โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สกัดนำเข้ามันฯจากกัมพูชา ปกป้องเกษตรกรไทยรักษาเสถียรภาพราคา

The Better

อัพเดต 21 มิ.ย. เวลา 02.00 น. • เผยแพร่ 21 มิ.ย. เวลา 01.52 น. • THE BETTER
'พิชัย' สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศกัมพูชา เพื่อป้องกันสินค้าคุณภาพต่ำทะลักเข้าสู่ตลาดในประเทศ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้ามันสำปะหลัง เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้าสินค้ามันสำปะหลังทางชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันสินค้าคุณภาพต่ำทะลักเข้าสู่ตลาดในประเทศ อันอาจส่งผลกระทบต่อราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรไทยได้รับอยู่ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดมาตรการควบคุมการนำเข้ามันสำปะหลัง โดยกำหนดจุดที่อนุญาตให้นำมันสำปะหลังเข้ามาจากกัมพูชาได้จำนวน 5 จังหวัด 6 ด่าน ได้แก่ 1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี 2.จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน และจุดผ่อนปรนบ้านตาพระยา จ.สระแก้ว
3.ด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด 4.ด่านศุลกากรช่องจอม จ.สุรินทร์ 5.ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ

นอกจากนี้กำหนดให้ผู้นำเข้าต้องขึ้นทะเบียน แจ้งข้อมูลการนำเข้าล่วงหน้า และมีสถานที่จัดเก็บแยกจากมันสำปะหลังที่รับซื้อในประเทศ พร้อมรายงานข้อมูลต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

"ตนยังได้สั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศลงพื้นที่ทั้ง 6 ด่าน เพื่อสุ่มตรวจมาตรฐานมันเส้นที่นำเข้า หากพบว่าไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด จะดำเนินการพักใช้ทะเบียนนำเข้าในทันที จนกว่าจะปรับปรุงคุณภาพให้ได้มาตรฐาน"

อย่างไรก็ตามกรมการค้าภายในยังมีมาตรการควบคุมการขนย้ายมันสำปะหลังสดและมันเส้น โดยห้ามขนย้ายสินค้าดังกล่าวในปริมาณตั้งแต่ 10,000 กิโลกรัมขึ้นไป เข้าหรือออกจากพื้นที่ควบคุม 60 อำเภอใน 16 จังหวัด เว้นแต่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายพิชัย กล่าวว่า แม้ขณะนี้จะเข้าสู่ช่วงปลายฤดูการผลิตมันสำปะหลังทั้งในไทยและกัมพูชา แต่กระทรวงพาณิชย์ยังคงยืนยันว่าจะเข้มงวดกำกับดูแลการนำเข้าต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้กระทบกับราคาผลผลิตของเกษตรกรไทย พร้อมยกระดับคุณภาพมาตรฐานมันสำปะหลังไทยให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดโลก

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...