เดือดหลายจุด! กองทัพภาค 2 แถลงล่าสุด สถานการณ์ตึงเครียดหนักมาก
วันที่ 8 ธันวาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 ดำเนินมาตรการตอบโต้หลังตรวจพบการปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของไทย รวมถึงความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดน จากข้อมูลทางยุทธการระบุว่าฝ่ายกัมพูชามีการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์หนัก การจัดกำลังรบ และการเตรียมการยิงสนับสนุน ซึ่งมีลักษณะเสี่ยงต่อเสถียรภาพและความปลอดภัยของชุมชนชายแดน ทำให้กองทัพต้องดำเนินการทางทหารเพื่อยับยั้งและทำลายขีดความสามารถทางการรบของฝ่ายกัมพูชาในระดับที่จำเป็นต่อการรักษาความมั่นคงของรัฐ
ปฏิบัติการสำคัญที่ดำเนินการ ได้แก่
1.การยิงทำลายตึกร้างซึ่งเป็นจุดปฏิบัติการของเครือข่ายสแกมเมอร์ บริเวณช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
2.การยิงทำลายเสา Anti Drone ในพื้นที่พระวิหารและห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
3.การกวาดล้างสวนมะม่วงหิมพานต์ที่รุกล้ำเส้นปฏิบัติการในพื้นที่ช่องระยี ทางด้านตะวันออกของช่องจอม
4.การเข้าควบคุมพื้นที่ปราสาทคนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
5.การยิงทำลายกระเช้าลำเลียงเสบียงบริเวณเนิน 350 ปราสาทตาควาย
มีการประเมินว่าในช่วงกลางคืนฝ่ายกัมพูชาอาจใช้อาวุธจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) ยิงไปยังพื้นที่เดิมที่ถูกโจมตี เพื่อสร้างความสับสนในสนามรบและส่งผลต่อความปลอดภัยของประชาชน
กองทัพภาคที่ 2 ระบุว่าการปฏิบัติทั้งหมดดำเนินไปอย่างระมัดระวังตามหลักสากลของการป้องกันตนเอง (Right of Self-Defence) ตามกฎบัตรสหประชาชาติ โดยยึดหลักความจำเป็นและความได้สัดส่วน (Necessity Proportionality) อย่างเข้มงวด พร้อมกำหนดเป้าหมายเฉพาะต่อโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร คลังอาวุธ ศูนย์บัญชาการ และเส้นทางสนับสนุนการรบที่คุกคามความมั่นคงของไทย
กองทัพภาคที่ 2 ย้ำถึงความสำคัญของการคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นต่อภัยคุกคามที่กระทบต่อเอกราชอธิปไตย พร้อมยืนยันว่าเป้าหมายสูงสุดคือการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค และป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามรุนแรงไปมากกว่านี้