โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

รีวิว Trap ตามล่าฆาตกรโรคจิต หนังหลอนๆ สไตล์ ผู้กำกับ M. Night Shyamalan ให้กี่คะแนนดี ?

LSA Thailand

อัพเดต 08 ส.ค. 2567 เวลา 11.41 น. • เผยแพร่ 08 ส.ค. 2567 เวลา 04.41 น. • Lifestyle Asia Thailand
รีวิว Trap

ในโลกแห่งความลึกลับและการไล่ล่าอันน่าสะพรึงกลัว“Trap” ผลงานการกำกับโดย M. Night Shyamalan ผู้สร้างสรรค์ภาพยนตร์ระทึกขวัญอันเลื่องชื่อ ได้นำเสนอประสบการณ์สุดหลอนที่ท้าทายขีดจำกัดของคุณ วันนี้ตามมาอ่าน รีวิว Trap จากทาง LSA Theater! กันเลย

เตรียมตัวให้พร้อมที่จะดำดิ่งสู่ห้วงลึกของจิตใจอันบิดเบี้ยวของฆาตกรโรคจิตที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางเรา ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจทุกแง่มุมของภาพยนตร์เรื่องนี้ ตั้งแต่บรรยากาศที่ชวนขนลุกไปจนถึงการหักมุมอันน่าทึ่งที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของคุณน้า Shyamalan คุณพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่กับดักแห่งความสยองขวัญแล้วหรือยัง? ร่วมเดินทางไปกับเราเพื่อไขปริศนาและเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ในเงามืด ณ บัดนี้

Spoiler Alert!!! บทความนี้อาจมีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญบางส่วนจากในภาพยนตร์

Lifestyle Asia rating: 3.5/5

ประเภทหนัง: ระทึกขวัญ ตามล่าหาคนร้าย ท่ามกลางสถานการณ์กดดันพื้นที่ปิด แฟนคลับ 30,000, ตำรวจ 300, ฆาตกรโรคจิต 1 = ไม่มีทางหนี ?

นักแสดง:

  • Josh Hartnett รับบทเป็น Cooper
  • Ariel Donoghue รับบทเป็น Riley
  • Saleka Shyamalan รับบทเป็น Lady Raven (ลูกสาวของ M. Night Shyamalan)
  • Alison Pill รับบทเป็น Rachel
  • Hayley Mills รับบทเป็น Dr. Josephine Grant
  • Jonathan Langdon รับบทเป็น Jamie

ผู้กำกับ: M. Night Shyamalan

เวลา: 1 ชั่วโมง 46 นาที

ดูได้ที่ไหน: โรงภาพยนตร์

ดูได้เมื่อไหร่: 1 สิงหาคม 2024

เราชอบอะไรในหนังเรื่องนี้

การแสดงของJosh Hartnett ที่รับบทเป็น Cooper ได้อย่างน่าเชื่อ สามารถถ่ายทอดความเป็นพ่อที่รักลูกและความเป็นฆาตกรต่อเนื่องได้อย่างลงตัว การแสดงของเขาทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจและน่ากลัวไปพร้อมๆ กัน อีกส่วนคือสไตล์การกำกับของ M. Night Shyamalan ที่ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบหักมุม อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเพื่อสร้างความตึงเครียดและความเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชม การกำกับของเขาสร้างบรรยากาศที่ตรึงเครียดเข้มข้นขึ้น และมีความเป็นลายเซ็นต์ตัวเองชัดมากๆ หนังใช้สถานที่จัดคอนเสิร์ตเป็นฉากหลักได้อย่างน่าสนใจ เล่นกับความรู้สึกเราว่า ถ้าเกิดเหตุุไม่คาดคิดจริงๆ เราจะหนีรอดออกมาได้อย่างไร อีกส่วนที่ต้องขออวยเลยคืองานด้านภาพ มุมกล้องของ สยมภู มุกดีพร้อม ผู้กำกับภาพชาวไทย จาก Challengers และลุงบุญมีระลึกชาติ มีการโคลสอัพใบหน้านักแสดงบางช่วง ที่สื่อถึงอารมณ์ ความไม่ปกติ สภาพจิตใจ ความรู้สึกภายในของฆาตกรได้ดีเลย

เราไม่ชอบตรงไหน

หนังมีการตัดต่อที่รีบเร่งจนบางฉากทำให้ดูไม่ลื่นไหล ทำให้เรื่องราวขาดความต่อเนื่องในบางช่วง รวมถึงมีช่องโหว่ของเรื่องราวค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในบางฉากที่ดูเหมือนจะไม่สมเหตุสมผล การที่ตัวละครตำรวจดูไร้ความสามารถเกินไปก็ทำให้บางฉากดูเหมือนตลกขบขันมากกว่าจะสร้างความตึงเครียด ทำให้ความลึกซึ้งของเรื่องราวที่อาจไม่เพียงพอกับความเข้มข้นที่ปูไว้ สำหรับบางคนอาจรู้สึกว่าหนังขาดความลึกซึ้งและสมจริงในบางประเด็น การที่เรื่องราวดูเหมือนจะเกินเหตุจนเกินไปในบางจุดก็อาจทำให้ผู้ชมบางคนรู้สึกว่าหนังขาดความน่าเชื่อถือ เช่น การตัดสินใจบางอย่างของตัวละคร แทนที่จะโชว์ถึงไหวพริบ ความชาญฉลาด แต่กลับรอดมาได้ด้วยความบังเอิญแทน

Photo Credit: IMDb

เนื้อเรื่องย่อ

เล่าเรื่องราวของ Cooper (Josh Hartnett) พ่อเลี้ยงเดี่ยวที่พาลูกสาว Riley (Ariel Donoghue) ไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินดัง Lady Raven (Saleka Night Shyamalan) แต่กลับพบว่าตัวเองติดอยู่ในแผนการล่อจับของตำรวจที่รู้ว่า Cooper คือ “The Butcher” ฆาตกรต่อเนื่องที่ตามหาอยู่นานแล้วกว่า 7 ปี 12 คดี โดยเหยื่อจะถูกสังหารโหดโดยถูกสับเป็นชิ้นๆ

ตำรวจและ FBI ได้วางแผนให้คอนเสิร์ตของ Lady Raven เป็นกับดักเพื่อจับ Cooper โดยมีตำรวจและกล้องวงจรปิดมากมายในงาน จน Cooper ได้รับรู้ถึงแผนการของตำรวจจากพนักงานขายของที่ระลึกคนหนึ่ง และใช้วิธีการต่างๆ เพื่อหลอกล่อตำรวจเพื่อหลบหนี เช่น การขโมยบัตรผ่านของพนักงานเพื่อเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ในงาน และการใช้ลูกสาวเป็นเครื่องมือในการหาทางออก

ในระหว่างที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในงานคอนเสิร์ต Cooper ก็พยายามสร้างความสัมพันธ์กับลูกสาวที่ห่างเหินกันมานาน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเปิดเผยตัวต่อ Lady Raven แต่แผนการกลับพลิกผันเมื่อ Lady Raven ใช้โอกาสนี้เพื่อเข้าไปรู้จักครอบครัวของ The Butcher ท้ายที่สุด Cooper ก็พยายามหลบหนีออกจากงานคอนเสิร์ตท่ามกลางความวุ่นวายและการไล่ล่าของตำรวจ แต่ก็ไม่ทราบได้ว่าเขาจะสามารถหลบหนีได้สำเร็จหรือไม่ ?

อีกครั้งกับความผิดหวัง หรือ คนดูคาดหวังมากเกินไป ?

รีวิว Trap ของเราคงเริ่มจากสิ่งที่น่าสนใจทั้งหมดคงจะเป็น 2 องก์ แรก นั่นคือฉากเปิดเรื่องมาที่เราได้เห็นตัวละคร Cooper คุณพ่อมาดแสนธรรมดา อบอุ่น แฟมิลี่แมน ที่พาลูกสาวไปดูคอนเสิร์ตป็อปสตาร์คนดัง เพื่อให้รางวัลที่เรียนได้เกรดดี เมื่อเข้าไปในสนามกีฬาทุกอย่างก็ดูน่าสงสัยเมื่อเค้าสังเกตุเห็นถึงความผิดปกติ ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้อง CCTV ที่มีจำนวนมากในฮอลล์คอนเสิร์ต อาจจะเนื่องด้วยสัญชาตญาณของฆาตกรก็เป็นได้

หลังจากนั้น Cooper ก็ออกห่างจากลูกสาวเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ทุกอย่างเหมือนในตัวอย่างเป๊ะๆ ทำให้เราได้เห็นอีกตัวตนในคือการเป็น The Butcher ฆาตกรต่อเรื่องต่อเนื่องที่ตำรวจกำลังตามล่า เค้าเปิดโทรศัพท์ดูกล้องวงจรปิด ที่เห็นเหยื่อกำลังถูกขังไว้ในโกดังที่ไหนสักแห่งแถวชานเมือง สาเหตุที่ทาง FBI และหน่วย SWAT มาวาง กับดัก (Trap) ในงานคอนเสิร์ตนี้ได้ อันเนื่องมาจากพวกเขาพบหลักฐานเป็น ตั๋วคอนเสิร์ตถูกฉีกไว้ในโกดังร้างแห่งหนึ่งในที่เกิดเหตุ ทำให้ทางตำรวจเชื่อว่า ฆาตกรต่อเนื่องคนนี้จะต้องมาดูคอนเสิร์ตนี้แน่ๆ

Photo Credit: IMDb

ทำให้ Dr. Grant (รับบทโดย Hayley Mills) นักวิเคราะห์พฤติกรรมฆาตกรต่อเนื่องผู้ชาญฉลาด ได้ให้เบาะแสมาว่าฆาตกรคือ ชายกลางคน ผิวขาว ตัวสูง มีรอยสักรูปกระต่ายตรงข้อมือซ้าย สถานการณ์บีบคั้นให้ Cooper ต้องการทางออก โดยการหลบหนีไปด้านหลังเวที โดยฉกบัตรผ่านประตูจากพนักงาน ไปยังห้องต่างๆ จนพบกับคุณลุงของศิลปินสาว จึงโกหกว่าลูกสาวตัวเองกำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เพื่อให้ได้รับเลือกเป็นผู้โชคดีขึ้นไปบนเวทีกับ Lady Raven จนท้ายที่สุดความตื่นเต้นพังทลายตรงองก์ 3 ที่คุณน้าดันบอกความจริงกับ นักร้องสาวไปซะหมดเปลือกเพื่อให้ตัวเองรอดจากสถานที่นี้ ดูถึงตอนนี้ก็ต้องขมวดคิ้วกันทั้งโรงว่า อิหยังว่ะ! ทำไมการตัดสินใจของฆาตกรต่อเนื่องคิดได้แบบนี้จริงๆ หรือ แล้วเราจะลุ้นกันกี่โมง ? หมดสนุกแล้วสิ !

ทำให้เนื้อหาต่อจากนี้เป็นอะไรที่ดูเนือยๆ น่าเบื่อ เอามากๆ คล้ายว่าจะมีหักมุมให้เราลุ้น สนุกบ้างแล้ว แต่ก็เหมือนจุดพุลงแม่น้ำ คล้ายจะมีอะไร แต่ก็ไม่มีอะไรซะอย่างนั้น ถ้าคุณเคยประทับใจกับ “The Sixth Sense” “Knock at the Cabin” “Unbreakable” “Split” หรือเรื่องอื่นๆ ของ M. Night ก็คงจะชอบได้ไม่ยาก แต่สำหรับเราแล้ว อยู่ในระดับกลางๆ ดูเอาเพลินได้ แต่คงไม่ได้ประทับใจถึงขนาดจะไปดูซ้ำ หรือมีความทรงจำดีๆ มาเล่าต่อเมื่อออกจากโรง

The Butcher

ตัวละคร The Butcher หรือ Cooper มีเหตุผลที่ซับซ้อนหลายมิติที่ทำให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องได้ อันด้วยเหตุการณ์ที่อาจส่งผลต่อจิตใจของเขา โดยภาพยนตร์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนักเกี่ยวกับอดีตของเขา แต่การที่เขามี อาการจิตเภท (psychosis) และความเครียดจากการใช้ชีวิตในฐานะพ่อเลี้ยงเดี่ยวอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เขาหลงทางและกลายเป็นฆาตกร การเป็นทั้งพ่อที่รักลูกและฆาตกรที่มีด้านมืดซึ่งทำให้เขามีความขัดแย้งภายในตัวเอง การที่เขาต้องปกปิดตัวตนที่แท้จริงจากครอบครัวและสังคม ทำให้เขาต้องเผชิญกับความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทำที่รุนแรงในที่สุด

Photo Credit: IMDb

ในช่วงเวลาที่เขาต้องเผชิญกับการถูกจับจากตำรวจในคอนเสิร์ตของ Lady Raven ทำให้ Cooper ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับ ซึ่งการกระทำเหล่านี้อาจเป็นผลจากความกลัวและความกดดันที่เขาเผชิญ ทำให้เขาตัดสินใจที่จะใช้ความรุนแรงเพื่อปกป้องตัวเอง จากการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ข้อดีคือการได้ Josh Hartnett มารับบทนี้ ซึ่งการแสดงของเขา สามารถโอบอุ้มบทนี้ให้มีเสน่ห์อย่างมาก โดยเฉพาะรอยยิ้มแบบจิตๆ หลอนๆ ที่ติดตาเรา แต่กลับไปที่เรื่องของบทที่เป็นปัญหา ทำให้ The Butcher จึงไปไม่สุุดทาง ไม่ได้กลายเป็นฆาตกรสุดโหดในความทรงจำของเรา แถมออกจะดูตลกในบางการตัดสินใจในบางฉากด้วยซ้ำ ได้วัตถุดิบมาดี แต่น่าเสียดายที่การปรุงของเชฟเอามากๆ

ความสำคัญของ Lady Raven ?

ถ้าเปรียบเป็นชีวิตจริงพล็อตนี้คงคล้ายคลึงกับ การตามหาคนร้ายกลางงานคอนเสิร์ตของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) เป็นแน่ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูคล้ายเป็นธุรกิจครอบครัว จัดฉากอวยลูกสาวตัวเองโดยแท้ เพราะนอกจาก Saleka ที่ปัจจุบันก็เป็นศิลปินป๊อปที่มีชื่อเสียงจริงๆ ต้องมารับบทแสดงแล้ว คุณพ่อยังโยนงานให้ช่วยแต่งเพลงประกอบ ที่สื่ออารมณ์ตัวละครในหลายๆ ฉากด้วย คุ้มไปอีก นอกจากเธอจะขึ้นโชว์ปังๆ กลางฮอลล์คอนเสิร์ตแล้ว บทของเธอก็มีส่วนสำคัญในเรื่องด้วย

Lady Raven ตัวกลางในการสร้างความตึงเครียด เป็นจุดศูนย์กลางที่ทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ในภาพยนตร์เกิดขึ้น โดยเธอเป็นเหตุผลที่ทำให้ Cooper ต้องเผชิญหน้ากับความจริงเกี่ยวกับตัวเองและความสัมพันธ์กับครอบครัว รวมถึงการที่เธอมีส่วนร่วมในคอนเสิร์ตซึ่งกลายเป็นกับดักสำหรับ Cooper ทำให้ความตึงเครียดในเรื่องเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนนำไสู่การเปิดเผยตัวตนของ Cooper

ที่เซอร์ไพรส์คือ เธอยังมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับตัวละครอื่นๆ เช่น ลุงของเธอที่รับบทโดย M. Night Shyamalan คุณพ่อในชีวิตจริง ซึ่งมีบทบาทในการช่วยให้เรื่องราวดำเนินไป อีกทั้งชื่อ Lady Raven ยังสามารถมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความตายและความลับ โดยชื่อของเธอ (Raven) มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับความตายและความมืดมิด ซึ่งสะท้อนถึงธีมหลักของภาพยนตร์

Photo Credit: IMDb

แม้ว่าหนังจะพยายามสร้างความตึงเครียดด้วยเทคนิคการเล่าเรื่องแบบหักมุมของ Shyamalan แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดไม่เพียงพอ จนทำให้หนังดูไม่น่าติดตามเท่าที่ควร โดยรวมแล้ว การ รีวิว Trap เป็นหนังที่มีจุดเด่นในเรื่องของการแสดงและสไตล์การกำกับ แต่ก็มีจุดอ่อนในเรื่องของการตัดต่อที่รีบเร่ง ช่องโหว่ของเรื่องราว และความตึงเครียดมากพอ ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมบางคนรู้สึกว่าหนังขาดความน่าเชื่อถือ น่าเบื่อ และความน่าติดตามไปบ้าง นั่นคือ กับดัก (Trap) ขนาดใหญ่ ที่ฉุดเรื่องนี้ไว้จริงๆ

อ่านบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรื่องบันเทิงสนุก ๆ ได้ ที่นี่ เลย

Main, Hero and Featured images: IMDb

The information in this article is accurate as of the date of publication.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...