่ละประเภทอย่างแม่นยำ…คล้ายกับการพิมพ์ 3 มิติ ทั้งยังช่วยให้สามารถผลิตซ้ำได้ตรงตามคุณลักษณะที่กำหนดไว้ในขั้นตอนการพัฒนายางอย่างไม่เคยทำได้มาก่อน และคงความสม่ำเสมอได้ทุกรอบการผลิต ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยี C3M ของ Michelin จึงถือว่ามีความแปลกใหม่อย่างแท้จริง

Michelin ให้ความสำคัญกับสมรรถนะที่ยั่งยืน

การนำระบบจำลองภาพเสมือนจริงมาใช้ในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางร่วมกับ Ferrari ตั้งแต่ปี 2559 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Michelin ที่มีต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากขึ้น ทั้งนี้ ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R K1 ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับรถไฮเพอร์คาร์ Ferrari F80 (มีสัญลักษณ์ K1 บนแก้มยางเพื่อให้ทราบว่าเป็นยางที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ) ผลิตจากโรงงานในเขต Gravanches เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโรงงานที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ทั้งยังเป็นหนึ่งในโรงงานของกลุ่ม Michelin ที่มีปริมาณการใช้น้ำต่ำที่สุดอีกด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...