สู่ปีพุทธศักราช ๒๕๖๙… ด้วยคำขวัญ “คนดีของแผ่นดิน .. นำชาติพ้นภัย”..
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ติดตามข่าวสารที่ร้อนระอุไปทั่วโลก ด้วยความขัดแย้งในหลากหลายมิติ ได้แต่ปลงสังเวชในความเป็นไปของโลก ที่กำลังลดเพดานต่ำลงสู่ความเสื่อมสลาย อย่างยากจะหลีกเลี่ยง
ได้เห็นภาพการดิ้นรนต่อสู้ ทำร้ายทำลายกัน ในทุกรูปแบบที่สร้างสรรค์ด้วยโมหจิต.. อันเป็นไปด้วยความเห็นแก่ตัวเพื่อความอยู่รอดของตนเอง อย่างไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา ที่ช่างสอดรับกับนิมิตที่ปรากฏในหลายปีที่ผ่านมา ว่า… ได้เห็นภาพหมู่ชนในโลกนี้ ใช้ศาสตราอาวุธไล่ล่าประหัตประหารกัน เฉกเช่นสัตว์เดรัจฉาน ด้วยจิตใจไร้ความเมตตากรุณา แพร่ระบาดไปทั่วทุกหย่อมหญ้า… ในสังคมที่เร่าร้อนด้วยเพลิงกิเลส เพื่อให้เห็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้นในสังคมมนุษยชาติ ว่า ในเบื้องหน้าจะเกิด กาลกลียุค
ด้วย กรรมนิยาม ที่ทำหน้าที่อย่างยุติธรรม.. วันนี้ของโลก ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง สมกับความเป็นกาลอันเสื่อมจากศีลธรรม ที่ได้เห็นการแสวงหาผลประโยชน์กันอย่างไร้ความเป็นธรรม.. แม้ในบ้านเมืองที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอารยธรรม
ปรากฏการณ์การใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่เป็นธรรมของผู้มีอำนาจหน้าที่.. การละเว้นในธรรมของผู้ปกครองหรือในผู้มีอำนาจปกครองแผ่นดิน.. การไม่เคารพในสิทธิและหน้าที่โดยธรรมของมหาชน.. เป็นปัญหาใหญ่ในสังคมที่อ้างอิงอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย ที่ขาดความเข้าใจใน “ธรรมนิยาม”.. ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยมนุษยชาติ.. อย่างไร้ความใส่ใจ “อำนาจแห่งธรรม” (ธรรมาธิปไตย)
ความไม่เคารพธรรม.. ไม่ยกย่องธรรม.. ไม่เชิดชูธรรม.. จึงนำไปสู่การมีความประพฤติไปในวิถี มิจฉาธรรม.. ตกอยู่ภายใต้อำนาจ อภิชฌา (ความเพ่งเล็งอยากได้ในของของเขา) และไปสู่การประกอบการทุจริตในทุกวิธีการ อย่างไร้จิตสำนึกของความเป็นสัตว์ประเสริฐในสังคมยุคนี้
ปัญหาสแกมเมอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์.. จึงเกิดแพร่ระบาดในสังคมยุคสมัยดิจิทัล ที่อาศัยเครื่องมือโทรคมนาคมให้นำไปสู่การก่ออาชญากรรมระดับโลก ที่นับเป็นขบวนการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม ที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งในปัจจุบัน ซึ่งทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาดังกล่าวอยู่ ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศไทย ดังปรากฏสถิติการแจ้งความจากอาชญากรรมดังกล่าวทั้งหมดถึง หนึ่งล้านห้าหมื่นแปดพันห้าสิบหกเรื่อง (๑,๐๕๘,๐๕๖ เรื่อง) ในระหว่างมีนาคม ๒๕๖๕-กันยายน ๒๕๖๘ มีมูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้น (อย่างเป็นทางการ)หนึ่งแสนสี่ร้อยแปดล้านกว่าบาท (๑๐๐,๔๐๘,๐๑๖,๘๗๒ บาท) ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมถึงส่วนที่ไม่ได้แจ้งความ ซึ่งมีไม่น้อยเช่นเดียวกัน
ปัญหาสแกมเมอร์ที่เป็นอาชญากรรมร้ายแรง ได้พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วในสถิติอาชญากรรม ปรากฏความจริงตามสถิติตัวเลขจำนวนเงินที่เสียหายในส่วนของประชาชนที่ถูกฉ้อโกงจากทั่วโลกจำนวนหลายล้านล้านบาท.. ที่น่าห่วงใยยิ่ง คือ.. ผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อทางจิตใจของประชาชน..
โดยเฉพาะ ประเทศ ที่อยู่ในภูมิรัฐศาสตร์แวดล้อมไปด้วยประเทศเพื่อนบ้านที่เป็น แหล่งสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ ที่ยากจะหลีกเลี่ยงออกจากภัยพิบัติดังกล่าว.. ด้วยความเป็นแผ่นดินที่เชื่อมโยงกับแหล่งพักพิงของกลุ่มแก๊งอาชญากรเหล่านี้ จึงได้เห็นเส้นสายของทุรชนกลุ่มคนสีเทาดำเชื่อมโยงผ่านเข้ามาทาง บุคคล.. องค์กรต่างๆ.. ที่สัมพันธ์กับอำนาจของรัฐ โดยเฉพาะนักการเมือง
จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน ที่จะต้องช่วยกันเลือกสรร คนดี สุจริตชน.. เพื่อเป็นตัวแทนเข้าไปมีอำนาจหน้าที่ในการปกครองบริหารประเทศ จะได้นำรัฐไปในทางที่ถูกต้อง ไม่อยู่ภายใต้อำนาจอาชญากรจากกลุ่มแก๊งต่างๆ…
การเลือก “คนดี .. มีความรู้ความสามารถ” ที่จะเกิดขึ้น ในต้นปีใหม่ (๒๕๖๙) นี้ จึงเป็นโอกาสอันสำคัญยิ่งของชาวไทยทุกคนที่จะต้องทำหน้าที่ทั้งโดยกฎหมายและจิตสำนึกความรับผิดชอบ
จะได้ไม่ตกไปสู่อำนาจ กระแสทุนนิยมสีเทา ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วแผ่นดิน ซึ่งมีวิธีการฉ้อฉลต่างๆ นานา อย่างยากจะรู้เท่าทันในกลไกของทุรชนเหล่านั้น ที่คิดใหม่ได้ทุกนาที…
การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นในประเทศและเชื่อมโยงไปทั่วโลก.. เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องร่วมใจกันอย่างมีจิตสำนึก.. มีอุดมการณ์ตรงธรรม.. คำนึงถึงความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติเป็นสำคัญ ซึ่งจะต้องเรียนรู้ให้เข้าใจในโทษภัยของกลุ่มอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ ที่โยงใยเข้ามาสู่ในประเทศของเราอย่างมีระบบแบบแผน เพื่อยึดแผ่นดินของเราเป็นแหล่งพักพิงอาชญากรรมข้ามชาติ .. ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จักต้องรู้เท่าทันกลโกงและไม่หลงเชื่อ ไม่ว่าผลประโยชน์ใดๆ ที่ตอบแทน โดยพึงจดจำเสมอว่า.. ไม่มีการให้ใดๆ ที่ไม่หวังผลตอบแทน.. และไม่มีการได้อะไรมาฟรีๆ.. โดยเฉพาะจากทุจริตชน!
ในวาระเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในขณะนี้ จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องช่วยกันป้องกันมิให้สังคมถูกกลืนกินด้วยการใช้ อำนาจหน้าที่โดยไม่เป็นธรรม (Abuse power) ..ไม่ว่าบุคคลนั้นๆ จะเป็นใคร มีฐานะตำแหน่งยศศักดิ์อะไร.. พึงต้องท่องคาถาประจำใจ ว่า.. “จักไม่เกรงใจ ต่อคนที่ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม.. จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมกับทุจริตชน”
จึงควรที่จะต้องศึกษาสาเหตุของปัญหาต่างๆ ที่กำลังถาโถมเข้ามาทำลายสังคมที่เปราะบาง จากการใช้อำนาจหน้าที่ไม่เป็นธรรม เพื่อให้ทราบถึงความเป็นจริง จะได้ไม่นำประเทศชาติไปติดกับดักของอาชญากรระดับโลก ที่แสวงหาผลประโยชน์แอบแฝงอย่างไม่เป็นธรรมในทุกกรณี ที่เป็นปัญหาในหลากหลายมิติ อันนำความเดือดร้อนไปสู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์.. ทำลายความสงบและระบบเศรษฐกิจความมั่นคงพื้นฐานของประเทศ โดยอาศัยความเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจหน้าที่และฐานะของผู้ที่มีบทบาทในสังคมประเทศเป็นสำคัญ…
ในโอกาสที่ชาวไทยทุกคนจะได้ใช้สิทธิ์ของตนเอง เพื่อเลือกบุคคลไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร.. (๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๙).. ในฐานะพลเมืองไทยตามรัฐธรรมนูญ จึงควรอย่างยิ่งที่จะช่วยกันรณรงค์ให้ทุกคนได้รู้เท่าทันในปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น และช่วยกันแก้ไขปัญหาผ่านระบบรัฐสภา.. อย่าได้สูญเสียความเชื่อมั่นหมดศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย.. ที่ดูเสมือนว่า ไม่ได้ช่วยให้สังคมไทยผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปได้เลย… จากที่ผ่านมา
พึงท่องคาถาวิเศษให้คล่องจิตขึ้นใจ ว่า.. ทุกปัญหาแก้ได้ด้วยตัวเรา โดยคำนึงถึงหลักธรรมคำสั่งสอนที่กล่าวไว้ว่า… ทุกปัญหาแก้ที่เหตุ.. และมนุษย์เท่านั้นที่แก้ปัญหาของมนุษย์…
สำคัญอย่างยิ่ง.. คือ การพัฒนาให้ตัวเรามีความพร้อมในสติปัญญา เพื่อการแก้ปัญหาด้วยตัวเราเอง ด้วยการเข้าถึงเหตุของปัญหานั้นๆ ตรงธรรมอย่างแท้จริง.. โดยพิจารณาให้เข้าใจอย่างเป็นธรรมดาว่า…
ปัญหาในสังคมประเทศชาติ เกิดขึ้นจาก คนเลวเป็นเหตุ.. แห่งการกระทำทุจริต…
สำคัญอย่างยิ่งที่แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะเราทุกคนไม่ยอมแก้ไขปัญหาด้วยตัวของเราเอง.. อย่างกล้าหาญ ซื่อตรง แน่วแน่.. ในฐานะ คนดีของแผ่นดิน!!.
เจริญพร
dhamma_araya@hotmail.com