"ไตรศุลี" ขอโทษที่ ปชช.ต้องลำบาก ย้ำ "นายกฯ" ไม่มีเจรจาหยุดยิง
"ไตรศุลี" ขอโทษที่ต้องลำบาก ขอให้ ปชช. อดทน หวัง จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกหลานในอนาคต พร้อม ประสานทุกภาคส่วน หลังมีข้อมูลงบประมาณลงไม่ถึงศูนย์พักพิง ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ย้ำ "นายกฯ" ไม่มีเจรจาหยุดยิง
วันที่ 10 ธ.ค. 68 ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุลเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ว่า ตนลงพื้นที่ในหลายจุดสิ่งที่ได้เห็นพบว่าบางศูนย์พักพิงยังไม่มีความพร้อม ทั้งเรื่องอาหารการกินและของใช้ส่วนตัว ซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ดูแลประชาชนอย่างเต็ม ซึ่งทางรัฐบาลสั่งการมาแล้วพื้นที่ต้องรีบรับนโยบายไปดำเนินการปฏิบัติซึ่งตนได้พูดคุยกับหลายภาคส่วนคาดว่าภายในวันนี้ (10 ธ.ค.) ตอนเย็นหรือพรุ่งนี้เช้า (11 ธ.ค.) ต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และทุกศูนย์ต้องมีความพร้อมจริงๆ
“สิ่งที่ตนได้รับมา คือการบอกกล่าวว่าศูนย์ได้งบประมาณไม่เพียงพอ และต้องแบ่งอาหารกันกิน จึงขอความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงาน โดยต้องยอมรับว่ามีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นจริง บางศูนย์พักพิงบอกว่าประชาชนต้องออกเงินกันเองซึ่งยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่มีคนให้ข้อมูลมา แต่เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก“
ส่วนที่มีเสียงสะท้อนว่างบมาไม่ถึงนั้น นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มีงบที่รัฐบาลขยายให้เป็นหลัก 100-200 ล้านบาท แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการใช้อาจจะยาก เพราะต้องโอนงบไปตามอำเภอต่างๆ และทางปลัดมหาดไทย ยืนยันกับตนว่าพรุ่งนี้ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลาย โดยจากการตรวจสอบพบปัญหายังไม่มีการเบิกจ่ายตั้งแต่ในการอพยพครั้งที่แล้ว เมื่อเจอปัญหาจึงรีบสั่งการแก้ไข และคิดว่าปัจจุบันน่าจะได้รับการแก้ไขแล้ว ด้วยระเบียบกฎหมายข้อบังคับที่ต้องทำตาม ก็อาจมีความล่าช้าบ้าง ทั้งนี้ด้วยความที่พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษเป็นบ้านของตน ต้องมีการติดตาม เพราะความเดือดร้อนของประชาชนครั้งนี้ถือว่าหนักจริงๆ ตนรู้สึกสงสารชาวบ้าน พร้อมย้ำว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแลชาวบ้านให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ข้าวของเครื่องใช้ ต้องอย่าให้ขาด
“ในการลงพื้นที่ชาวบ้านส่วนใหญ่มักจะให้กำลังใจเรา ทั้งที่เราเป็นห่วงเขา ซึ่งเขาจะบอกว่าเอาให้เต็มที่ เอาให้จบ เอาให้เด็ดขาด ส่วนที่ชาวบ้านกังวลคือไม่อยากอยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้ว ไม่อยากจะอพยพ ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ ที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น“
สำหรับกระแสข่าวว่ามีการเจรจาหยุดยิง นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีพูดชัดเจนว่าไม่มีการเจรจาเรื่องการหยุดยิงใดๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นกัมพูชาเป็นฝ่ายร้องขอในการเจรจาก่อน ซึ่งต้องยืนยันตามนั้น
เมื่อถามย้ำว่าต่อให้มีประเทศที่3 มาเจรจาให้มีการหยุดยิงก็จะไม่หยุดใช่หรือไม่ นางสาวไตรศุลี ตอบว่า ใช่ โดยแนวทางของเราคือการปกป้องอธิปไตยของประเทศ และยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นผู้รุกรานใคร เราทำหน้าที่ป้องกันประเทศ ที่ผ่านมาทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เราเสียขาทหารไปเท่าไหร่และเสียชีวิตไปเท่าไหร่ ซึ่งเราไม่ใช่ฝ่ายที่รุกรานเราเป็นฝ่ายที่ตั้งรับ แต่วันนี้จำเป็นและถึงเวลาที่เราต้องปฏิบัติทางทหารในการปกป้องอธิปไตยของเราไว้ ซึ่งทางรัฐบาลและทางทหารยืนยันมาตลอดว่าเราไม่ได้เป็นศัตรูกับประชาชนกัมพูชาวิธีการที่ต้องไปโจมตีฝ่ายพลเรือน การปฎิบัติการนี้เป็นปฎิบัติการทางทหารเท่านั้น ตนขอยืนยันแบบนี้อีกครั้ง
ส่วนที่มีการถ่ายภาพหน้าจอโทรศัพท์ของนายกนั้น นางสาวไตรศุลี ระบุว่า เป็นการเล่าข่าวให้ฟัง ไม่ใช่การพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐ แต่มีการส่งข้อมูลให้ว่ามีข่าวแบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้เป็นข้อความส่งมาโดยตรง
ส่วนที่ที่กัมพูชา ยิงระเบิดจากตกลงใกล้บริเวณโรงพยาบาลพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ นางสาวไตรศุลี ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าละอายพอสมควรกัมการที่กัมพูชาเข้ามาโดยมีเป้าหมายเป็นฝ่ายพลเรือนเพราะเราเองยืนยันว่าไม่ทำแบบนั้นจะปฏิบัติการเฉพาะทางทหารอย่างเดียวและไม่มีเป้าหมายโจมตีพลเดือนของกัมพูชาซึ่งหากกัมพูชามีเป้าหมายทำจริงถือว่าเป็นเรื่องน่าละอายซึ่งขณะนี้ตนไม่ทราบว่าจุดที่ระเบิดตกมีที่ไหนบ้าง
ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอพยพออกมาก่อนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งตนรู้ดีว่าไม่มีใครอย่าทิ้งบ้าน เพราะตนและครอบครัวก็เป็นหนึ่งคนที่ต้องอพยพออกมา เพื่อให้ทหารปฏิบัติการอย่างเต็มที่และไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนเรื่องผู้อพยพและชาวบ้านให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดูแล ซึ่งอะไรที่ขาดตกบกพร่องสามารถแจ้งตนได้ และต้องขอโทษประชาชนที่อาจจะต้องลำบากในวันนี้ แต่อยากขอให้อดทน ซึ่งเชื่อว่าในวันหน้าเราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกหลานในอนาคต