โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

คติการโล้ชิงช้า กับตำนานพิธีกรรมสืบทอดใน "ชาวเขาอาข่า"

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 30 ส.ค. 2564 เวลา 04.25 น. • เผยแพร่ 29 ส.ค. 2564 เวลา 05.52 น.
(ภาพจาก

ความเชื่อนับเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คน ไม่ว่าที่ไหนต่างก็มีความเชื่อเป็นเอกลักษณ์ภายในกลุ่มชนเผ่าตนเอง ซึ่งความเชื่อนั้นก็มีความแตกต่างหลากลายกันออกไปตามพื้นที่

“อีก้อ” หรือ “อาข่า” เป็นชนเผาหนึ่งที่อยู่ในตระกูลภาษาธิเบโต – เบอมัน หรือธิเบต – พม่า ซึ่งมีความใกล้ชิดกับชาวเขาเผ่ามูเซอ และจัดว่าเป็นสาขาหนึ่งของพวกโล – โลซึ่งมีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่ในมลฑลยูนานประเทศจีน

เมื่อเกิดสงครามปฏิวัติขึ้นภายในประเทสจีน อาข่าส่วนหนึ่งก็ได้อพยพหาแหล่งทำกินแห่งใหม่ด้วยการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานเดิมจากไกวเจาและยูนาน ก่อนเดินทางไกลเข้าสู่ประเทศพม่าทางรัฐว้าและเชียงตุง เมื่อเวลาผ่านไปอาข่าส่วนหนึ่งจากประเทศพม่าก็รอนแรมเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยการตั้งถิ่นฐานกระจายกันอยู่เป็นหมู่บ้านน้อยใหญ่ ตามพื้นที่ดอยสูงในท้องที่อำเภอแม่จันและอำเภอแม่สายของจังหวัดเชียงราย

ตำนานโล้ชิงช้าพิธีกรรมสืบทอดของอาข่า

อาข่าเป็นชาวเขาอีกเผ่าหนึ่งที่ยังคงความเชื่อพิธีกรรมด้านไสยศาสตร์และบูชาผีบรรพบุรุษไว้อย่างมั่งคงด้วยยึดถือว่าพิธีกรรมประจำเผ่าพันธุ์คือมรดกอันล้ำค่าที่สืบทอดกันมหลายช่วงอายุคน

โล้ชิงช้า เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งของชาวเขาเผ่าอาข่าที่ทุกหมู่บ้านต่างถือว่าเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญแห่งการรื่นเริงเทียบเท่ากับเทศกาลพิธีขึ้นปีใหม่ ส่วนใหญ่เทศกาลโล้ชิงช้าของอีกก้อจะมีขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมหรือเดือนสิบของทุกปี โดยงานเทศการรื่นเริงนี้จะมีพิธีจัดขึ้น 4 วันด้วยกัน

ตูโม่หรือหมอผีประจำหมู่บ้านแสนใจ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายได้ทบทวนถึงตำนานความเป็นมาของพิธีกรรมโล้ชิงช้านี้ว่า“เป็นพิธีกรรมที่จัดขึ้นมาเพื่อฉลองรวงข้าว ด้วยฤดูกาลที่มีงานคือช่วงเวลาที่ข้าวไร่บนดอยสูงเริ่มชูช่อออกรวง อีก้อทุกคนในหมู่บ้านจะต้องหยุดงานหนักกลางไร่โล่ง เพื่อเข้าร่วมพิธีนี้โดยพร้อมหน้ากัน

ในตำนานที่ถ่ายทอดกันมาเนิ่นนานบ่งบอกว่า เมื่อเทพอเพรอมิแย ผู้ซึ่งเป็นเทพที่ไม่ใช่ผีและไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งถือกำเนินขึ้นมาเองในโลกได้ทำการสร้างโลกขึ้น เทพอีกสององค์คือ อึมซาและอึมแยก็ได้ถือกำเนินขึ้นมาในโลกด้วยเช่นกัน โดยเทพทั้งสององค์นี้เป็นเทพที่มีอำนาจบันดาลให้เกิดฝนตก และยังสามารถติดต่อกับพระอาทิตย์ให้ส่องแสงและหยุดส่องแสงได้

เทพทั้งสององค์นี้มีบุตรธิดาสององค์ คืออึมซายิ เทพบุตรซึ่งเป็นผู้ประกอบพิธีโล้ชิงช้า อาข่าทุกคนต่างยึดถือว่าอึมซาแยะคือบรรพบุรุษของพวกเขา ด้วยมีลูกหลานมีชื่อเสียงเรียงนามสืบช่วงกันมาได้ประมาณหกสิบรุ่น จนถึงนายทูแซหรือนายแสนใจแห่งหมู่บ้านแสนใจ

พิธีโล้ชิงช้าจึงจัดขึ้นเพื่อบูชาอึมซาแยะ เพื่อขอความอุดมสมบูรณ์ให้กับข้าวและเพื่อบูชาผีบรรพบุรุษอาข่าทุกหมู่บ้านยึดถือพิธีโล้ชิงช้าเป็นพิธีสำคัญสำหรับผู้หญิงอาข่าทุกคน ฉะนั้นในพิธีนี้ผู้หญิงอาข่าทุกคนทั้งเด็กหญิงสาวและผู้เฒ่าต่างก็แต่งกายอย่างปราณีตสวยงาม ก่อนจะเข้าร่วมชุมนุมกันพร้อมหน้าในบริเวณลานดินโล่งปากทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมนี้

ชิงช้าอาข่ามีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ มีเพียง 2 แบบ ที่ใช้ประกอบพิธีกรรม นั่นคือ

ชิงช้าแบบ 4 เสา เป็นรูปลักษณ์ชิงช้าที่ทำพิธีโล้กันมาตั้งแต่สมัยเทพอึมซาแยะ ชิงช้าแบบนี้ทำด้วยเสาไม้ 4 ต้น ปักอยู่บนลานดิน โดยปลายยอดไม้ผูกมัดรวบเข้าหากัน มีเชือกที่ทำจากเถาวัลย์ทิ้งห้อยลงมาตรงกึ่งกลางเสา ปลายเชือกเส้นนี้ทำเป็นบ่วง

ชิงช้าอีกแบบหนึ่งใช้เสาไม้ 2 ต้น ปักไว้บนลานดินโดยปลายยอดมีง่ามบากสำหรับรองรับแกนกลางและมีแขนยื่นออกไปทั้ง 4 ด้าน ตรงกันข้ามปลายแขนซึ่งเป็นไม้สองอันคู่กันจะผูกยึดปลายด้วยไม้ไผ่ มีลักษณะคล้ายชิงช้าสวรรค์หรือระหัสวิดน้ำ โดยทั้ง 4 แขนจะมีเชือกผูกห้อยลงมาเป็นเปล ชิงช้าแบบนี้โล้ได้ครั้งละ 4 คน

ชิงช้าอีกแบบหนึ่งคือชิงช้าสำหรับเด็ก สร้างขึ้นคล้ายกับแบบแรก แต่สร้างไว้หน้าบ้านทุกหลัง เพื่อให้เด็กอาข่าได้โล้เล่นกัน ชิงช้าแบบนี้ต่างกับชิงช้าใหญ่ของหมู่บ้านตรงเชือกห้อยตรงกลางสำหรับโล้นั้นทำด้วยเชือกสองเส้น ตรงปลายเชือกที่เด็กขึ้นไปนั่งโล้วางพาดด้วยไม้ไผ่หรือท่อนไม้ จึงมีลักษณะคล้ายเปล

แม้กลุ่มชนเผ่าอาข่าจะมีวิถีชิีวิตห่างไกลจากสังคมอาศัยอยู่ตามดอยสูง แต่อาข่าก็ยังเป็นชาวเขาเผ่าหนึ่งที่ยังคงรื่นเริงกับประเพณีความเชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของเผ่าพันธุ์ พิธีกรรมโล้ชิงช้าเป็นข้อบ่งชี้ชัดว่า มรดกหลายช่วงอายุบรรพบุรุษอาข่ายังไม่ได้เลือนหายไปไหน

 

อ้างอิง

บทความ “โล้ชิงช้าบูชาอึมซาแยะ พิธีกรรมของอีก้อ”. โดย นายไหม. ศิลปวัฒนธรรม ฉบับมกราคม 2528

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...