‘เมเจอร์ฯ’ ไขกลยุทธ์ ดันสื่อโฆษณาในโรงหนัง โตสวนทิศ ‘อุตฯโฆษณา’

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ยิ้มรับธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ปี 2562 เติบโตต่อเนื่อง สวนทางภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา หลังไตรมาส 3 โตเพิ่มขึ้น 30% โชว์กลยุทธ์ปี 2563 เน้นบริหารแบบ "มีเดีย โซลูชั่น" ชูแนวคิดสื่อโฆษณาเป็นมากกว่าสื่อการตลาด และมุ่งการทำกิจกรรมการตลาด "On Ground Marketing"

นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในปี 2562 มีทิศทางเป็นบวก เห็นได้จากตัวเลขรายได้ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มีรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณา 369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561

สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว มาจากการต่อสัญญาใหม่ของลูกค้าที่หมดสัญญา และมีลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจากการขยายสาขาโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายสาขาในต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการขยายสาขาและจำนวนโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดตลาดใหม่ ๆ ขึ้น โดยสิ้นปี 2562 โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 170 สาขา 812 โรง ครอบคลุม 60 จังหวัด รวมทั้งตั้งเป้าขยายโรงภาพยนตร์ให้ครบ 1,200 โรง มีสาขาครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศในปี 2025

ทั้งนี้ สะท้อนถึงธุรกิจโรงภาพยนตร์ไม่ได้ถูกดิสรัปต์ จากบริการสตรีมมิ่ง บนอินเทอร์เน็ต ที่หลายคนกังวล ทั้งเน็ตฟลิกซ์, ไลน์ทีวี และ ดิสนีย์พลัส เนื่องจากบริการสตรีมมิ่งไม่สามารถมาทดแทนโรงภาพยนตร์ได้ เพราะคอนเทนต์ที่แตกต่าง จุดเด่นของโรงภาพยนตร์คือคนต้องการดูหนังใหม่ ไม่ชอบรอ แต่สตรีมมิ่ง คือ หนังซีรีย์ หนังที่ผ่านการเข้าฉายในโรงมาแล้ว อีกทั้งบริการสตรีมมิ่งยังเหมาะกับคนเมืองมากกว่าคนต่างจังหวัด ส่วนโรงภาพยนตร์ตลาดส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนต่างจังหวัด จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่แสดงว่าโรงภาพยนตร์ไม่ถูกดิสรัปด้วยเทคโนโลยี

จากปัจจัยทางด้านบวกของธุรกิจโรงภาพยนตร์ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สื่อโฆษณาสามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ทั้งคนเมือง คนต่างจังหวัด ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งวัยรุ่น คนทำงาน และครอบครัว ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักทุกช่วงวัยที่สินค้าทุกประเภทต้องการเข้าถึง

ขณะที่กลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ในปี 2563 ให้เติบโตเพิ่มขึ้น ได้วางแผนการดำเนินธุรกิจดังนี้

• การบริหารโฆษณาแบบ มีเดีย โซลูชั่น ด้วยแนวคิด “สื่อโฆษณาเป็นมากกว่าสื่อทางการตลาด” ไม่เพียงแค่สร้าง แบรนด์ อแวร์เนส แต่ต้องมุ่งสร้างประโยชน์ให้ครอบคลุมการตลาดในทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มมิลเลนเนียล โดยพร้อมที่จะเป็นมีเดีย โซลูชั่น อย่างเต็มรูปแบบ ศึกษาความต้องการที่แท้จริงของพันธมิตรและเชื่อมโยงการตลาดจาก ออนไลน์ ไปสู่ ออน กราวน์ ทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น

• เน้นการทำ ออนกราวน์ มาร์เก็ตติ้ง (On ground Marketing) เพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับพาร์ทเนอร์และลูกค้า โดยนอกจากให้บริการสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ให้กับลูกค้าแล้ว ยังบริการจัดอีเว้นท์ให้กับลูกค้า ซึ่งในแต่ละอีเว้นท์เราจะพยายามครีเอทคอนเทนต์ให้น่าสนใจ ผสมผสานเรื่องของ ไลฟ์สไตล์  และ ดิจิทัล ให้เข้าไปมีบทบาทในอีเว้นท์ต่าง ๆ เพื่อให้มีรูปแบบแปลกใหม่ น่าสนใจ และต่อยอดได้

• นำข้อมูล บิ๊กดาต้า มาวิเคราะห์เพื่อสร้างแผนการตลาดที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่มแบบลงลึกเป็น เพอร์ซันนอลไลซ์ สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายจากบุคคลไปสู่ลูกค้าองค์กร โดยเฉพาะการทำซีอาร์เอ็มที่มอบสิทธิประโยชน์ สิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้กับลูกค้าในการใช้บริการ

• ทำงานร่วมกับ เอเจนซี่โฆษณามากขึ้น โดยมุ่งเน้นเพิ่มฐานลูกค้าแบรนด์ระดับโลก (Global brand) บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่ซื้อสื่อโฆษณาผ่าน Agency โดยจะร่วมกันทำ Workshop วางแผนการทำงานร่วมกัน รวมทั้งจัดแพ็คเกจให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละแบรนด์

• จับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการเพิ่มมูลค่าให้กับแพ็คเกจการขายมากยิ่งขึ้น เช่น การคิดกิจกรรมทางการตลาดใหม่ๆ ร่วมกันกับ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ และ ดิสนีย์  เป็นต้น

จากแนวคิดการดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาและกิจกรรมที่ช่วยเสริมให้สินค้าของลูกค้าเข้าถึงและมีความหลากหลายในการรับรู้ ทำให้สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงมากกว่าสื่อโฆษณาประเภทอื่น อีกทั้งเป็นสื่อโฆษณาที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้บริโภค และสามารถสร้างประสบการณ์ความพิเศษให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี จึงส่งผลให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมจากพันธมิตรเพื่อร่วมมือกันสร้างความภักดีในแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน