โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

‘โอเรียนท์ฯ’ ย้ำเมดอินเจแปน ชิงตลาดนาฬิกาพรีเมี่ยมแมส

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 28 มี.ค. เวลา 03.45 น. • เผยแพร่ 28 มี.ค. เวลา 05.44 น.

โอเรียนท์ สตาร์ มั่นใจแม้ตลาดนาฬิกาหรูหดตัวต่อเนื่องหลังเศรษฐกิจฝืด-ซัพพลายล้น แต่เซ็กเมนต์พรีเมี่ยมแมส 4 หมื่น-2 แสนบาท แนวโน้มโตแกร่งสวนทางด้วยราคาจับต้องง่ายดึงดูดลูกค้าคนรุ่นใหม่ โหมทำตลาดย้ำโพซิชั่นนาฬิกาเมดอินเจแปน แยกภาพจำโอเรียนท์ ก่อนเล็งจังหวะปี’69 ครบรอบ 75 ปี ผลิตรุ่นพิเศษฉลอง พร้อมชิงฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่

นายคม สัจจวโรดม ผู้จัดการสินค้าแบรนด์ โอเรียนท์ สตาร์ (ORIENT STAR) บริษัท สหกรุงทอง (UKT) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกาหรูหลากหลายแบรนด์ กล่าวว่า ตลาดนาฬิกาหรูโดยรวมหดตัวลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ สภาพเศรษฐกิจ การมีซัพพลายมากกว่าดีมานด์ ส่งผลให้ปริมาณการซื้อเพื่อเก็งกำไรลดลง รวมถึงการเกิดช่วงพีกระหว่างการระบาดของโควิด-19 ทำให้มีฐานเปรียบเทียบที่สูง

อย่างไรก็ตาม ในเซ็กเมนต์นาฬิการะดับพรีเมี่ยมแมส หรือนาฬิการะดับราคา 40,000-200,000 บาท ซึ่งมีสัดส่วน 30-40% ของตลาดรวมนั้น ยังเติบโตถึง 15% หลังระดับราคาที่เข้าถึงง่าย และตัวเลือกที่หลากหลายทั้งนาฬิกาผลิตในญี่ปุ่นและสวิตเซอร์แลนด์

ปัจจัยเหล่านี้ดึงดูดให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจซื้อหาใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมเสริมภาพลักษณ์และสะท้อนไลฟ์สไตล์ โดยตัดสินใจเลือกซื้อจาก 3 ปัจจัย คือ ดีไซน์, ราคา รวมไปถึงภาพลักษณ์และเรื่องราวของแบรนด์-นาฬิกาแต่ละรุ่น

“เซ็กเมนต์นาฬิกาพรีเมี่ยมแมสยังมีความต้านทานต่อสภาพเศรษฐกิจสูงกว่าเซ็กเมนต์ที่พรีเมี่ยมกว่า เนื่องจากไม่มีการลงทุนหรือการซื้อเพื่อเก็งกำไรมาเกี่ยวข้องมากนัก โดยช่วง 2 เดือนแรกของปี 2568 นี้ยอดขายยังดี เนื่องจากแรงหนุนของโครงการ Easy E-Receipt 2.0 และนาฬิการุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาสถานการณ์การเมืองโลก เนื่องจากกำแพงภาษีอาจกระทบต่อกลุ่มลูกค้า”

เสริมแบรนดิ้งแยกภาพจำ

นายคมกล่าวต่อไปว่า จากแนวโน้มการเติบโตของเซ็กเมนต์พรีเมี่ยมแมสนี้ ทำให้แบรนด์ “โอเรียนท์ สตาร์” ตัดสินใจเร่งสปีดการทำตลาดทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย ด้วยเป้าหมายหลักในการแยกแบรนดิ้งหรือภาพจำของผู้บริโภคออกจากแบรนด์ “โอเรียนท์” พร้อมย้ำโพซิชั่นที่มีความหรูมากกว่า เนื่องจากปัจจุบันนาฬิกาโอเรียนท์สตาร์ยังคงผลิตจากโรงงานในประเทศญี่ปุ่น ส่วนนาฬิกาโอเรียนท์มีฐานผลิตในประเทศไทย

โดยแต่ละแบรนด์จะโฟกัสการสื่อสารและทำการตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งโอเรียนท์สตาร์จะเน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภคอายุตั้งแต่ 20 ปี ไปจนถึงอายุ 60 ปี มีกำลังซื้อสูงและมีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง

และยุทธศาสตร์นี้จะมีไฮไลต์สำคัญในปี 2569 ซึ่งโอเรียนท์สตาร์จะอาศัยจังหวะครบรอบ 75 ปีของแบรนด์ ผลิตนาฬิการุ่นพิเศษที่มาพร้อมจุดเด่นด้านเทคนิคการผลิตที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นทั้งในส่วนของหน้าปัดและตัวเครื่องจักรนาฬิกา ซึ่งเกิดจากการต่อยอดโนว์ฮาวของไซโกเอปสัน (Seiko Epson Corporation) นำมาใช้กับการผลิตนาฬิกา

จัดอีเวนต์ย้ำพรีเมี่ยม

สำหรับในปี 2568 นี้ จะเดินหน้ากลยุทธ์สร้างการรับรู้แบรนด์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นคือการจัดอีเวนต์เปิดตัวสินค้าใหม่ในแนวลักเซอรี่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อย้ำโพซิชั่นพรีเมี่ยมแมสของโอเรียนท์สตาร์ ที่แตกต่างจากโอเรียนท์ ตัวอย่างเช่น อีเวนต์เปิดตัวนาฬิกาใหม่ 3 รุ่น ในชื่องาน “Orient Star Luxury Urban and Nature” ซึ่งจัดในร้านอาหารดังอย่าง Riedel Wine Bar & Cellar ที่ห้าง Gaysorn Village ให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์

พร้อมกับย้ำความพิเศษและเอ็กซ์คลูซีฟของอีเวนต์ด้วยการนำนาฬิกาโอเรียนท์สตาร์รุ่นพิเศษ ซึ่งอยู่ในระดับ Top of the Line Class จากประเทศญี่ปุ่นมาให้ชมที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกก่อนประเทศอื่น ๆ ในโลก รวมถึงดึงตัว “โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์”ศิลปินนักร้องใหม่ค่าย LOVEiS มาร้องเพลงในงาน

ในขณะที่ตัวนาฬิการุ่นใหม่นั้น มาจากคอลเล็กชั่นคอนเทมโพรารี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Luxury Urban and Nature” ที่สะท้อนวิถีชีวิตลักเซอรี่ในเมืองกับความเป็นธรรมชาติ สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ โดยนาฬิกาที่นำมาเปิดตัวในครั้งนี้มี 3 รุ่น ประกอบด้วย Orient Star M34 Avant-garde F8 Skeleton ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงดีไซน์แนวหรูหราล้ำสมัยราคาเริ่มต้น 87,000 บาท, Orient Star Layered Skeleton มีจุดเด่นเป็นหน้าปัด ซ้อนทับกันสองชั้น ราคาเริ่มต้น 38,000 บาท และ Orient Star Contemporary Date ที่หน้าปัดใช้สีแบบเอิร์ทโทน ราคา 29,000 บาท

ทั้งนี้ Orient Star M34 Avant-garde F8 Skeleton จะมีรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น “Desert Luxury” จะผลิตแบบจำกัดจำนวน 300 เรือน และนำมาจำหน่ายในไทย 25 เรือน ราคาเรือนละ 89,000 บาทด้วย

“นาฬิกา Orient Star นั้น ทางประเทศญี่ปุ่นร่วมกับบริษัทสหกรุงทองมีการทำการตลาดสำหรับแบรนด์นี้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพในประเทศไทยที่สามารถเติบโตได้เพิ่มขึ้น”

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘โอเรียนท์ฯ’ ย้ำเมดอินเจแปน ชิงตลาดนาฬิกาพรีเมี่ยมแมส

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...