โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ม.สวนดุสิต เปิดสอนที่แรก เลขานุการทางการแพทย์ – จบแล้วทำงานเกี่ยวกับอะไร?

Campus Star

เผยแพร่ 18 ม.ค. 2562 เวลา 05.43 น.
เปิดสอนแล้ว คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาเลขานุการทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เน้นการเรียนรู้ทั้งด้านเลขานุการและด้านการแพทย์

เนื่องจากในปัจจุบันตลาดแรงงานโลกต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านธุรกิจบริการเป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานด้านบริการสาธารณสุข ทำให้ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เล็งเห็นถึงความสำคัญอาชีพทางด้านนี้ จึงได้มีการเปิดสอนหลักสูตรใหม่ขึ้นมาก็คือ เลขานุการทางการแพทย์ (Medical Secretary) โดยเป็นหนึ่งในสาขาวิชาของคณะวิทยาการจัดการ

คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาเลขานุการทางการแพทย์

เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ด้านการบริหารจัดการและด้านเลขานุการให้เข้ากับความรู้ทางการแพทย์ โดยจะเป็นการมุ่งเน้นให้ผู้เรียนในสาขาวิชานี้มีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษที่ดี เพื่อนำไปใช้สื่อสารทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม (มีการสอบสัมภาษณ์ก่อนเข้าเรียนเป็นภาษาอังกฤษ)

ในแต่ละชั้นปี เรียนอะไรบ้าง?

ชั้นปีที่ 1

โดยการเรียนการสอนจะเน้นให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลต่าง ๆ ซึ่งในปี 1 น้อง ๆ จะได้เรียนรู้ในด้านบริหารเป็นส่วนใหญ่ เช่น เรียนเกี่ยวกับบัญชี การเงิน การจัดการ การตลาด การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ และที่สำคัญน้อง ๆ ยังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับมารยาทและการพัฒนาบุคลิกภาพให้ออกมาดูดีอยู่เสมอ

ชั้นปีที่ 2

ในชั้นปีที่ 2 น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับด้านเลขนุการเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการประชุมทางการแพทย์ การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ การใช้โปรแกรมต่าง ๆ ในการทำงานอย่างมีความชำนาญ นอกจากนี้น้อง ๆ ยังจะได้เรียนรู้เรื่องกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับแพทย์ บุคลากร หรือ โรงพยาบาล และศัพท์สามัญทางการแพทย์

ชั้นปีที่ 3

ชั้นปีที่ 3 จะเน้นการเรียนการสอนทางการแพทย์แบบเจาะลึกมากยิ่งขึ้น โดยน้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสุขภาพ กายวิภาค ความรู้เกี่ยวกับยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ศัพท์เฉพาะทางการแพทย์ การพยาบาลเบื้องต้น และเทคนิครังสี ซึ่งวิชาเรียนเหล่านี้จะทำให้น้อง ๆ แตกต่างจากเลขานุการคนอื่น ๆ เพราะในการประชุมหรือติดต่อสื่อสารกันในการทำงาน เรามีหน้าที่ในการจดบันทึกข้อมูลทั้งหมดและทำการสรุปในที่ประชุมให้กับหัวหน้าหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นเราควรจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับด้านการแพทย์เอาไว้ด้วยค่ะ

ชั้นปีที่ 4

และในชั้นปีที่ 4 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการเรียนก่อนที่น้อง ๆ จะได้ออกไปทำงานจริง ในการเรียนชั้นปีนี้น้อง ๆ จะได้ออกไปฝึกปฏิบัติงานจริงในสถานพยาบาล โรงพยาบาล ทั้งของภาครัฐและเอกชน สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนในสาขาวิชาเลขานุการทางการแพทย์นอกจากจะต้องมีความรู้ด้านเลขานุการและทางการแพทย์แล้ว ด้านบุคลิกภาพก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะถ้าเรามีบุคลิกภาพที่ดีจะช่วยทำให้เรามีภาพลักษณ์ที่ดูดีและเป็นข้อได้เปรียบในการต่อรองหรือสื่อสารพูดคุยกับบุคคลอื่น ๆ

ค่าเล่าเรียน/ค่าธรรมเนียมการเรียน

  • ค่าเล่าเรียนอยู่ที่ประมาณ 17, 350 บาท/เทอม หรือรวมตลอดหลักสูตรประมาณ 138, 800 บาท

ทั้งนี้ ค่าเล่าเรียนอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในบางปีการศึกษา ซึ่งน้อง ๆ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของคณะ/มหาวิทยาลัย

อยากเรียนต้องทำอย่างไร?

  • ต้องสำเร็จการศึกษาในระดับชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า
  • เรียนจบในแผนการเรียนวิทย์-คณิตฯ, สาศิลป์ฯ, สาอาชีพ (ปวช.)
  • ต้องมีเกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX) ตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป
  • เพศหญิงต้องมีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 155 ซม. และเพศชายต้องมีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม.
  • วิชาที่ต้องเน้นอ่านเป็นพิเศษ ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ
  • การสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร

เปิดรับสมัครผ่าน TCAS แบ่งออกเป็น 3 รอบ ดังนี้

  • รอบที่ 2 โควตา
  • รอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน
  • รอบที่ 4 Admissions (คะแนนที่ใช้ GPAX 20%, O-NET 30%, GAT 30%, PAT 1 20%)

ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่

จบแล้วทำงานอะไร?

  • เลขานุการในหน่วยงานแพทย์
  • เลขานุการผู้ประกอบการทางการแพทย์
  • ผู้ประสานงานด้านการแพทย์
  • เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในบริษัทเวชภัณฑ์
  • ผู้ประกอบการธุรกิจด้านสุขภาพ
  • เซลล์ขายยา (ดีเทลยา) ฯลฯ

โดยสามารถทำงานได้ทั้งในสถานพยาบาล โรงพยาบาล หรือองค์กรสาธารณสุข ทั้งที่เป็นหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน

บทความที่น่าสนใจ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...