พิธีพระศพ โป๊ปฟรานซิส จะจัดเรียบง่าย-ฉีกประเพณีดั้งเดิม

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 7.35 น.ของวันจันทร์ (21 เมษายน) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา หลังทรงเข้ารับการรักษาอาการประชวรเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่โรงพยาบาลนานกว่าหนึ่งเดือน และเสด็จออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 23 มีนาคม นอกจากนี้พระองค์เพิ่งทรงเป็นประธานในพิธีฉลองเทศกาลอีสเตอร์ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ (20 เมษายน)
ตามประเพณีที่ผ่านมาพิธีพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาจะได้รับการจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แต่ในปีที่แล้วโป๊ปฟรานซิสทรงปรับเปลี่ยนพิธีพระศพสำหรับสมด็จพระสันตะปาปาในอนาคต เพื่อลดความซับซ้อนลงและให้สามารถฝังพระศพนอกนครวาติกันได้ แต่หัวใจหลักของพิธียังคงไว้เหมือนเดิม
พระองค์ทรงเลือกโลงพระศพ ที่เป็นโลงไม้ขอบสังกะสี แตกต่างจากโป๊ป 3 องค์ก่อนหน้านี้ ที่ได้รับการฝังพระศพในโลงซ้อนกัน 3 ชั้น ที่ประกอบด้วยโลงทำจากสนไซเปรส, ตะกั่วและต้นโอ๊ค
นอกจากนี้โป๊ปฟรานซิสทรงยกเลิกประเพณีที่ให้อัญเชิญพระศพตั้งบนแท่นตั้งพระศพภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เพื่อให้สาธารณชนเคารพพระศพ แต่คริสตศาสนิกชนได้รับเชิญให้ร่วมเคารพพระศพที่อยู่ภายในโลงที่เปิดฝาไว้

นอกจากนี้โป๊ปฟรานซิสจะเป็นโป๊ปองค์แรกในรอบกว่าร้อยปี ที่จะได้รับการฝังพระศพนอกสำนักวาติกัน โดยพระองค์ทรงเลือกว่าจะให้พระศพได้รับการฝังที่มหาวิหารเซนต์แมรี เมเจอร์ หนึ่งในสี่มหาวิหารในพระสันตะปาปาในกรุงโรม
ขณะที่พระคาร์ดินัลจะพิจารณาว่าจะจัดพิธีพระศพเมื่อใด ที่ผ่านมาหลังการสิ้นพระชนม์ของโป๊ป จะเริ่มต้นการไว้อาลัยนาน 9 วัน และโป๊ปจะต้องได้รับการฝังพระศพในช่วงวันที่ 4-6 หลังการสิ้นพระชนม์ โดยในช่วงไว้อาลัย พระศพของโป๊ปจะได้รับการอัญเชิญไว้ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เพื่อให้ศาสนิกชนร่วมเคารพพระศพ และจะมีพิธีมิสซาทุกวัน
และหลังจากพิธีพระศพเสร็จสิ้น พระคาร์ดินัลทั้งหมดที่อายุต่ำกว่า 80 ปี จะประชุมเพื่อเริ่มต้นกระบวนการสรรหาสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ โดยปกติการสรรหาจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ แต่อาจขยายเวลาได้เล็กน้อยหากไม่สามารถตกลงกันได้