"อรรถพล" ลงพื้นที่ ตรวจฟื้นฟูโรงไฟฟ้าจะนะ ย้ำไฟฟ้าภาคใต้ยังมั่นคง
วันนี้ (6 ธันวาคม 2568) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูโรงไฟฟ้าจะนะหลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีนายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน และนายนรินทร์ เผ่าวณิช ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมตรวจสอบสภาพพื้นที่และระบบงานภายในโรงไฟฟ้าอย่างละเอียด
ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ รมว.พลังงานได้รับรายงานว่าขณะนี้ กฟผ. ได้ดำเนินการสูบน้ำออกจากพื้นที่ เก็บกวาดตะกอน ทำความสะอาดอุปกรณ์ และจัดการขยะอันตรายเรียบร้อยแล้ว รวมถึงตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง จุดเก็บสารเคมี และถังเชื้อเพลิง เพื่อประเมินความพร้อมสำหรับการฟื้นฟูขั้นต่อไป พร้อมกำชับให้เร่งจัดทำแผนซ่อมบำรุงอย่างเป็นระบบ โดยมีการประสานไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกงและโรงไฟฟ้าวังน้อย เพื่อเตรียมอะไหล่สำรองรองรับการซ่อมแซม คาดว่าโรงไฟฟ้าจะนะจะสามารถกลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติภายใน 4 เดือน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยืนยันว่า ในระหว่างการฟื้นฟูจะไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าภาคใต้ เนื่องจากได้ให้โรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และโรงไฟฟ้ากระบี่ จังหวัดกระบี่ เดินเครื่องเต็มศักยภาพ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจว่าจะสามารถใช้ไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง
จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยังโรงแยกก๊าซธรรมชาติ บริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด (TTM) เพื่อติดตามความเสียหายที่เกิดจากอุทกภัย ซึ่งพบว่าบางส่วนของโรงแยกก๊าซฯ ได้รับผลกระทบและอยู่ระหว่างการฟื้นฟู โดยคาดว่าจะสามารถกลับมาดำเนินงานได้เต็มระบบภายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ทั้งนี้ โครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซฯ ไทย–มาเลเซีย ซึ่งไทยและมาเลเซียถือหุ้นในสัดส่วน 50:50 ยังคงมีบทบาทสำคัญในการจัดหาพลังงานสะอาดเพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ภายใต้ระบบขนส่งและมาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจตรวจสอบพื้นที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เดินทางไปยังสนามกีฬาอำเภอจะนะ เพื่อพบปะและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัย พร้อมมอบถุงยังชีพและข้าวกล่องรวม 1,000 ชุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
นายอรรถพลกล่าวว่า แม้โรงไฟฟ้าจะนะและโรงแยกก๊าซธรรมชาติ TTM จะได้รับผลกระทบจากอุทกภัย แต่ทุกหน่วยงานได้เร่งดำเนินการฟื้นฟูอย่างเต็มกำลัง ควบคู่กับการดูแลประชาชนในพื้นที่ พร้อมย้ำว่าการฟื้นฟูทั้งหมดจะต้องทำอย่างรัดกุม มีการทดสอบระบบอย่างสมบูรณ์ก่อนกลับมาเดินเครื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุดต่อความปลอดภัยและความมั่นคงทางพลังงานของภาคใต้และของประเทศในภาพรวม