โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

วรรณศิลป์ 'สมเด็จพระพันปีหลวง' ทรง 'พระราชนิพนธ์' เล่าเรื่อง 'ตามเสด็จ ร. 9

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 09 พ.ย. เวลา 20.01 น. • เผยแพร่ 07 พ.ย. เวลา 03.15 น.

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระปรีชาสามารถในหลาย ๆ ด้าน ด้านหนึ่งที่น่าสนใจมากคือด้านวรรณศิลป์

ท่านผู้หญิงบุษบา สธนพงศ์ พระขนิษฐาของพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เล่าถึงพระปรีชาสามารถทรงพระราชนิพนธ์เรื่องเล่าจากจินตนาการตั้งแต่ทรงพระเยาว์ว่า

"ท่านโปรดเป็นนักประพันธ์ ทรงมีจินตนาการ โปรดแต่งหนังสือ ก็แต่งกันเนี่ย บอกน้องไปคุปกัน… หมายถึง คุปเหรียน ไปเขียนรูป ท่านเขียนรูปแล้วท่านก็เล่าไปด้วย เราก็เขียน…ไม่มีใครสนใจ

แต่พอท่านเขียนแต่งนี้ พวกลูกของมหาดเล็กของท่านพ่อ พวกที่อายุใกล้ ๆ กัน จะชอบฟังมาก นั่งฟังกันเป็นแถวเลย โปรดเป็นครูด้วย ทรงสอนเก่งและสนุกมาก จำไม่ได้ว่าสอนวิชาอะไร รู้สึกว่าจะเป็นนิทานมากกว่า…”

Cr. Thai Classic

พระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระพันปีหลวง

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ เล่มสำคัญที่แสดงพระปรีชาสามารถยอดเยี่ยมในด้านวรรณศิลป์ นั่นคือ ความทรงจำในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ

จัดพิมพ์ครั้งแรกเนื่องในโอกาสเจริญพระชนมพรรษา 3 รอบ 12 สิงหาคม 2511

เป็นพระราชบันทึกการตามเสด็จทางราชการไปอเมริกาและยุโรป พุทธศักราช 2503 รวม 15 ประเทศ ในระยะเวลา 7 เดือน

การตามเสด็จไปเยือนสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน สหพันธรัฐมลายา ประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ในพุทธศักราช 2505 การตามเสด็จเยือนประเทศอิหร่านในพุทธศักราช 2510 และการตามเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 2 และประเทศแคนาดาในปีเดียวกัน

ทรงพระราชนิพนธ์บันทึกความทรงจำเล่มนี้ด้วยสำนวนภาษาเรียบง่าย และทรงแสดงความรู้สึกส่วนพระองค์อย่างตรงไปตรงมาไม่ปิดบัง อย่างเช่น ทรงเล่าว่าพระองค์ทรงรู้สึกตื่นเต้น ครั่นคร้าม ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน เป็นที่ทราบกันดีว่าสื่อมวลชนต่างประเทศจะไม่ค่อยเกรงใจผู้ใด ดังข้อความในพระราชนิพนธ์ตอนหนึ่งว่า

"ข้าพเจ้านั่งนิ่งไม่กระดุกกระดิกอยู่ข้างที่ประทับ มือเย็นเฉียบด้วยความกลัว เครื่องขยายเสียง เครื่องอัดเสียงเต็มไปหมด ไฟฉายตั้งส่องมาสว่างจ้าจนตาพร่า ทั้งมีแสงว้อบแว้บ ๆ อยู่ไม่ขาดระยะ ผู้คนช่างมากันมากมายเหลือเกิน นัยน์ตาทุกคู่จ้องเป๋งมาที่เราทั้งสอง เขาทั้งถ่ายรูป ถ่ายหนัง ถ่ายโทรทัศน์ ทั้งถวายสัมภาษณ์ พร้อมกันไปหมด ข้าพเจ้าได้แต่นั่งภาวนาขออย่าให้มีใครมายุ่งกับตัวข้าพเจ้าเลย”

Cr. Thai Classic

การเสด็จพระราชดำเนินต่างประเทศครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชกรณียกิจมากมายในแต่ละวัน

ต้องเสด็จเดินทางระหว่างเมือง ระหว่างรัฐ ระหว่างประเทศ ทอดพระเนตรกิจการและวัฒนธรรมตามเมืองต่าง ๆ และทรงร่วมงานเลี้ยงจนดึก บางขณะจึงทรงพระประชวรเพราะอ่อนเพลียจนเกินกว่าจะทรงอดกลั้นไว้ได้ ดังที่ สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงเล่าถึงช่วงขณะที่ประทับบนเครื่องบินไปนิวยอร์กว่า

"…จำได้ว่าคราวหนึ่งเมื่อเดินทางตามเสด็จจากสนามบินเมืองวิลเลี่ยมสเบิกจะไปนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเวลาเพียงชั่วโมงครึ่งเท่านั้น เรือบินพระราชที่นั่งจึงไม่ได้บินสูงนัก เผอิญอากาศก็ไม่ดี เรือบินตกหลุมอากาศฮวบ ๆ ฮาบ ๆ มากว่าครึ่งทาง ประกอบกับข้าพเจ้ากำลังอ่อนเพลียอยู่แล้ว เพราะอดนอนติดต่อกันมานานหลายอาทิตย์ จึงรู้สึกเวียนศีรษะไม่สบาย เมาเรือบินมาก

ถึงแม้จะทำตามที่พระเจ้าอยู่หัวทรงสอนไว้คือให้ใช้อำนาจจิตข่ม ไม่ให้ยอมแพ้ แต่กระนั้นก็ต้องนั่งนิ่ง กระดุกกระดิกไม่ได้เลย ศีรษะพิงพนักเก้าอี้ หลับตาแน่น พอเรือบินบินวนจนลงที่สนามบินลาการ์เดียเมืองนิวยอร์กเท่านั้น อำนาจจิตของข้าพเจ้าก็พังทลายลง ข้าพเจ้าวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน มิไยใครจะพูดกระไรหน้าห้อง จะถามข่าวไม่ว่าภาษาไทยภาษาเทศ หรือเรียกตัวกลับไปนั่งรัดเข็มขัดตามคำสั่งของกัปตัน ข้าพเจ้าก็ไม่ไหวทั้งสิ้น ยืนเกาะอ่างน้ำอยู่อย่างนั้น…"

Cr. Thai Classic

พระราชนิพนธ์เรื่อง ความทรงจำในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ ฉายภาพให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงงานหนักเพียงใด เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศในฐานะองค์พระประมุขของประเทศไทย

แม้พระองค์ทรงพระประชวรก็ต้องทรงอดทนอย่างที่สุด เสด็จพระราชดำเนินไปทรงร่วมงานทุกงานเพื่อมิให้กระทบกระเทือนหมายกำหนดการต่าง ๆ ที่เจ้าภาพจัดไว้ล่วงหน้า สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงพระราชนิพนธ์ถึงการประชวรของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในช่วงเสด็จเยือนประเทศเบลเยี่ยมไว้ตอนหนึ่งว่า

"เผอิญพระเจ้าอยู่หัวเริ่มประชวรหวัดตอนเสด็จถึงเบลเยี่ยม ถ้าได้บรรทมพักผ่อนเสียสักวันหรือ 2 วัน พระอาการคงจะไม่กำเริบ นี่ต้องเสด็จออกงานตั้งแต่เช้าจนค่ำไม่เว้นว่าง เสด็จเดินทางไปตามเมืองต่าง ๆ อากาศก็ค่อนข้างเย็น ฝนตกทุกวัน

ทำให้ทรงโดนละอองฝนที่หนาวเย็นอยู่ตลอดเวลา พอวันที่ 2 ก็เลยประชวรไข้ หมอประจำพระองค์จึงถวายยาทุก 4 ชั่วโมง เลยทำให้ทรงง่วง ซึม แต่พระอาการไข้ก็ไม่ลด แต่กระนั้นก็ทรงฝืนพระทัยทำกระปรี้กระเปร่าเสด็จออกงานทุกงานไม่เว้นว่าง

ไม่มีใครนอกจากพวกเราที่ทราบว่าท่านประชวรเพียงไร ทรงคุยภาษาฝรั่งเศสที อังกฤษที ในวันหนึ่ง ๆ ต้องประทานพระหัตถ์ให้คนจับเห็นจะร่วมพันคน ข้าพเจ้าสงสารเห็นพระทัยท่านยิ่งนัก ถ้าข้าพเจ้าเจ็บถึงขนาดนั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทนสู้ไหวหรือไม่

ยิ่งเห็นพระพักตร์พระเจ้าอยู่หัวซีดเซียว พระเนตรปรือเพราะพิษไข้ ข้าพเจ้าก็ยิ่งกลุ้มใจ แต่ก็สุดปัญญามิรู้ที่จะแก้ไขอย่างไร ข้าพเจ้าทราบดีว่าท่านจะทรงอดทนจนถึงที่สุดทีเดียว ไม่มีวันที่จะทรงยอมแพ้เป็นอันขาด นึกถึงประโยคที่พวกฝรั่งชอบพูด as happy as a king แล้ว ครั้งนั้น ข้าพเจ้าอยากจะหัวเราะก้ากออกมาอย่างเยาะเย้ยและขมขื่น"

Cr. Thai Classic

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประทับพระราชหฤทัยกับการที่ประชาชนของประเทศต่าง ๆ มาเข้าเฝ้ารับเสด็จ กันอย่างล้นหลาม

สองข้างถนนที่รถพระที่นั่งแล่นผ่านเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ต่างร้องตะโกนถวายพระพร ด้านหน้าที่ประทับก็มีประชาชนจำนวนมากคอยรับเสด็จและปรบมือร้องถวายพระพร แม้ว่าจะเป็นเวลาดึกดื่น อากาศหนาวเย็น หรือฝนตก

ดังนั้น พระองค์จึงมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนคนไทยร่วมมือกับรัฐบาลต้อนรับประมุขต่างประเทศที่มาเยือนประเทศไทยอย่างพร้อมพรั่งเช่นเดียวกันนี้ เพื่อเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศอย่างแนบแน่น ดังพระราชนิพนธ์ตอนหนึ่งว่า

"…เราทั้งสองรู้สึกตื้นตันในน้ำใจของพวกเขาจนไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมากล่าวได้ ถ้าแม้ว่าคนไทยเราสามารถให้ความสนใจและแผ่เมตตาต่อแขกเมืองที่มาเยี่ยมเมืองไทยเช่นนี้บ้าง ข้าพเจ้าคิดว่ารัฐบาลของเราแทบจะไม่ต้องตกแต่งบ้านเมืองในการต้อนรับแขกเมืองให้มากนัก การแสดงน้ำใจของประชาชนนี่แหละจะได้ผลดีในการกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศให้สนิทแน่นยิ่งกว่าการประดับประดาใด ๆ ทั้งสิ้น"

………………………………….

อ้างอิง : อัคราภิรักษศิลปิน บารมีพระมิ่งแม่ปกป้องศิลป์ไทยนานเทอญ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...