โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พริกใบด่างแบ่งพุ่มเปลี่ยนสีในต้นเดียว

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 04 ส.ค. 2564 เวลา 11.25 น. • เผยแพร่ 04 ส.ค. 2564 เวลา 11.25 น. • สำนักข่าวไทย อสมท

ประจวบคีรีขันธ์ 4 ส.ค.- เกษตรกรรายหนึ่งพบพริกขี้นกประหลาดในสวน พบมีใบด่างสีแบ่งพุ่มกันชัดเจน ทั้งสีเขียวและเหลืองในต้นเดียว เจ้าของบอกว่าทั้งเเปลงมีเพียงต้นเดียว 

ที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 4 บ้านท่าวังหิน ตำบลเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี จ.ประจวบฯ มีพริกขี้นกประหลาด มีใบด่างต่างสีแบ่งพุ่มกันอย่างชัดเจนในต้นเดียว คือสีเขียวแบบปกติ และมีใบด่างสีออกเหลืองทองในต้นเดียวกัน ดูแล้วแปลกตาสวยงาม และมีเพียงต้นเดียวเท่านั้นในแปลงปลูกที่พริกมีใบด่าง

นายกัมปนาท เทพทับทิม เกษตรกร ต.เขาจ้าว เล่าว่ามีอาชีพทำไร่ทำสวนปลูกพริก ปลูกมะเขือยาว ปลูกข้าวโพด ตามฤดูกาล และเลี้ยงปลา โดยภรรยาเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน ตนเองทำการเกษตรมานานหลายสิบปี ไม่เคยเจอต้นพริกใบด่างที่มีลักษณะสวยงามเช่นนี้มาก่อน ส่วนใหญ่เคยเจอแต่พริกใบหงิกงอ และยืนต้นตายเท่านั้น สำหรับพริกขี้นกต้นนี้มีความแปลกแตกต่างจากต้นอื่นคือ มีเพียงต้นเดียวในไร่เท่านั้นที่มีใบด่าง และมีใบสีเหลืองออกทอง ภายในต้นเดียวกัน แต่แบ่งพุ่มกิ่งคนละสี โดย 1 พุ่ม เป็นสีเขียวปกติแต่อีก 1 พุ่ม เป็นสีเหลืองออกทอง ซึ่งดูแล้วสวยงามตา แถมใบไม่ได้งอเหมือนพริกที่เป็นโรคระบาดทั่วไป 

พริกต้นนี้ยังออกดอกออกผลให้เก็บไปขายตามปกติอีกด้วย ซึ่งขณะนี้มีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 90-100 บาท ต่อกิโลกรัม นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงก็ยังมีมะเขือยาวอีก 1 ต้น ที่มีใบด่างแต่ไม่สวยเท่ากับต้นพริก สาเหตุที่ตนเองปลูกพริกในช่วงฤดูกาลนี้ เนื่องจากมีฝนตกลงมาอยู่เรื่อยๆ และพริกนับวันเริ่มมีราคาสูงขึ้น แต่ถ้าใครสนใจจะซื้อต้นพริกของตน ก็ยินดีขายให้ดีกว่าปล่อยให้ยืนต้นตายไปตามอายุขัย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...