โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ศึก AI เดือด! ยักษ์เทคแห่ปักธง Data Center อินเดีย ‘Microsoft’ เทอีก 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ ไล่บี้ Amazon-Google

THE STANDARD

อัพเดต 50 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 50 นาทีที่แล้ว • thestandard.co
ศึก AI เดือด! ยักษ์เทคแห่ปักธง Data Center อินเดีย ‘Microsoft’ เทอีก 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ ไล่บี้ Amazon-Google

ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ Microsoft, Amazon และ Google รวมถึงทุนยักษ์อีกหลายประเทศต่างหลั่งไหลเข้าไปลงทุนตลาด Data center อินเดีย ต่อเนื่อง ชี้นโยบายแข็งแกร่ง ต้นทุนต่ำ เทคโนโลยี AI ในประเทศเติบโตสูง

ล่าสุด Microsoft เตรียมลงทุน 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ ในอินเดีย ระยะ 4 ปีข้างหน้า ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของ Microsoft ในเอเชีย

Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft กล่าวในโพสต์บน X หลังจากเข้าพบนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ของอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ว่าเงินทุนนี้จะถูกนำไปใช้เพิ่มเติมจากเงินลงทุน 3 พันล้านดอลลาร์ ที่ Microsoft ประกาศไปเมื่อเดือนมกราคม

“การลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทักษะ และศักยภาพอธิปไตยที่จำเป็นสำหรับอนาคตที่ให้ความสำคัญกับ AI ของอินเดีย” Nadella กล่าว

ด้าน โมดี โพสต์บน X เกี่ยวกับการลงทุนของ Microsoft เช่นเดียวกันว่า “เยาวชนของอินเดียจะใช้โอกาสนี้ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและใช้พลังของ AI เพื่อโลกที่ดีขึ้น”

Microsoft กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เงินทุนจะถูกนำไปใช้เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงวัตถุประสงค์อื่นๆ โดย Data center คลาวด์ในภาคกลางตอนใต้ของอินเดีย เมืองไฮเดอราบัดจะเปิดใช้งานในช่วงกลางปี 2026 บริษัทจะขยาย Data center 3 แห่งที่ใช้งานอยู่แล้ว ที่เมืองเจนไนและไฮเดอราบัดทางตอนใต้ของอินเดีย และปูเนทางตะวันตก

ทั้งนี้ การประกาศของ Microsoft เกิดขึ้นเพียง 2 เดือน หลังจากที่คู่แข่งอย่าง Google ประกาศการลงทุน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในอินเดียเป็นเวลา 5 ปี จนถึงปี 2030 โดยจะพัฒนาศูนย์กลาง AI ในเมืองวิศาขาปัฏฏนัม ทางตอนใต้ ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของ Data center แหล่งพลังงาน และเครือข่ายใยแก้วนำแสง ส่วนในปี 2023 Amazon Web Services ประกาศการลงทุน 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์

3 ประเทศ อินเดีย เนปาล และภูฏาน ใช้ดาต้าสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 71%

ขณะนี้ ‘อินเดีย’ กลายเป็นจุดสนใจของการลงทุน อุตสาหกรรม Data center เนื่องจากประชากรที่เชี่ยวชาญด้านอินเทอร์เน็ตและได้รับประโยชน์จากโทรศัพท์มือถือราคาถูก ข้อมูลจำนวนมหาศาลและบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากที่เข้ามาตั้งสำนักงานเพื่อใช้ประโยชน์จากแหล่งบุคลากรที่มีความสามารถ

บริษัทเทคโนโลยี Ericsson กล่าวว่า สมาร์ทโฟนที่ใช้งานอยู่ในภูมิภาค อย่าง อินเดีย เนปาล และภูฏาน ใช้ดาต้าโดยเฉลี่ยประมาณ 36 กิกะไบต์ต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าในอเมริกาเหนือ 44% และสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก 71% และการแพร่หลายของ AI ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญให้กับตลาด Data center อินเดีย

บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ CBRE มองว่า ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตพื้นฐานของตลาด Data center อินเดีย มาจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็ว การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต การประมวลผลแบบคลาวด์ ข้อมูลขนาดใหญ่ และอินเทอร์เน็ตของสิ่งต่างๆ (IoT) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนโยบายและการลงทุนของรัฐบาลนั้นจะยังคงแข็งแกร่งต่อไป

“ด้วยกำลังการผลิต Data center อินเดียเติบโตขึ้นมากกว่า 150% ตั้งแต่ปี 2021 เป็น 1.5 กิกะวัตต์”

จากข้อมูลการประเมินของ CBRE ระบุอีกว่า “ต้นทุนการสร้าง Data center ในอินเดียต่ำกว่าในญี่ปุ่น สิงคโปร์ จีน มาเลเซีย” ทำให้กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศ เช่น Reliance Industries, Tata Group และ Adani Group ก็ได้เข้ามาร่วมลงทุนด้วยเช่นกัน

รวมถึง Digital Connexion ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Reliance, Brookfield บริษัทข้ามชาติจากแคนาดา และ Digital Realty

บริษัทลงทุนจากสหรัฐอเมริกา จะลงทุน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในปี 2030 เพื่อสร้าง Data center AI ขนาด 1 กิกะวัตต์ และ Tata Consultancy Services บริษัทส่งออกซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย ได้รับเงินทุน 1 พันล้านดอลลาร์ จาก TPG มีแผนสร้าง Data center เช่นกัน

ภาพ: Justin Sullivan/Getty Images

อ้างอิง:

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...