โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สุดยอด 10 ผู้ประกอบการ รุกจับคู่ธุรกิจออนไลน์ เจาะตลาดอินเดีย

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 25 มิ.ย. 2564 เวลา 08.24 น. • เผยแพร่ 25 มิ.ย. 2564 เวลา 06.56 น.

ผู้ชนะการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจ DTN Business Plan Award 2020 ลุยจับคู่ธุรกิจสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูปแบบออนไลน์กับผู้นำเข้าอินเดีย ชี้! เป็นโอกาสดีในการเจาะตลาด ในช่วงโควิด-19 คาดเกิดมูลค่าได้ 150 ล้านบาทในครั้งนี้

วันที่ 25 มิถุนายน 2564 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูปไทยกับอินเดียรูปแบบออนไลน์ (ผ่านระบบ Zoom) ณ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดขึ้น ภายใต้โครงการ DTN Business Plan Award 2020 “ชี้ช่องทางโอกาส บุกตลาดด้วย FTA” ว่า การดำเนินการครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศของไทยประจำอินเดีย ทั้ง 3 แห่ง คือ กรุงนิวเดลี เมืองเจนไน และเมืองมุมไบ ในการเปิดเจรจาธุรกิจออนไลน์

กิจกรรมในครั้งนี้ ได้นำผู้ประกอบการอาหารและเกษตรแปรรูปของไทย 10 ราย ที่ชนะการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจมาจับคู่ธุรกิจกับผู้นำเข้าอินเดียผ่านระบบออนไลน์ โดยมีผู้นำเข้าอินเดียให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 33 บริษัท ซึ่งเป็นผู้นำสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม และอาหารแปรรูปของไทย เข้าเจาะตลาดอินเดีย

โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งผู้บริโภคอินเดียหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกเคหสถาน ทำให้มีความต้องการซื้อสินค้าประเภทอาหารและเกษตรแปรรูป อาทิ ธัญพืช น้ำมันพืช เกลือ ถั่ว ขนมทานเล่น และเครื่องดื่ม โดยซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ซึ่งเป็นที่นิยมในอินเดีย เช่น Amazon, Big Basket, Hallo Basket และ Grover มากขึ้น

“การจับคู่ธุรกิจครั้งนี้จะเป็นประตูและสร้างโอกาสทางการค้าให้กับสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในตลาดอินเดียให้สูงกว่า 0.6% ในปัจจุบัน รวมถึงประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักและจดจำ ซึ่งจะทำให้มูลค่า การส่งออกของไทยในตลาดอินเดียจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน โดยจากการจับคู่ธุรกิจในครั้งนี้คาดว่าจะมีมูลค่าราว 150 ล้านบาท”

สำหรับผู้ประกอบการ จำนวน 10 ราย ที่เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ได้แก่ (1) บริษัท ครูยุ คอทเทจ จำกัด (ผลิตภัณฑ์ธัญพืชอบกรอบชนิดแท่ง) (2) บริษัท ชาร์มมิ่งกรุ๊ป จำกัด (ผลิตภัณฑ์ขนมพริกกรอบ ผสมเมล็ดเจีย) (3) บริษัท เชียงใหม่ไบโอเวกกี้ จำกัด (ผลิตภัณฑ์น้ำมะนาวคั้นสด 100%) (4) บริษัท ไซน์ชายน์ จำกัด (ผลิตภัณฑ์นมถั่วเพื่อสุขภาพ)

(5) บริษัท ทีบีที เทรดดิ้ง จำกัด (ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมเนื้อว่านหางจระเข้ น้ำองุ่น) (6) บริษัท นาสาร ฟู้ด โปรดักซ์ จำกัด (ผลิตภัณฑ์เงาะอบแห้ง) (7) บริษัท นิวทริ-ไฟว์ ฟู้ด จำกัด (ผลิตภัณฑ์ข้าวกล้องอินทรีย์อบกรอบผสมมันฝรั่ง ผักและผลไม้) (8) บริษัท มาดามแมงโก้ จำกัด (ผลิตภัณฑ์ข้าวป๊อป) (9) บริษัท สมศรีไทยเฮิร์บ จำกัด (ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มมะกรูดผสมสมุนไพรสกัด) (10) บริษัท หมื่นลี้ โกลบอล เทรด จำกัด (ผลิตภัณฑ์อาหารไทยสี่ภาคตำรับไทยโบราณ)

ขณะที่การใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับอินเดีย ได้แก่ FTA ไทย-อินเดีย (บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2547) และ FTA อาเซียน-อินเดีย (บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2553) ที่ส่งผลให้อินเดียลด/เลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าส่งออกจากไทยแล้วกว่า 5,220 รายการ เช่น อาหาร ผลไม้ อาหารทะเลกระป๋อง อาหารปรุงแต่ง และผักผลไม้แปรรูป เป็นต้น จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างรายได้จากการจับคู่ธุรกิจและส่งออกไปอินเดียได้มากขึ้น และยังถือเป็นความสำเร็จของการร่วมมือกันทำงานระหว่างหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ด้วย

ทั้งนี้ อินเดียถือเป็นตลาดที่น่าสนใจเนื่องจากมีประชากรกว่า 1,300 ล้านคน โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2564 การค้าไทย-อินเดีย มีมูลค่ารวมกว่า 5,954.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (180,773.4 ล้านบาท) ขยายตัวกว่า 54% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 โดยการส่งออกจากไทยไปอินเดียมีมูลค่า 3,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (99,000.7 ล้านบาท) ขยายตัวถึง 47%

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...