จับตา ! ปราบ “แก็งคอลเซ็นเตอร์” ชี้ “หม่องชิตตู” กุมความลับใหญ่ของไทย
จับตา ! ปราบ “แก็งคอลเซ็นเตอร์” ชี้ “หม่องชิตตู” กุมความลับใหญ่ของไทย ลั่น ล่าสุดมีตำรวจโดนย้ายหลายนาย แต่ไม่ใช่หลักสำคัญ แต่หลักสำคัญคือการเสาะแสวงหาข้อเท็จจริง เจ็บแต่จบ จบให้ไว้ จะส่งผลดีกับทุกฝ่ายมากกว่า
วันที่ 12 ก.พ.68 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ กับ ผู้สื่อข่าว The room 44 ในประเด็นการเจาะลึกการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์
.
ภายหลังจากที่เมื่อวานนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้นำ 3 รายชื่อ ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ามนุษย์ ที่ประกอบไปด้วย พ.อ.ซอชิตตู่ หรือ พ.อ.หม่องชิตตู, พ.ท.โมเต โธน และ พ.ต.ทิน วิน ให้อัยการพิจารณาแนวทางในการขอศาลอาญาออกหมายจับ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีความเกี่ยวโยงกับคอลเซ็นเตอร์
.
📌จุดเริ่มต้นของ “รังสิมันต์ โรม” กับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ : ที่ผ่านมาตนเองได้รับข้อมูลมาโดยตลอด “แก็งค์คอลเซ็นเตอร์” อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหลายคนอาจคิดว่า “แก็งค์คอลเซ็นเตอร์” อาจไม่สามารถเห็นได้ด้วยตา แต่เมื่อตนเองลงพื้นที่ไปตรวจชายแดนทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น ว่า ขบวนการดังกล่าวอยู่ใกล้ประเทศไทย จนนำไปสู่การรวบรวมข้อมูลถึงปัจจุบัน หลายส่วนมาบรรจบกัน จนพบว่า ปัญหาของเรื่องนี้ที่สำคัญคือ ประเทศไทยขายไฟฟ้าให้ “แก็งค์คอลเซ็นเตอร์” ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
“ ไฟฟ้า สัญญาณอินเตอร์เน็ต เหมือนเครื่องช่วยหายใจของขบวนการใหญ่นี้ “
📌 “รังสิมันต์ โรม” รับบทชื่นชมรัฐบาลปราบ “คอลเซ็นเตอร์” : อะไรที่ว่าดี ตนเองก็ต้องชื่นชมเพราะปัญหา “แก็งค์คอลเซ็นเตอร์” มันล้ำเส้นไปเยอะ หลังจากรัฐบาลตัดไฟฟ้า ตัดน้ำมัน ตัดอินเตอร์เน็ต กระแสการวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางที่ดี และหากรัฐบาลตั้งหลักได้ ตนเองมองว่ารัฐบาลมาถูกทาง แต่เรื่องนี้เป็นแค่ก้าวแรก ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า วิธีการเหล่านี้จะทำให้ “แก็งค์คอลเซ็นเตอร์” หายไป ? อีกทั้ง ต้องมีมาตราการเสริมเข้ามา เช่น การทำลายโครงสร้างของบรรดาเครือข่ายข้ามชาติ ที่มีกลุ่มจีนเทา หรือ เมียนมาร์เทา
“ ที่ผ่านมาตนเองชี้เป้ามาตลอด ล่าสุดมีตำรวจโดนย้ายหลายนาย แต่ไม่ใช่หลักสำคัญ แต่หลักสำคัญคือการเสาะแสวงหาข้อเท็จจริง เจ็บแต่จบ จบให้ไว้ จะส่งผลดีกับทุกฝ่ายมากกว่า… “
📌หม่องชิตตู ออกหมายแดง…??? จะเป็นยังไงต่อไป : เรื่องจับก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่มากกว่านั้นคือการขยายผล เชื่อมั่นว่าจะสามารถขยายผลได้มากกว่านี้ รวมถึงนอกจาก “หม่องชิตตู” ยังมี “ติ่งวิน” อีกหนึ่งคน ส่วนฝั่งราชการเจ้าหน้าที่รัฐของประเทศไทย ก็ต้องดำเนินการขยายผลถึงทุนไทยเทา เข้าไปเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน
“นอกจากจับ ควรมีเรื่องฟรีวีซ่าที่ต้องทบทวนกันใหม่ จะมีมาตรการอย่างไรในการข้ามแดนระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน“
อย่างไรก็ตามปัญหาการปราบปราม “แก็งค์คอลเซ็นเตอร์” จะสิ้นสุดลงอย่างไร จะมีการขยายผลในข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังหรือไม่ คงต้องรอหน่วยงานรัฐตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง