อุ้ม ลักขณา เผยเหตุไม่เสียบแทน เป้ย ปานวาด ชี้บทเลิฟซีนไม่เหมาะสมกับวัย ห่วงความรู้สึกลูกเป็นหลัก
อุ้ม ลักขณา เผยเหตุไม่เสียบแทน เป้ย ปานวาด ชี้บทเลิฟซีนไม่เหมาะสมกับวัย ห่วงความรู้สึกลูกเป็นหลัก เขาโตพอรู้เรื่องทุกอย่าง
วันที่ 9 ธ.ค.อุ้ม ลักขณา ได้มาร่วมงาน "Grand opening The Klinique Hair Center ณ Siam Square One ชั้น 3 จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงดราม่าถูกโยงว่าเสียบแทน เป้ย ปานวาด ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวอีกที รวมถึงเหตุผลที่เจ้าตัวเลือกปฏิเสธบทเลิฟซีน พร้อมอัพเดตชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ตอนนี้โฟกัสที่ลูก ธุรกิจ และความสุขในแบบของตัวเอง
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเราได้เสียบแทน เป้ย ปานวาด แล้วต่อมาก็เป็นคนอื่นแทน เหตุผลที่มีการเปลี่ยนตัวเกิดจากอะไร?
“ได้รับการทาบทามจริง ตอนนั้นได้มีการพูดคุยถึงเรื่องบท เป็นการพูดคุยแค่ปากเปล่า แล้วอุ้มรู้สึกไม่สบายใจที่จะรับ เพราะเรายังไม่ได้ศึกษาบท ไม่ได้รู้เหตุที่มาที่ไปทำไมถึงต้องมีเลิฟซีน ตอนนั้นไม่ได้รับบทมา มีแค่การโทรมาเล่าให้ฟัง ให้อุ้มให้คำตอบเดี๋ยวนั้นเลย ซึ่งเราไม่สามารถรับได้ทันทีทันใด เลยได้ปรึกษากับพี่ผู้จัดการให้เล่าฉากเลิฟซีนให้เราฟัง ตอนนี้เรา 42 แล้ว มาทางสายมูแล้วด้วย เราเองก็ไม่ค่อยได้ถ่ายเซ็กซี่ แต่ก็ต้องขอบคุณที่นึกถึงอุ้ม แต่ตัวเราเองด้วยวัยอาจจะไม่เหมาะแล้ว ด้วยความที่มีลูกเราด้วย ผลงานเก่าๆ เราเล่าให้เขาฟังได้ แต่ตอนนี้มันอยู่ในวัยที่เขารู้เรื่องหมดแล้ว เราก็คงไม่สบายใจที่จะไปรับฉากที่มีเลิฟซีนหวือหวามาก“
การที่เราปฏิเสธไปไม่ได้มีการไม่เข้าใจกันใช่ไหม?
“ตัวอุ้มไม่มีปัญหาค่ะ แต่ถ้าใครจะไม่โอเคที่เราไม่รับมันก็เป็นสิทธิ์ที่เขาจะไม่พอใจก็ได้ ทุกอย่างเป็นการเร่งรีบ มันอาจไม่แฟร์สำหรับตัวอุ้มเอง คุยกันตั้งแต่เริ่มก่อนดีกว่า ก่อนที่จะทำงานแล้วมีปัญหาภายหลัง“
ได้ถามบทพี่เป้ยคร่าวๆ ก่อนไหม?
“ได้คุยกันค่ะ ก่อนหน้าไม่ได้ถาม ถามตอนปฏิเสธไปแล้ว เลยได้มีการคุยกันว่าเรื่องมันเป็นยังไง (สาเหตุเดียวกันกับพี่เป้ยไหม?) เราเป็นนักแสดงที่อยู่ในวงการมานาน มีความเป็นมืออาชีพ อะไรที่มีการพูดคุยตกลงกันมันสามารถทำได้ถ้าเราแฮปปี้ แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าไปเป็นตัวแทนโดนเสียบ เราก็เป็นเพื่อนกันรู้จักกัน เราว่าให้เขาหาคนที่เหมาะสมที่จะเล่นบนนี้ดีกว่า”
เสียดายโอกาสไหม?
“เสียดายโอกาสทุกครั้งที่มีเข้ามานะคะ ตอนนี้ก็มีติดต่อเข้ามา ไม่ได้เรื่องมาก แต่ด้วยความที่อุ้มเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มันต้องใช้เวลาอยู่กับลูกเยอะ อุ้มขับรถไปรับส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน ต้องเข้าร้าน เราเปิดคาเฟ่ด้วย เราทำธุรกิจส่วนตัว ถ้าต้องไปทำงานในวงการที่เต็มตัว กลัวสร้างปัญหาให้เขา เรารู้ว่าเราไม่ได้มีเวลามากพอที่จะไปทำตรงนั้น แต่ยังอยากเล่นยังคิดถึงงานละคร ถ้ามีเวลาที่เหมาะสมที่ปลีกตัวไปได้ก็ยังสนใจ ไม่อยากให้ลูกเสียใจ เพราะลูกติดเรามาก ตอนนี้เขาแค่ 6 ขวบ รอเขา 10 ขวบก่อน แต่ตอนนั้นเราอาจจะแก่มากแล้ว ไม่น่ามีคนจ้าง(หัวเราะ) แต่เรายังมีงานพรีเซนเตอร์ ดูแลตัวเองให้สวย แล้วก็มีเทวาลัยที่เราอยากจะทำด้วย”
สำหรับเราตัวนักแสดงคิดว่าฉากเลิฟซีนมันจำเป็นต้องมีใช่ไหมในซีรีส์หรือละครเรื่องหนึ่ง?
“มันก็ต้องรู้เรื่องด้วยว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ในการมีฉากเลิฟซีน แต่การที่จะสื่อออกไปในโซเชียลสมัยนี้ มันต้องมีความหลากหลาย สมัยนี้มันไปไกลแล้ว เอาตามความไหวของแต่ละคนดีกว่าว่าไหวที่จุดไหน”
บทเซ็กซี่ของเราที่ผ่านมาลูกรู้ไหม?
“เขายังไม่ได้รับรู้นะคะ ยังไม่เคยเห็นฉากเลิฟซีนที่เราเคยเล่น แต่เห็นเราใส่ชุดว่ายน้ำ ใส่ชุดเซ็กซี่ เขาจะชมว่าสวย เขายังไม่ได้เห็นบทที่เราไปเล่น ถ้าโตขึ้นเราก็จะคุยกับเขานะคะ ว่ามันเป็นเรื่องของการแสดง ปัจจุบันเราอยู่กับลูกก็มิดชิดด้วยซ้ำ(กลัวไหมหลังจากนี้น้องจะเห็น?) ไม่ได้กลัวนะคะ ตั้งแต่ทำงานวงการมาแรกๆ อยู่ในสายตาของพ่อแม่มาตลอด เขารู้ว่าเป็นการแสดง เราก็คิดอยู่แล้วว่าเราจะมีครอบครัว เรามีลิมิตอยู่แล้ว สามารถอธิบายบอกลูกได้ วันนึงโตขึ้นเขาอาจจะเป็นนักแสดงแบบเราก็ได้ ตอนนี้เขาฉายแววความเป็นดารามาก เราพร้อมสนับสนุน แต่เราต้องคุยกัน ไม่ให้เขาไปแอบทำ เริ่มมีเดินแบบ ใส่เอวลอย”
แปลว่าเชื้อแม่แรง?
“เชื้อแม่แรงอยู่นะ ชอบไง เป็นดาราเป็นนักร้อง(ถ้าลูกมาสายเซ็กซี่เราโอเคไหม?) เราโอเคนะคะ แต่ต้องอยู่ในลิมิตที่น่ารักเหมาะสมกับวัย ค่อยๆ เป็นไปตามวัยดีกว่า”
ควบคุมสื่อกับเด็กยังไง?
“นั่งดูกับเขาค่ะ ใช้เวลาดูกับเขา เขาไม่ดูการ์ตูน ดูอะไรที่เป็นยูทูบเบอร์แบบเด็กโต เราต้องคอยบอกเขาว่าการแสดงนะ ต้องบอกว่าการมีลูกไม่ใช่แค่เลี้ยงไปวันๆ มันต้องเลี้ยงด้วยหัวใจจริงๆ ที่จะให้เด็กคนหนึ่งอบอุ่นและมีความสุข ไม่อยากให้เขารู้สึกขาด เพราะตอนนี้เขานอยด์มากว่าทำไมมันพ่อวันแม่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทำไมต่างประเทศไม่เคยไปเที่ยวแบบครอบครัวเลย เวลาลูกถามเราก็มีน้ำตาตกเหมือนกันนะ อุ้มพยายามไม่ให้เขาขาด ถึงแม้ว่าเราจะพลาดโอกาสการทำงานหลายอย่างในชีวิต แต่ที่ไม่อยากพลาดเลยก็คือลูก กลัวว่าวันนึงถ้าเขาไม่แข็งแรงพอ ถ้าเขาไปเจออะไรที่กระทบจิตใจเขาเขาอาจจะไปจุดนั้นเลยก็ได้”
บอกเขาเรื่องแยกทางกับพ่อเขายังไง?
“เคยบอกเขาตั้งแต่แรกว่าเราบ้านพัง โตขึ้นเขารู้แล้วว่าบ้านพังที่เราบอกคือพ่อกับแม่เลิกกัน ไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม เขาค่อยๆ รับได้ เราค่อยๆ ให้เขาซึมซับเข้าไป เราแบ่งกันเลี้ยงลูก ถ้าเราต้องไปทำงานต่างจังหวัด หรือมีทริปไปต่างประเทศ ให้พ่อเขามาอยู่กับลูกที่กรุงเทพฯ เขาไม่ได้มีปัญหา บอกดีจังที่มีบ้านสองที่ เป็นคนเชียงใหม่ด้วย เป็นคนกรุงเทพฯ ด้วย เราพยายามใส่ในสิ่งที่มีความเป็นจริงด้วย ต้องพูดความจริงกับลูก เด็กสมัยนี้ฉลาดมาก”
ต่อจากนี้อุ้มเวอร์ชั่นเซ็กซี่จะไม่เห็นแล้วใช่ไหม?
“ก็อาจจะน้อยลงค่ะ แต่นานๆ ทีอาจจะมีบ้างให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ เรารู้สึกว่าเราดูแลตัวเองมาดีขนาดนี้ ก็ต้องมีโชว์กันบ้าง”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อุ้ม ลักขณา เผยเหตุไม่เสียบแทน เป้ย ปานวาด ชี้บทเลิฟซีนไม่เหมาะสมกับวัย ห่วงความรู้สึกลูกเป็นหลัก
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th