โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“พิพัฒน์” เปิดวันแรงงานแห่งชาติ รับข้อเรียกร้องผู้ใช้แรงงาน

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 01 พ.ค. เวลา 06.07 น.

“พิพัฒน์” เปิดวันแรงงานแห่งชาติ รับข้อเรียกร้องผู้ใช้แรงงาน มอบของขวัญเงินกู้ดอกต่ำ ปัดตอบปมขึ้นค่าแรง 400 เหตุเจอโรคเลื่อน คาดสิ้นเดือนรู้ผล

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2568 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เป็นประธานในพิธีทำบุญเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป โดยมีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงานเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นมีการเคลื่อนริ้วขบวนเทิดพระเกียรติ ริ้วขบวนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน และริ้วขบวนของผู้ใช้แรงงาน และเคลื่อนริ้วขบวนออกจากบริเวณแยก จปร.ถนนราชดำเนินนอก มายังลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

สำหรับกลุ่มแรงงาน ได้เสนอข้อเรียกร้องจำนวน 9 ข้อ ได้แก่ 1.ให้รัฐบาลเร่งรัดการรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว ค.ศ.1948 และฉบับที่ 98 ว่าด้วยเรื่องสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง ค.ศ.1949 2.ให้รัฐบาลตราพ.ร.บ.) หรือประกาศเป็นกฎกระทรวงให้มีการจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยง เพื่อเป็นหลักประกันในการทำงานของลูกจ้าง 3.ให้รัฐบาลยกเว้นการจัดเก็บภาษีเงินได้จากเงินก้อนสุดท้ายที่นายจ้างจ่ายให้กับลูกจ้าง เมื่อพ้นสภาพการเป็นลูกจ้างในทุกกรณี ทั้งภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจในวงเงิน 1 ล้านบาท

4.ให้พนักงานรัฐวิสาหกิจสามารถอยู่ในระบบประกันสังคม ซึ่งเป็นระบบเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข และมีลักษณะการจ่ายเงินร่วม (co-payment) เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองทางสังคมของประเทศไทยอย่างเป็นธรรม 5.ให้รัฐบาลปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคม ได้แก่ปรับฐานการรับเงินบำนาญ ให้มีรายรับไม่น้อยกว่า 5,000 บาท กรณีที่ผู้ประกันตนเกษียณอายุ และรับเงินบำนาญแล้ว เมื่อสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ให้มีสิทธิรับเงินบำนาญต่อไป ในกรณีผู้ประกันตนพ้นสภาพจากมาตรา 33 และสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 การคิดคำนวณเงินบำนาญขอให้ใช้ฐานค่าจ้างจากมาตรา 33 เมื่อผู้ประกันตนรับบำนาญแล้ว ให้คงสิทธิรักษาพยาบาลตลอดชีวิต กรณีผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงและเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็งทุกชนิด ให้ครอบคลุมถึงการใช้ยารักษาพยาบาลตามที่แพทย์แนะนำ ขยายอายุผู้เริ่มเข้าเป็นผู้ประกันตนจากเดิม 15-60 ปี เป็น 15-70 ปี เพื่อให้เข้ากับสังคมผู้สูงอายุ

6.ให้รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงาน ดำเนินการให้สถานประกอบการที่มีลูกจ้างเหมาค่าแรง ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ม.11/1 อย่างเคร่งครัด 7.ขอให้รัฐบาลยกระดับกองความปลอดภัยแรงงาน เป็นกรมความปลอดภัยแรงงาน 8.ขอให้รมว.แรงงาน ดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวงฉบับที่ 7 ลงวันที่ 22 ส.ค. พ.ศ.2541 กฎกระทรวงฉบับที่ 8 ลงวันที่ 14 ก.ย. พ.ศ.2541 และกฎกระทรวงฉบับที่ 13 ลงวันที่ 27 ม.ค. พ.ศ.2543 ซึ่งทั้ง 3 ฉบับออกตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 โดยมีข้อความตัดสิทธิลูกจ้างรายเดือนที่ทำงานล่วงเวลาไม่ให้ได้รับค่าล่วงเวลา 1.5 เท่า เช่นเดียวกับพนักงานรายวัน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้รับทราบ และรับว่าจะดำเนินแก้ไขมาก่อนแล้ว และ 9.ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแต่งตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2568

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีที่ได้มาเป็น ผู้แทนของรัฐบาลและ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเฉลิมฉลองร่วมกับพี่น้องแรงงานเนื่องในวันรายงานแห่งชาติ เราพยายามต้นขอขอบคุณพี่น้องรายงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง กระทรวงแรงงานขอยืนยันว่าจะเดินหน้านโยบายเชิงรุกเพื่อดูแลแรงงานอย่างรอบด้านทั้งในและต่างประเทศด้วยหลักการว่าทุกคนต้องมีงาน ทำมีทักษะ มีหลักประกันและมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเนื่องในวันงานแห่งชาตินี้ มีของขวัญมอบให้ ผ่านโครงการ เพิ่มโอกาส เข้าถึงแหล่งเงิน “ทุนอาชีพ”ดอกเบี้ยต่ำ คือนโยบายที่กระทรวงแรงงานเตรียมผลักดันร่วมกับธนาคารพันธมิตร เพื่อเปิดทางนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ 1.กลุ่มลูกจ้าง- ที่ต้องการพัฒนาอาชีพเสริมหรือตั้งต้นธุรกิจ โครงการ ”ทุนอาชีพ“ วงเงินรวม 100,000 ล้านบาท เพื่อช่วยให้ ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตน สามารถเข้าถึงทุนได้จริง ที่สำคัญที่สุดคือ เพิ่มจากการ “คุ้มครอง” ให้เป็น “โอกาส” เพื่อสร้างอาชีพใหม่ สร้างรายได้ที่มั่นคงให้ครอบครัว

2.กลุ่มนายจ้าง ที่ต้องการสภาพคล่อง เพื่อประคองกิจการและรักษาการจ้างงาน โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานระยะที่ 3 วงเงิน 20,000 ล้านบาท เป็นของขวัญสำหรับสถาน
ประกอบการ ให้สามารถ “รักษาการจ้างงาน” ได้ต่อเนื่อง ด้วยเงื่อนไขดอกเบี้ยต่ำมาก เริ่มต้นเพียง 2.35% ต่อปี คงที่ 3 ปี

นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า ส่วนค่าแรงขั้นต่ำไม่ค่อยอยากจะตอบเพราะเจอโรคเลื่อนตลอดเวลาเลื่อนมาเรื่อยๆ ด้วยองค์ประกอบที่ต้องบอกว่าบางครั้ง ฝ่ายไหนแจ้งไม่เห็นด้วย บางครั้งฝ่ายลูกจ้างก็ไม่ได้เห็นด้วยและบางครั้งอีกเช่นกัน ฝ่ายภาครัฐเราเองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะฉะนั้นการศึกษาในแต่ละเรื่องของกระทรวงแรงงานเราต้องตอบสนองทั้ง 3 ฝ่าย อย่างไรก็ตามคำว่าคณะกรรมการไตรภาคีนั้นส่วนตัวไม่สามารถเข้าไปในห้องประชุมได้ และด้วยหลายปัจจัยที่ ที่ประชุมพยายามศึกษาและเติมข้อมูล

"ในการประชุม เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เดิมคิดว่าจะจบได้แล้วประกาศเป็นของขวัญวันแรงงาน แต่สุดท้ายของสุดท้ายก็ยังไม่จบ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างตัวผมเองและท่านปลัดฯ เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป แต่การจะเดินหน้าต่อไปตัวผมเองก็ไม่กล้าประกาศแล้วว่าวันไหนเวลาใดเพราะผมรู้สึกว่าหน้าตายับเยินไปหมดแล้วเพราะรับปากแล้วทำไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้นก็จะพยายามต่อไปและพยายามทำให้ได้เร็วที่สุด แต่ยิ่งองค์ประกอบของปัจจุบันนี้ก็ยิ่งหนักใจ เพราะวันนี้พวกเราคงทราบว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างไรของโลกใบนี้วันนี้มีปัญหาอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นยิ่งมีปัญหามากเท่าไหร่พวกเรายิ่งต้องลงทุนการศึกษาในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ตัวผมเองต้องบอกว่าหนักใจมากๆ แต่ก็ยังไม่รับความพยายามที่จะทำให้สำเร็จให้ได้ ดังที่ผมรับปากท่านนายกรัฐมนตรีว่าผมจะทำให้จบ" นายพิพัฒน์กล่าว และว่ายืนยันว่าถึงอย่างไรก็ต้องทำให้สำเร็จ ตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเอาข้อมูลมาซับพอร์ต โดยคาดว่าเดือนพ.ค.นี้น่าจะมีคำตอบ.

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...