โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

จีนสอบสวนคดีค้าของเถื่อนผู้ควบคุมเรือ ที่ไต้หวันกล่าวหาจารกรรมสายเคเบิลใต้น้ำนอกชายฝั่ง

JS100

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • JS100:จส.100
จีนสอบสวนคดีค้าของเถื่อนผู้ควบคุมเรือ ที่ไต้หวันกล่าวหาจารกรรมสายเคเบิลใต้น้ำนอกชายฝั่ง

จีนกล่าวหาชายชาวไต้หวัน 2 คนเป็นหัวหน้าขบวนการลักลอบค้าของเถื่อน โดยมีการขนสินค้าทางเรือ หลังจากที่ทั้ง 2 คนถูกศาลไต้หวันตัดสินว่าเจตนาทำลายสายเคเบิลใต้น้ำนอกชายฝั่งไต้หวัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ (2568)

สำนักงานความมั่นคงสาธารณะในเมืองเหวยไห่ มณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน เปิดเผยผลการสอบสวนซึ่งพบว่า ชายชาวไต้หวัน 2 คน ที่เป็นผู้ควบคุมเรือ หงไท่ 58 ซึ่งจดทะเบียนในประเทศโตโก ลักลอบนำสินค้าแช่แข็งเข้าสู่จีนมาเป็นเวลานาน ทั้งคู่อยู่ในรายชื่อผู้ต้องหาที่สำนักงานศุลกากรจีนต้องการตัวมาตั้งแต่ปี 2557

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ (2568) หน่วยยามชายฝั่งไต้หวัน ควบคุมเรือ หงไท่ 58 พร้อมลูกเรือชาวจีนในจุดที่ใกล้กับสายเคเบิลใต้น้ำที่ได้รับความเสียหาย ต่อมาอัยการไต้หวันเปิดการสอบสวนว่าเป็นการก่อวินาศกรรมสายเคเบิลใต้น้ำ และในเดือนมิถุนายน ศาลไต้หวันตัดสินจำคุกกัปตันเรือเป็นเวลา 3 ปี โดยพบว่าเขามีความผิดจริงฐานเจตนาทำลายสายเคเบิลนอกชายฝั่งไต้หวัน ส่วนลูกเรือชาวจีน 7 คนถูกส่งตัวกลับประเทศโดยไม่ตั้งข้อหา

สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตและอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลก โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากความเคลื่อนไหวบนพื้นทะเลหรือกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งในแต่ละปีจะมีเหตุสายเคเบิลชำรุดประมาณ 100 ถึง 200 ครั้ง

นับตั้งแต่ปี 2566 มีเหตุการณ์สายเคเบิลใต้น้ำชำรุดอย่างน้อย 11 ครั้งในบริเวณรอบไต้หวัน ซึ่งหลายครั้งพบว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเกิดจากอุปกรณ์มีอายุมากแล้ว

#สายเคเบิลใต้น้ำ

#ชายฝั่งไต้หวัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...