โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

“ลุงโง่ย้ายภูเขา 2025” เทคโนโลยีจีนปฏิวัติเหมืองปูนซีเมนต์ในไทย

เดลินิวส์

อัพเดต 10 ส.ค. เวลา 11.39 น. • เผยแพร่ 10 ส.ค. เวลา 01.02 น. • เดลินิวส์
ภายใต้แดดอันร้อนแรงในจังหวัดสระบุรีของไทย พื้นที่ทำเหมืองปูนซีเมนต์เต็มไปด้วยความคึกคัก รถบรรทุกขนาดใหญ่แล่นเข้าออกอย่างต่อเนื่อง และการปฏิวัติทางเทคโนโลยีกำลังเกิดขึ้นแล้วอย่างเงียบ ๆ รถบรรทุกไร้คนขับวิ่งอย่างแม่นยำ ขณะที่หน้าจอข้อมูลขนาดใหญ่ในศูนย์ควบคุมระยะไกล ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานทั่วทั้งพื้นที่แบบเรียลไทม์

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2566ทีมงานจากจีนได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดูเหนือจริงในเหมืองแห่งนี้ของไทย พวกเขาไม่ได้มาเพื่อขุดแร่ แต่มาเพื่อภารกิจ “ย้ายภูเขา” ดั่งเรื่องเล่าของชายชราผู้โง่เขลาในนิทานพื้นบ้านจีนอันโด่งดัง และ “ผู้ย้ายภูเขา” ในครั้งนี้คือ ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะด้านการทำเหมืองแบบขนานยูคอน ( YUKON ) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยสถาบันระบบอัตโนมัติ ( Institute of Automation ) และสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ( CAS )

หกองค์กรผนึกกำลัง พัฒนามาตรฐานร่วมกัน

ความร่วมมือครั้งนี้เริ่มต้นจากความต้องการในการเปลี่ยนผ่านของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย ( SCG ) กลุ่มอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของไทยที่มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี เอสซีจีกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความเสี่ยง ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ต่ำ จึงสนใจร ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะด้านการทำเหมืองแบบขนานยูคอนจากจีน โดยระบบนี้ขับเคลื่อนด้วยโมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่ ( AI large models ) สามารถคุมกระบวนการทำเหมืองที่สำคัญได้อัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ มอบโซลูชั่นที่ครบวงจรให้กับเอสซีจีในการยกระดับการดำเนินงาน

เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากจากสำนักงานนวัตกรรมและความร่วมมือ ( กรุงเทพ ฯ ) สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ( CAS Innovation Cooperation Center ( Bangkok ) ) เมื่อปี 2565 บริษัทเอสซีจี, สถาบันระบบอัตโนมัติ ,สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน, เวย์ทัส ( WAYTOUS ), เอไอเอส ( AIS ), หัวเว่ย ( Huawei ) และ อวี่ทง ( Yutong ) จึงลงนามในข้อตกลงความร่วมมือองค์กร และกลายเป็นรากฐานสำคัญของโครงการนี้ ที่ไม่ใช่เพียงการส่งออกเครื่องจักร แต่คือการส่งออก “สมองอัจฉริยะ” ระบบโซลูชันครบวงจรเพื่อการทำเหมืองอัตโนมัติอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม การย้าย “สมองอัจฉริยะ” จากจีนมาติดตั้งในไทยไม่ใช่เรื่องง่าย ช่วงเริ่มต้นโครงการ ทีมวิศวกรจีนและไทยต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งในด้านวัฒนธรรม มาตรฐานการทำงาน และระบบเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ความล่าช้าในการสื่อสารของรถบรรทุกเหมืองเกินค่ามาตรฐาน ความยากในการปรับข้อมูลฝึกสอนเอไอให้เข้ากับบริบทท้องถิ่น และความขัดแย้งระหว่างกระบวนการทำงานกับตรรกะของอัลกอริทึม

วิศวกรจากทั้งสองประเทศจึงต้องจัดประชุมหารือหลายครั้ง ปรับแต่งค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ทำการจำลองสถานการณ์ และลงพื้นที่ทดสอบจริง ช่วยให้ระบบเอไอค่อย ๆ ปรับจูนเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำเหมืองจริงได้อย่างแม่นยำในที่สุด

ต้นปี 2567 รถบรรทุกเหมืองแร่ไร้คนขับชุดแรกได้เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ทำเหมืองอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการเสร็จสิ้นโครงการเหมืองอัจฉริยะที่สร้างขึ้นร่วมกันระหว่างบุคลากรเทคโนโลยีจีนและทีมงานเอสซีจี โดยเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหลากหลายครั้งแรกในไทย อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ โมเดลขนาดใหญ่ และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ

เหมืองชาญฉลาด ด้วยพลังของ “นักขุดเอไอ” และ “สมองที่อัจฉริยะที่สุด”

รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าบริสุทธิ์ไร้คนขับของอวี่ทง ซึ่งติดตั้งระบบปฏิบัติการเหมืองแบบขนานอัจฉริยะยูคอนได้แปรสภาพเป็น “นักขุดเอไอ” ที่ทำงานได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย รถเหล่านี้นำทางได้อย่างแม่นยำ บรรทุกและขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ รวมถึงหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้ด้วยตนเอง

นวัตกรรมนี้ได้พลิกโฉมข้อจำกัดของการปฏิบัติงานแบบใช้แรงงานคนอย่างสิ้นเชิง รถแต่ละคันสามารถทำงานได้นานขึ้นอีกประมาณ 2 ชั่วโมงต่อกะ ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมเพิ่มขึ้นถึง 16% ขณะเดียวกัน จำนวนแรงงานภาคสนามก็ลดลงโดยตรงถึง 50% ช่วยให้เหมืองประหยัดต้นทุนแรงงานได้เกือบ 1 ล้านบาทต่อปี

ในด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมากแล้ว อัลกอริทึมการขับขี่อัตโนมัติของเอไอยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมเวลาสตาร์ตและหยุดรถ เส้นทางการวิ่ง และความเร็วในการเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมสิ้นเปลืองพลังงานที่มักเกิดจากการขับขี่ด้วยคน เช่น การเร่งเครื่องกระทันหันหรือการจอดรอโดยไม่ดับเครื่อง ส่งผลให้การใช้พลังงานโดยรวมลดลงถึง 20%

การดำเนินโครงการนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ “เศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว” ( Bio-Circular-Green ) ของไทย และได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐของไทยที่เกี่ยวข้องรวมถึงบริษัทเอกชนอย่างเอสซีจีและเอไอเอส

โครงการยังได้รับการบรรจุไว้ในคลังโครงการสาธิตของศูนย์ความร่วมมือด้านนวัตกรรมสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเวทีความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูงระหว่างจีนกับไทย อันเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการขยายผลในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นนิคมอุตสาหกรรม ฐานโลจิสติกส์ หรือแวดวงอื่น วิสัยทัศน์ความร่วมมือเพื่ออนาคต

เหมืองอัจฉริยะที่สระบุรี ถือเป็นโครงการขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบแห่งแรกที่เทคโนโลยีเอไอของจีนได้ก้าวออกสู่เวทีโลกอย่างแท้จริง แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน ทั้งยังเปิดทางสู่การขยายตลาดไปต่างประเทศ และไม่ใช่เพียงการส่งออกสินค้า แต่รวมถึงการส่งออกมาตรฐานและเทคโนโลยีแบบบูรณาการด้วย

นอกจากนี้ ยังเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนว่า เทคโนโลยีเอไอของจีนสามารถก้าวข้ามพรมแดน สร้างคุณค่าหลักให้กับพันธมิตรในด้านความปลอดภัย ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และประสิทธิภาพในการดำเนินงาน.

ข้อมูล-ภาพ : XINHUA

( เรียบเรียงโดย Xu Yuan with Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/346889.html )

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...