โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

7 วิธีในการรักษาคนเก่งคนดี

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 12 ต.ค. 2565 เวลา 09.02 น. • เผยแพร่ 22 มิ.ย. 2565 เวลา 12.11 น.

คอลัมน์ : ถามมา-ตอบไป สไตล์คอนซัลต์ ผู้เขียน : อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

หลังจากโควิดกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของโลกเรา ทุกคนก็เริ่มหันมาใช้ชีวิตตามปกติกันมากขึ้น หลาย ๆ บริษัทเรียกพนักงานกลับมาทำงาน ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อผู้บริหารอยากให้พนักงานมาทำงานที่ออฟฟิศบ้าง แต่พนักงานจำนวนไม่น้อยคุ้นชินกับการทำงานจากบ้านที่มีความยืดหยุ่นเรื่องเวลาและการเดินทางเสียแล้ว

เมื่อความต้องการขององค์กรกับของพนักงานไม่ตรงกัน ทำให้พนักงานหลายคนตัดสินใจลาออก เพราะรู้สึกไม่ค่อยสะดวก ประกอบกับช่วงโควิด รายได้ไม่พอรายจ่าย หลายคนจึงหันไปหาอาชีพเสริมซึ่งเริ่มสร้างรายได้ให้มากขึ้นแล้ว

ความท้าทายจากนี้ไปคือทำอย่างไรจึงจะสามารถรักษาพนักงานเก่ง ๆ เอาไว้กับองค์กรให้ได้ วันนี้มีเทคนิค 7 ประการมาฝากครับ

หนึ่ง ต้องรู้ว่าพนักงานมีเป้าหมายอะไร : ขั้นตอนแรกในการทำให้พนักงานมีรู้สึกความผูกพัน และพร้อมที่จะเติบโตไปกับองค์กรคือการทำความเข้าใจเป้าหมายในชีวิตของพวกเขาให้ชัดเจน จากนั้นจึงจับคู่เป้าหมายของพนักงานให้เข้ากับความต้องการขององค์กร

สอง แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโต : พนักงานส่วนมากลาออกจากองค์กรเพราะความไม่ชัดเจนของโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน ฉะนั้น ผู้นำต้องทำให้พวกเขาเห็นหนทางที่จะเติบโตก้าวหน้า อย่างน้อยก็ในช่วงเวลา 3-5 ปีจากนี้ไป

สาม ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วม : ผู้นำควรสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในการนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ ที่จะช่วยพัฒนาหรือผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้ บริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาเปิดโอกาสให้พนักงานเสนอความคิดใหม่ ๆ เพื่อนำไอเดียนั้นไปเข้าแข่งขันในรายการทีวี Shark Tank เพื่อขอรับเงินทุนสนับสนุนจากสปอนเซอร์

จนในที่สุดความคิดเหล่านั้นก็ประสบผลสำเร็จ ได้เงินสนับสนุนหลายล้านบาทมาพัฒนาองค์กร ได้ทั้งผลงานได้ทั้งความภาคภูมิใจ เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวเลยทีเดียว

สี่ สร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ : ผู้นำที่ดีต้องสามารถสร้างผู้นำรุ่นถัดไปขึ้นมาแทนที่ตนเองได้ นั่นหมายถึงการมองหาโอกาสในการส่งเสริมให้พนักงานมีการเรียนรู้ และเติบโตอยู่ตลอดเวลา ผ่านการโค้ช (coaching) การให้คำปรึกษา (mentoring) และการพาไปทำงานด้วย (job shadowing) เป็นต้น

ห้า ป้องกันภาวะหมดไฟ : ผู้นำต้องคอยสอดส่องด้วยว่าพนักงานของเรากำลังจะหมดไฟในการทำงานหรือเปล่า และต้องหาให้เจอว่าสิ่งใดเป็นต้นตอของปัญหาเหล่านั้น จากนั้นจึงรีบจัดการแก้ไขให้รวดเร็ว ถือเป็นการดับไฟเสียตั้งแต่ต้นลม

หก ดูแลค่าตอบแทนและผลประโยชน์ให้ดี : แม้เงินจะไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เงินเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนทำงาน หน้าที่ของหัวหน้าคือดูแลความเป็นอยู่ ผลตอบแทนและสวัสดิการของพนักงานให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและผลงานที่มี พนักงานหลายคนตัดสินใจลาออกจากองค์กรไม่ใช่เพราะเงินเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะผลประโยชน์และการดูแลในเรื่องอื่น ๆ ด้วย

เจ็ด ใส่ใจกับสิ่งที่พนักงานต้องพบเจอในแต่ละวัน : หน้าที่สำคัญของผู้นำ และองค์กรคือการบริหารประสบการณ์ของพนักงาน (employee experience) ซึ่งหมายถึงสิ่งที่พวกเขาต้องพบเจอทุก ๆ วันในการทำงาน หากแต่ละวันพนักงานได้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ ที่ทำให้รู้สึกสนุกและมีความสุข จิตใจก็จะเบิกบาน ผลงานก็ดีตาม

ในทางกลับกัน หากทุก ๆ วันพบเจอแต่ประสบการณ์แย่ ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยไม่มีการแก้ไข บรรยากาศการทำงานที่ไม่สร้างสรรค์ ผลงานก็ย่อมไม่ดี ความสุขก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หัวหน้าจึงต้องคอยสอดส่องประสบการณ์ของพนักงานอยู่เสมอ ๆ

การเก็บรักษาพนักงานที่ใช่ไว้กับองค์กรไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องเริ่มต้นให้ถูกจุดเท่านั้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...