โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภาพยนตร์

[รีวิว] The Super Mario Bros. Movie: เด็กน้อย-เด็กหนวดมีกรี๊ด แต่ผู้กำกับยังอ่อนประสบการณ์ไปหน่อย

BT Beartai

อัพเดต 05 เม.ย. 2566 เวลา 11.19 น. • เผยแพร่ 05 เม.ย. 2566 เวลา 10.57 น.
[รีวิว] The Super Mario Bros. Movie: เด็กน้อย-เด็กหนวดมีกรี๊ด แต่ผู้กำกับยังอ่อนประสบการณ์ไปหน่อย

เรื่องย่อ: การผจญภัยในอาณาจักรเห็ดของมาริโอ ลุยจิ เจ้าหญิงพีช และผองเพื่อน เพื่อปกป้องอาณาจักรอันเป็นที่รักให้รอดพ้นจากวายร้าย เจ้าบาวเซอร์ ผ่านดินแดนที่แฟนเกมคุ้นเคย รวมถึงไอเทมจากเกมที่เราเคยเห็นเช่น ดอกไม้ไฟ ดาว ชุดแปลงร่าง หรือแม้แต่กระทั่งมาริโอคาร์ท ก็ถูกนำมาไว้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

สนับสนุนโดย Major Cineplex
สนับสนุนโดย Major Cineplex

ถือว่าเป็นคู่สร้างคู่สม-คู่เวรคู่กรรมโดยแท้สำหรับค่ายเกมอย่าง Nintendo เจ้าของลิขสิทธิ์เกม ‘Mario Bros.’ และค่ายหนัง Universal Studios ผู้สร้างหนังระดับตำนานของฮอลลีวูด ที่เริ่มต้นกันไม่ค่อยสวยเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการบันเทิงเมื่อปี 1983

เมื่อทางยูนิเวอร์แซลฟ้องร้องลิขสิทธิ์ตัวละครลิงยักษ์ในเกม ‘Donkey Kong’ (1981) ว่าลอก คิงคอง ตัวละครดังในหนังคลาสสิกตัวเอง ซึ่งตอนนั้นนินเทนโดเพิ่งมาทำตลาดตะวันตกเป็นบริษัทต่างชาติตัวจ้อยที่ถ้าแพ้ยักษ์ใหญ่คือคงต้องม้วนเสื่อกลับประเทศไปเลย

The Super Mario Bros. Movie
The Super Mario Bros. Movie

และผลคือนินเทนโดเป็นฝ่ายชนะคดี และส่งผลให้บริษัทญี่ปุ่นหน้าใหม่ได้แจ้งเกิดในอเมริกาทำธุรกิจยาวนานมาจนกลายเป็นยักษ์ใหญ่วงการบันเทิงหนึ่งในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังทำให้ทนายความที่ช่วยนินเทนโดชนะคดีอย่าง จอห์น เคอร์บี (John Kerby) ได้มีตัวละครและเกมของตัวเองอย่าง Kirby ด้วย

และผลพวงอีกอย่างคือทำให้ตัวละคร Jump Man ในเกม ดองกี้คอง ภาคแรกได้กลายมาเป็นตัวเอกชื่อ มาริโอ ตามชื่อของผู้สนับสนุนคนสำคัญของค่ายเกมอย่าง มาริโอ ซีเกล (Mario Segale ) ในเกม ‘Donkey Kong Jr.’ (1982) จนมีซีรีส์ของตัวเองอีกยาวไกล

ซึ่งความบาดหมางของสองบริษัทนั้นก็จบไปนานแล้วเมื่อยูนิเวอร์แซลทำหนังที่เอาเกมมาริโอมาใช้ใน ‘The Wizard’ (1989) จะเห็นว่าในแง่หนึ่งยูนิเวอร์แซลก็มีผลทางอ้อมให้กำเนิดนินเทนโดในอเมริกาและมีมาริโอที่ยิ่งใหญ่ตามมาในปัจจุบัน และนี่ก็เป็นการกลับมาทำงานร่วมกันอีกรอบในช่วง 30 กว่าปี

The Super Mario Bros. Movie
The Super Mario Bros. Movie

เป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งเพราะยูนิเวอร์แซลก็กำลังอยู่มือกับค่าย Illumination ที่ผลิตหนังซีจีแอนิเมชันชั้นดีหลายเรื่องอย่าง ‘Despicable Me’ (2010), ‘Minions’ (2015) และ ‘The Secret Life of Pets’ (2016) และมีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมร่วมกับนินเทนโดในการทำธีมพาร์ก Super Nintendo World ด้วย

ความน่าเสียดายเพียงอย่างเดียวสำหรับโปรเจกต์หนังที่มีศักยภาพยิ่งใหญ่เรื่องนี้คือ ทางยูนิเวอร์แซลเลือกใช้ แอรอน ฮอร์วาธ (Aaron Horvath) และ ไมเคิล เยเลนิก (Michael Jelenic) ที่เป็นผู้กำกับใหม่ถอดด้ามมาทำหน้าที่สำคัญนี้

และเอามือเขียนบท แมตธิว โฟเกล (Matthew Fogel) ที่เคยเขียนบทหนังคำวิจารณ์กลาง ๆ อย่าง ‘The Lego Movie 2: The Second Part’ (2019) และ ‘Minions: The Rise of Gru’ (2022) มาเขียนบท ทำให้พอมองเห็นว่าค่ายน่าจะลุยให้หนังเน้นบันเทิงและจับกลุ่มเด็กน้อยเป็นหลักไปเลย

ซึ่งว่ากันตามตรงหนังก็ให้ความบันเทิงในระดับที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับคอเกมหรือคอแอนิเมชัน และมีลูกเล่นในการเล่าที่ดี โดยเล่าเรื่องของสองพี่น้องมาริโอกับลุยจิที่ถูกมองว่าเป็นลูกที่ไม่เอาไหน แต่ทั้งสองคนก็เชื่อว่าถ้ารวมพลังกันสองพี่น้องก็ต้องผ่านทุกอุปสรรคคำถากถางทั้งหลายไปได้ แต่แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็หลุดเข้าไปในอาณาจักรแฟนตาซีที่วายร้ายบาวเซอร์กำลังทำลายอาณาจักรต่าง ๆ เพื่อครองโลกและเอาชนะใจเจ้าหญิงพีชแห่งอาณาจักรเห็ดไปพร้อมกัน

The Super Mario Bros. Movie
The Super Mario Bros. Movie

หนังมีการใช้ความสัมพันธ์พี่น้องที่น่าสนใจเป็นตัวตั้งต้น มาริโอพยายามพิสูจน์ตัวเองและให้กำลังใจน้องชาย ขณะที่ลุยจิก็เชื่อมั่นในพี่ชายโดยไม่ปริปากบ่นอยู่เสมอ และเมื่อหลุดไปโลกแฟนตาซีหนังก็ใช้จุดนี้ในการนำพาตัวละครมาริโอมีแรงจูงใจเพื่อไปช่วยน้องชายที่ถูกจับไปด้วยเช่นกัน

ทว่าแม้หนังจะมีซีจีที่งดงามราวกับทำให้ตัวละครในเกมมีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ มีลูกเล่น ฉากหลัง กิมมิก และตัวละครมหาศาลให้ใช้ แถมเนื้อเรื่องก็เรียกว่าตามสูตรเอาท่าง่ายชนิดที่เปิดมาดูช่วงไหนก็เข้าใจเรื่องได้เลย แต่ด้วยความอ่อนประสบการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เก็บไม่ละเอียดของผู้กำกับก็ทำให้หนังไม่สามารถทำให้เราอินไปได้มากพอ

หลายตัวละครขาดมิติหรือที่มาที่ไปของแรงจูงใจไปอย่างน่าเสียดาย เช่นเจ้าหญิงพีชมีมุมที่เธอสามารถแสดงความอ่อนแอและต้องฝืนเข้มแข็งเพื่อปกป้องพวกเห็ด รวมถึงความขัดแย้งในใจที่เธอเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวในอาณาจักรเห็ด แต่หนังก็พลาดที่จะใส่ฉากความลังเลหรือหยุดคิดไปแบบน่าเสียดาย มันเลยเห็นแต่เจ้าหญิงพีชที่ห้าวหาญแข็งกระด้างและทำอะไรไปแบบถูกบทบัญชาอย่างน่าเสียดาย เช่นเดียวกับบาวเซอร์ที่เราก็ไม่ได้เห็นว่าทำไมตัวละครนี้ถึงฝังใจในเจ้าหญิงพีชขนาดนั้น ถ้าใส่ฉากในอดีตว่าทั้งคู่เคยเจอกันตอนเด็กหรืออะไรไปก็อาจทำให้เรื่องมีมิติมากกว่านี้

หรืออย่างเจ้าเห็ดโท้ดถ้าอยู่ในมือผู้กำกับที่เล่นเป็น นี่จะเป็นคาแรกเตอร์น้อนที่ยิงมุกกระจายและขโมยซีนได้ตลอดเรื่องแน่นอน แต่ในเรื่องนี้ก็เป็นได้แค่ตัวละครประกอบฉากเสียอย่างนั้น เช่นเดียวกันกับอีกหลายตัวละครที่คงมีฉากโชว์มิติลึก ๆ หรือได้ซีนเฉิดฉายของตัวเองชัวร์ น่าเสียดายมาก

The Super Mario Bros. Movie
The Super Mario Bros. Movie

การให้เสียงพากย์ของ คริส แพรตต์ (Chris Pratt) ในบทมาริโอ และ แจ็ก แบล็ก (Jack Black) ในบทบาวเซอร์ รวมถึง เซ็ธ โรเกน (Seth Rogen) ในบทดองกี้คอง ถือว่าเป็นกลุ่มดาราที่เคยให้เสียงพากย์แอนิเมชันมาหลายเรื่องแล้วก็ทำหน้าที่ได้ดี หนังยังเลือกใช้นักแสดงที่เคยผ่านงานพากย์มาเป็นหลักในบทตัวละครอื่น ๆ ด้วย ถือว่าไม่น่าเป็นห่วงในเรื่องคุณภาพเลย แถมสำหรับคอเกมเรายังได้ยินเสียง ชาร์ลส์ มาร์ทิเนต (Charles Martinet) ที่ให้เสียงมาริโอต้นฉบับจากเกมมารับบทพ่อของมาริโอในเรื่องด้วย ก็ถือเป็นการให้เกียรติต้นฉบับอย่างมาก

ขณะที่ อันยา เทย์เลอร์-จอย (Anya Taylor-Joy) ในบทเจ้าหญิงพีช ที่เธอยังมีเผลงานพากย์มาเพียงเรื่องเดียวนั้นก็ต้องบอกว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน แต่น่าเสียดายที่บทหนังไม่ได้ส่งให้เธอได้ใช้ฝีมือดึงมุมลึก ๆ ของตัวละครออกมามากนัก

นอกจากนั้นแล้วหนังก็ถือว่าทำได้สนุกมีครบทุกอย่างในความเป็นนินเทนโด แถมฉากโชว์มุมมองแบบเกมแพลตฟอร์มด้านข้างช่วงต้นของหนังยังทำให้เราเห็นภาพเลยว่าถ้าเกมมาริโออยู่ในเครื่องเล่นเน็กซ์เจนมันจะหรูหราได้อีกขนาดไหน เป็นหนังที่คอเกมและเด็กหนวดน่าจะชื่นชอบ ส่วนคอหนังแอนิเมชันทั่วไปน่าจะเพลิดเพลินแต่รู้สึกไม่สุดนัก

The Super Mario Bros. Movie
The Super Mario Bros. Movie

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

The Super Mario Bros. Movie
The Super Mario Bros. Movie

The Super Mario Bros. Movie บท 4 โปรดักชัน 8 การพากย์ 5.5 ความสนุกตามแนวหนัง 5.5 ความคุ้มค่าการรับชม 6 จุดเด่น งานภาพซีจี งานแอนิเมต งานดีไซน์ทำได้ยอดเยี่ยมดึงความเป็นมาริโอออกมาได้ดีมาก มีเสน่ห์ชวนมองและชวนหลงรักตัวละคร ใช้นักพากย์มืออาชีพ จุดสังเกต บทธรรมดาตามสูตรมากไป มุกตลกน้อยขาดความบันเทิงในแบบหนังเด็ก ในขณะจะมองเป็นหนังเด็กหนวดก็ขาดมิติตัวละครเชิงลึก พร่องในการเล่ารายละเอียดที่ควรมีเสริมอย่างน่าเสียดาย 5.5

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...