โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เปิด 5 เทรนด์อาหารมาแรงแห่งปี 2025 สาเก เมนูของว่าง โปรตีน ซูเปอร์ฟู้ด กระแสแรง

BTimes

อัพเดต 28 เม.ย. เวลา 16.31 น. • เผยแพร่ 28 เม.ย. เวลา 09.31 น. • อัพเดตข่าวหุ้น ธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด การค้า สุขภาพ กับ บัญชา ชุมชัยเวทย์ - BTimes.Biz

แกร็บฟู้ด แอปสั่งอาหารอันดับ 1 ในประเทศไทย1 เผย 5 เทรนด์อาหารที่น่าจับตามองในปี 2025 ผ่านรายงาน “เจาะลึกธุรกิจและเทรนด์ร้านอาหารปี 2025” (A Comprehensive Guide for 2025 Restaurateurs) ซึ่งเปิดตัวในงานประกาศรางวัล #GrabThumbsUp Awards 2025 พบดาวรุ่งดวงใหม่อย่าง ‘สาเก’ มาแรงกับการแพริ่งกับอาหารที่ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ทันสมัยขึ้น ขณะที่เทรนด์สแน็กรองท้อง และอาหารเพื่อสุขภาพยังคงเติบโตในวงกว้างโดยเฉพาะกระแส ‘โปรตีน-ซูเปอร์ฟู้ดฟีเวอร์’ นอกจากนี้ เมนูไวรัลที่มาจากต่างประเทศยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยที่พร้อมเปิดรับความแปลกใหม่ มองหาความเซอร์ไพรส์ และต้องการอยู่ในกระแสเสมอ (FOMO) โดยมีโซเชียลมีเดียเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างกระแส และผลักดันแบรนด์และเมนูให้แจ้งเกิดในวงกว้าง

“สาเก” วัตถุดิบเปลี่ยนเกม ที่วงการอาหารต้องจับตา

ด้วยอิทธิพลของกระแส Asianization ที่มาแรงในช่วงปีที่ผ่านมา “สาเก” ได้กลายเป็นดาวรุ่งที่วงการอาหารทั่วโลกให้ความสนใจ เมื่อผนวกกับความนิยมในอาหารญี่ปุ่นของคนไทย สาเกจึงพร้อมขึ้นแท่นไฮไลต์ที่น่าจับตามองของปีนี้ โดยเฉพาะการนำไปแพริ่ง (Pairing) หรือจับคู่กับอาหาร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่พบมากขึ้นในร้านอาหารสไตล์แคชวลไดนิ่ง (Casaul Dining) จึงเป็นที่คาดว่าปีนี้จะได้เห็นเทรนด์ร้านอาหารแนว Sake Bar เติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่แพ้กระแสเนเชอรัลไวน์ (Natural Wine) ที่เคยร้อนแรงก่อนหน้านี้ ร้านอาหารและบาร์ที่นำเสนอประสบการณ์สาเกในมุมที่แปลกใหม่ จะยิ่งมีโอกาสเข้าถึงลูกค้ากลุ่ม Early Adopter ได้ก่อน

“Snackification” ของกินเล่นแทนมื้อหลัก

จากไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของผู้บริโภคยุคใหม่ การรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้ออาจไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนจึงมองหาเมนูที่เน้น ‘กินไว กินง่าย ได้ประโยชน์’ ส่งผลให้เทรนด์ “Snackification” หรือการทานของว่างแทนมื้อหลัก กลายเป็นกระแสที่มาแรง ผู้บริโภคมองหาเมนูขนาดพอดีคำ (Bite-size) ที่สะดวกและให้พลังงานเพียงพอ สามารถรองท้องได้ในแต่ละช่วงของวัน หลายแบรนด์จึงจับเทรนด์นี้ด้วยการนำเสนอเมนูแนว Grab & Go ที่ตอบโจทย์ชีวิตแบบพร้อมเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น บาร์ธัญพืช โอนิกิริ สลัดแร็ป หรือแม้แต่เส้นหมี่ไก่ฉีก พร้อมชูจุดขายเรื่องวัตถุดิบที่ให้พลังงานสูง ดีต่อสุขภาพ และแพคเกจจิ้งที่หยิบกินง่าย กลายเป็นช่องว่างทางการตลาดที่ร้านค้าและแบรนด์สามารถใช้เข้าถึงกลุ่มคนเมืองยุคใหม่ได้

โปรตีน-ซูเปอร์ฟู้ดฟีเวอร์

ไลฟ์สไตล์รักสุขภาพยังคงเติบโตในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย การชูจุดขายเรื่องวัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจึงเป็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม หนึ่งในกระแสที่มาแรงคือ “โปรตีนฟีเวอร์” สะท้อนผ่านข้อมูลจากร้านน้ำผลไม้สเปเชียลตี้แห่งปีอย่าง PASH Juices ที่พบว่า ‘เวย์โปรตีน’ เป็นท็อปปิ้งยอดนิยมอันดับหนึ่งของเครื่องดื่มสมูทตี้ ขณะเดียวกัน วัตถุดิบที่ให้โปรตีนสูงอย่างเต้าหู้ กรีกโยเกิร์ต และถั่วต่างๆ ล้วนได้รับความนิยมในการนำมาใช้ประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน สอดคล้องกับมูลค่าตลาดของโปรตีนทางเลือกที่เติบโตขึ้นจากปีก่อน2 รวมถึง “ซูเปอร์ฟู้ด” นานาชนิด อาทิ สาหร่ายสไปรูลิน่า ส่วนผสมในสมูทตี้สีฟ้าสุดฮิต หรือ Sea Moss Gel เจลสาหร่ายทะเลสีแดงที่กำลังเป็นไวรัล ดังนั้น การเพิ่มเมนูหรือตัวเลือกส่วนผสมเพื่อสุขภาพในรูปแบบที่น่าสนใจ จะเป็นแต้มต่อที่ช่วยดึงดูดลูกค้าสายเฮลตี้อย่างแน่นอน

“Swavory” ผสมผสานรสหวาน-คาว

เทรนด์ “Swavory” หรือการผสมผสานรสชาติหวาน (Sweet) และคาว (Savory) กำลังเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะในฝั่งของขนมและเครื่องดื่มที่เห็นการสร้างสรรค์เมนูทวิสต์ใหม่ๆ ด้วยการเติมคาแรกเตอร์ของคาวเข้าไป เช่น สมูทตี้โบวล์หน้ายำผลไม้สไตล์ไทยรสแซ่บอย่างเมนู ‘Yum Fruit Zaap! Bowl’ จากแบรนด์ Acai Story หรือน้ำแข็งใสสไตล์เม็กซิกันที่ตัดรสด้วยซอสพริกอย่างเมนู ‘คากิโกริแมงโก้นาดาซอสศรีราชา’ จาก After You เทรนด์นี้ยังเปิดโอกาสให้แบรนด์ต่างวงการได้คอลแลบร่วมกันเพื่อสร้างความเซอร์ไพรส์ให้ตลาด เช่นเดียวกับวงการค็อกเทลไทย ที่นำวัตถุดิบอาหารคาวมาผสมผสานในเมนูเครื่องดื่มที่แปลกใหม่ การชูรสเค็ม-หวานแบบไทยๆ ไม่เพียงแต่สร้างความแตกต่างในตลาด แต่ยังช่วยยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นและถ่ายทอดวัฒนธรรมอาหารไทยในมุมมองที่ทันสมัย ดึงดูดทั้งนักชิมชาวไทยและต่างชาติที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ

จับกระแสต่างแดน สร้างจุดเด่นต่อยอดความปัง

ในปีที่ผ่านมา เมนูไวรัลในไทยส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศ โดยมักเริ่มจากความนิยมเฉพาะกลุ่ม ก่อนที่จะกลายเป็นกระแสเมนสตรีมที่ขับเคลื่อนโดยแบรนด์ใหญ่และโซเชียลมีเดีย จนเกิดเป็น “Dupe Culture” ในวงการอาหาร เช่น เมนูสมูทตี้สีฟ้า หรือกระแสช็อกโกแลตดูไบที่ฮิตติดลมบน อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ เทรนด์เมนูจากต่างแดนยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง อย่างกระแส ‘ชิโอะปัง’ หรือขนมปังเกลือ ที่มียอดค้นหาบนแกร็บฟู้ดพุ่งสูงขึ้นถึง 66 เท่าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ รวมถึง ‘ทาร์ตไข่สไตล์ฮ่องกง’ และอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตามองคือการกลับมาของ ‘โยเกิร์ตซอฟเสิร์ฟ’ ร้านที่ติดตามกระแสและปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว จะมีโอกาสสร้างจุดเด่นและเติบโตในตลาดที่แข่งขันสูงได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...