โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

6 คำพูดที่ไม่ควรใช้กับลูก เพราะอาจไม่ได้ส่งผลดีอย่างที่คิด

Mood of the Motherhood

เผยแพร่ 03 มิ.ย. 2563 เวลา 13.23 น. • Features

เรารู้กันดีว่าพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าท่าทาง หรือคำพูด ล้วนมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการ สภาพอารมณ์ และจิตใจของลูกด้วยกันทั้งสิ้น

คำพูดของคุณพ่อคุณแม่นั้น หากเต็มไปด้วยถ้อยคำแง่ลบ ประชดประชัน ตำหนิและติเตียน ก็ย่อมส่งผลต่อทัศนคติ ความคิด และความรู้สึกของลูกอย่างเลี่ยงไม่ได้

วันนี้ M.O.M จึงได้นำคำพูดไม่ดีที่ไม่ควรเผลอใช้กับลูก เพราะอาจส่งผลร้ายต่อลูกได้มากกว่าที่เราคิดฝากกันค่ะ

1. “ลูกเป็นคนเห็นแก่ตัวจังเลย”

บ่อยครั้งที่ลูกมักจะแสดงอาการหวงของเล่นของตัวเอง หวงขนมหรือของกินที่ตัวเองชอบ จนไม่ยอมแบ่งให้คนอื่น คุณพ่อคุณแม่อาจจะมีเจตนาที่ดี ไม่อยากให้ลูกมีพฤติกรรมเช่นนั้น จึงใช้วิธีตำหนิว่าลูกกำลังแสดงพฤติกรรมของคนเห็นแก่ตัว เพื่อหวังให้ลูกปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

แต่ธรรมชาติของเด็ก เขายังไม่ถึงวัยที่จะรู้และเข้าใจความหมายของคำดังกล่าว อาการหวงของเป็นเพียงการแสดงออกไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น ดังนั้นแทนที่คุณพ่อคุณแม่จะพูดให้ลูกรู้สึกไม่ดีกับตัวเองแล้ว ลองเปลี่ยนพูดคุยและอธิบายให้ลูกเข้าใจประโยชน์ของแบ่งปัน ลองสอนลูกว่าเราสามารถแบ่งปันสิ่งนี้กับเพื่อนได้ และเพื่อนจะรู้สึกดีใจมากที่ลูกแบ่งให้ รวมถึงการทำให้ลูกเห็นบ่อยๆ ว่าคุณพ่อคุณแม่ก็แบ่งปันให้กันได้เป็นเรื่องธรรมดา

2. “ลูกไม่ได้รู้สึกแบบนั้นหรอก”

อีกหนึ่งประโยคพูดที่ไม่ควรใช้กับลูกเป็นอย่างยิ่งก็คือการตัดสินว่า ‘ลูกไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น’ แม้จะดูเป็นคำพูดที่ไร้พิษภัย แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อลูกพูดบางสิ่งออกมา เช่น หนูเกลียดแม่ หรือหนูไม่ชอบให้ที่พี่เล่นเกมเก่งกว่า แม้คุณจะรู้ดีว่าความจริงลูกอาจจะไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นทั้งหมด แต่ก็ไม่ควรปฏิเสธหรือเพิกเฉยต่อความรู้สึกและคำพูดที่ลูกแสดงออกมา  เพราะอาจทำให้เด็กรู้ว่าเขาถูกเมิน ไม่มีคนเข้าใจ และไม่มีใครสนใจความรู้สึกจริงๆ ของเขา

ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีถามเพื่อช่วยอธิบายให้ลูกเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น เช่น ลูกเกลียดคุณแม่หรือว่าลูกไม่พอใจที่คุณแม่ขัดใจกันแน่นะ แม่จะได้แก้ไขถูก หรือช่วยให้ลูกเลือกสะท้อนอารมณ์ของตัวเอง เช่น ลูกไม่อยากให้พี่เล่นเกมเก่งหรือว่าหนูอยากให้พี่ช่วยสอนให้หนูเล่นเกมเก่งเหมือนกันมากกว่า

3. “ลูกไม่น่าเกิดมาเลย”

แม้จะโกรธหรือผิดหวังในตัวลูกมากแค่ไหน แต่ประโยคนี้ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะพูดออกมาให้ลูกได้ยิน เพราะนอกจากจะทำลายจิตใจของลูกอย่างมากแล้ว ยังเป็นบาดแผลที่จะติดอยู่ในใจลูกต่อไปอย่างแน่นอน

4. “เร็วๆ หน่อยสิ”

คุณพ่อคุณแม่ต้องเคยเผลอใช้คำพูดเร่งเร้าเช่นนี้กับลูกแน่ ยิ่งเวลาที่ต้องรีบออกจากบ้านไปโรงเรียน แล้วหันมาเจอลูกกำลังลีลาอยู่กับการกินข้าว เก็บของ และใส่รองเท้า แต่แม้จะเร่งรีบขนาดไหนการเร่งหรือบอกให้ลูก “เร็วๆ หน่อย” ก็ไม่ควรใช้กับลูกมากนัก เพราะจะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กขี้กังวล ลน และเร่งรีบจนทำอะไรผิดพลาดได้ง่าย

แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถสามารถกระตุ้นให้ลูกทำอะไรรวดเร็วขึ้นได้ด้วยวิธีการสนุกๆ เช่น เล่นแข่งใส่รองเท้า หรือเก็บของ มีกติกาว่าใครเสร็จก่อนชนะ เพื่อผลลัพธ์คือการที่ลูกเร่งมือแต่สนุกและไม่เครียดจนเกินไป

5. “เกิดอะไรขึ้นกับลูก ทำไมลูกทำแบบนี้”

จริงๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่อาจคิดว่าคำพูดนี้เป็นการถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง หวังจะให้ลูกได้เล่าหรือระบายสิ่งที่อยู่ในใจ แต่ในความเป็นจริงแล้วลูกกลับหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยเมื่อโดนถามด้วยคำถามดังกล่าว เพราะเหมือนเป็นการถามนำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองทำผิด และมีถ้อยคำของความผิดหวังซ่อนอยู่ในคำถาม

หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกบอกเล่าเรื่องราวหรืออธิบายพฤติกรรมของตัวเอง ลองเปลี่ยนเป็นถามด้วยน้ำเสียงหรือถ้อยคำเชิงบวก เช่น คุณแม่อยากรู้ว่าลูกคิดอะไรถึงทำแบบนั้นเหรอคะ หรือลูกพอจะบอกได้ไหมคะว่าวิธีของลูกได้ผลหรือเปล่า

6. “ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย”

ความรู้สึกกลัวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน รวมถึงเด็กๆ ที่ยังมีประสบการณ์ในชีวิตไม่มากพอที่จะเข้าใจอะไรหลายอย่างในโลก รวมถึงยังจัดการความรู้สึกกลัวของตัวเองไม่ค่อยเป็น

ดังนั้น หากลูกกำลังกลัวอะไร การบอกลูกว่า “ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย” จึงไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก เพราะอาจทำให้ลูกรู้สึกถูกเพิกเฉย และไม่มีวิธีที่จะรับมือกับความกลัวนั้น

ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายว่าทำไมลูกถึงไม่ควรกลัวสิ่งนั้น เช่น ทำไมลูกไม่ควรกลัวเวลาที่แม่ปิดไฟ เพราะห้องนอนของลูกปลอดภัย และคุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ การปิดไฟนอนจะทำให้ลูกนอนหลับได้ดีกว่า หรือให้เวลาลูกได้ทำความรู้จักกับความกลัวของตัวเองบ้าง เช่น ลองปิดไฟแต่นั่งอยู่กับลูกสักครู่เพื่อให้ลูกใจเย็นและสงบลงได้ด้วยตัวเอง

อ้างอิง

cnbc

bestlifeonline

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...