ประมงจังหวัดร่วมกับเจ้าหน้าที่ปราบปรามการประมงน้ำจืดออกไล่ล่าจระเข้ในคลองชัยนาท-ป่าสัก

จากเหตุการณ์ วันที่ 9 ส.ค. 63 ตำรวจ สภ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.นาตยา อาทรสุพอดู อายุ 17 ปี พร้อมกับเพื่อนนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี โทรศัพท์ไปยังศูนย์วิทยุ 191 ลพบุรี ว่าตนเองกับเพื่อนพบจระเข้ตัวยาวประมาณ 2 เมตร จำนวน 2 ตัว ว่ายน้ำคู่ขนานกันในคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณเชิงสะพานชลประทานที่ 9 ต.ป่าตาล อ.เมือง ลพบุรี จระเข้ทั้งสองตัวว่ายตามน้ำมุ่งหน้าไป อ.หนองโดนสระบุรี

ร.ต.ต.ทิพยา ภูเงิน ตำรวจ สภ.เมือง ลพบุรีพร้อมพวก เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง ลพบุรี และประมงจังหวัดลพบุรี มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดเดินทางไปยังจุดที่รับแจ้ง พบน้องนักศึกษาจำนวน 3 คน ที่ยังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น เล่าว่า พวกตนกลับจากงานเผาศพไร้ญาติ และกำลังจะกลับบ้าน โดยจอดรถยืนรอเพื่อนอยู่บนสะพานชลประทานที่ 9 จู่ๆ เห็นจระเข้จำนวน 2 ตัว ยาวประมาณ 2เมตรว่ายคู่กันมา ตามคลองมุ่งหน้า เขต อ.หนองโดน จ.สระบุรี จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ตาม ประมาณ 3 -4 กิโลเมตร จนคลาดสายตา และไม่ทันได้ถ่ายภาพเพราะจระเข้ว่ายตามน้ำเร็วมาก ยืนยันว่าเป็นจระเข้แน่นอน พวกตนยังตะโกนบอกชาวบ้านให้มาช่วยดู พบว่าเป็นจระเข้ขนาดประมาณ 2 เมตรจริง

นายสุชาติ พิลาเดช ประมงจังหวัดลพบุรี ได้ลงพื้นที่ สอบถามน้องนักศึกษาทั้ง 3 คน ซึ่งทั้งสาม ยืนยันชัดเจนเป็นจระเข้แน่นอน เพราะมีชาวบ้านหลายคนจอดรถดู และเห็นพ้องกันว่าเป็นจระเข้ขนาดใหญ่ ซึ่งทางประมงจังหวัดลพบุรี ยืนยันว่าฟาร์มในพื้นที่ไม่มีจระเข้เล็ดลอดออกมาได้ และที่มีก็ตัวไม่เกิน 1 เมตร ที่น้องๆ เห็นอาจจะใช่หรือไม่ใช่ ก็ตามที แต่ขอเตือนพี่น้องประชาชนริมคลองชัยนาท-ป่าสัก ในรัศมีประมาณ 5-10 กิโลเมตร โดยเฉพาะชาวประมงพื้นบ้าน ชาวนา และผู้ที่อาศัยอยู่ริมคลองเขตพื้นที่ ลพบุรี –สระบุรี ให้ระมัดระวัง หากพบให้รีบโทรแจ้งประมงจังหวัดลพบุรี ที่หมายเลข 036-770002แล 036-770209 ทันที

ล่าสุดวันที่ 10 ส.ค. 63 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายสุชาติ พิลาเดช ประมงจังหวัดลพบุรี ว่าช่วงเมื่อคืนวันที่ 9 ส.ค. 63 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยป้องกันและปราบปรามการประมงน้ำจืดเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ออกสำรวจติดตาม จระเข้หลุดลงคลองชัยนาท-ป่าสัก ตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานที่ 8 ไปจนถึงสะพานที่ 10 ตั้งแต่เวลา 20.30 น.-22.30 น. โดยการส่องไฟฉายหาจระเข้ที่หลุดมา ซึ่งอาจจะหลบซ่อนอยู่ตามพงหญ้าริมคลอง โดยประมงจังหวัดกล่าวว่า ตาของจระเข้เมื่อกระทบแสงไฟตาจะออกเป็นสีแดงคู่ ผลจากการติดตามไล่ล่ายังไม่พบจระเข้ทั้งสองตัว ขณะนี้ได้เตรียมเรือท้องแบนพร้อมชุดไล่ล่าของหน่วยฯ ไว้ในกรณีที่มีการแจ้งข่าวเตือนภัยจากผู้ที่พบเห็นไว้แล้ว

เช่นเดียวกันกับคุณป้าตุ้ม วงษ์สายใจ อายุ 62 ปี ที่ขายของอยู่ใกล้ที่พบจระเข้ โดยนักศึกษาทั้ง 3 คนที่พบได้ตะโกนเรียกให้ไปดู แต่ไม่ทันเห็นจระเข้ได้หลบมุดน้ำหนีไปก่อน โดยมีเด็กนักศึกษาขับจักรยานยนต์ตามจระเข้ไป จนคลาดสายตา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้สำรวจตามเส้นทางตั้งแต่ จังหวัดลพบุรี สุดเขต อ.หนองโดน จ. สระบุรี พบว่ากระแสน้ำเชี่ยวกราก หญ้าขึ้นรกริมคลอง จระเข้อาจจะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่งระหว่าง รอยต่อจังหวัดลพบุรี-สระบุรี ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายหากต้องเผชิญหน้ากับจระเข้ขนาด 2 เมตรทั้งสองตัว

ประมงจังหวัดลพบุรี ได้ฝากเตือนประชาชนริมคลองดังกล่าว รวมถึงประมงพื้นบ้าน และชาวนา ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ คาดจระเข้ทั้งสองตัวที่พบในคลองอาจหิวโซ และมีความดุร้าย หากผู้ใดพบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ประมงโดยด่วนที่สุด