ออนิกซ์ฯ เตรียมขาย 4 โรงแรม เข้ากองทรัสต์ 6.5 พันล. รองรับลงทุนใหม่อีก 4 โครงการ
ออนิกซ์ฯ เตรียมขาย 4 โรงแรม เข้ากองทรัสต์ 6.5 พันล้านบาท เพื่อรองรับแผนการลงทุนใหม่อีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 5 พันล้านบาท โดยวางเป้าหมายภายในปี 2572 จะมีโรงแรมภายใต้การบริหารเพิ่มเป็น 70 แห่ง
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป" เป็นบริษัทบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และเรสซิเดนซ์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีแบรนด์ภายใต้การดูแล ได้แก่ อมารี (Amari), โอโซ่ (OZO), ชามา (Shama) และโอเรียนเดีล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence)
โดยแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของนักเดินทาง ทั้งกลุ่มที่มาทำธุรกิจ และกลุ่มพักผ่อน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 42 แห่ง รวมกว่า 7,700 ห้อง ทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย จีน ฮ่องกง บังกลาเทศ ศรีลังกา และ สปป.ลาว
"3 ปีที่ผ่านมา ตลาดท่องเที่ยวฟื้นกลับมา โดยโรงแรมในกลุ่มออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จับตลาดลูกค้าหลากหลาย ไม่พึ่งพิงจีนตลาดเดียว ทำให้สามารถรักษาอัตราลูกค้าเข้าพักได้ดี และยังสามารถทำราคาห้องพักได้ดีด้วย"
ทั้งนี้ตามแผนภายในปี 2568 จะเปิดให้บริการเพิ่มเป็น 50 แห่ง และภายในปี 2572 จะเพิ่มเป็น 70 แห่ง ทั้งนี้ยังคงมุ่งเน้นในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมองถึงการบริหารจัดการได้ทั่วถึงกว่า โดยเฉพาะการขยายงานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีขนาดใหญ่ และมีศักยภาพทั้งกระแสการเข้าไปลงทุนของกลุ่มธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์
รวมถึงกระแสการลงทุนด้านธุรกิจดูแลสุขภาพ (เวลเนส) และ การเป็นศูนย์บริการทางการแพทย์ (เมดิคัล ฮับ) ซึ่งล่าสุดบริษัทได้มีการร่วมทุนกับ อีเควทอเรียล กรุ๊ป (อีคิว) กลุ่มธุรกิจโรงแรมจากประเทศมาเลเซีย โดยบริษัทถือหุ้น 51% เพื่อร่วมพัฒนาโรงแรมอีคิว ภูเก็ต คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2571 และในอนาคตมีแผนจะขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรมต่อเนื่องในประเทศมาเลเซีย อีกด้วย
นายยุทธชัย กล่าวด้วยว่าในปี 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ดีของออนิกซ์ ซอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ส่งผลให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมในกลุ่มออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
โดยเฉพาะแบรนด์ อมารี และ โอโซ่ มีอัตราการเข้าพักที่โดดเด่น ทำให้บริษัทมีรายได้กว่า 8,700 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานรวม กว่า 3,400 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้คาดว่าเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9,000 ล้านบาท
“ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาตัวเลขอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวค่อนข้างดี ขณะที่ไตรมาส 2 ชะลอตัวตามฤดูกาลท่องเที่ยว ส่วนไตรมาส 3 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวอินเดียและตะวันออกกลางเข้ามาช่วย“
นายยุทธชัย กล่าวและว่าสำหรับความเห็นส่วนตัว ประเมินว่าในปี 2569 นักท่องเที่ยวจีนน่าจะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยแบบรุนแรง หลังจากหายไป 2 ปี ทั้งนี้จะเริ่มจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นองค์กรก่อน ส่วนกลุ่มพักผ่อนจะกลับมาปีหน้า และจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบ FIT หรือนักท่องเที่ยวอิสระ ที่เดินทางและวางแผนเที่ยวด้วยตัวเอง โดยเป็นไปได้ที่จะตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนจะแตะ 5 ล้านคน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มรายได้ปานกลาง
ขณะเดียวกันจากแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ชะลอตัวมาต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดผู้ประกอบเริ่มอยากเปลี่ยนจากขายห้องชุดพักอาศัย มาเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ เพื่อให้เช่าระยะยาว และในอนาคตหากสภาพตลาดเอื้ออำนวย ก็มองว่าอาจจะเปลี่ยนมาเป็นขายก็ได้ หากเจ้าของอยากออกจากธุรกิจ ซึ่งบริษัทก็มีการทำแผนธุรกิจให้
โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจ โดยเฉพาะที่อยู่ระหว่างการเจรจาเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
ขณะเดียวกันในส่วนของการแผนลงทุนของบริษัทในระยะ 3 ปีจากนี้ บริษัทเตรียมจะพัฒนาโรงแรม 4 แห่ง มูลค่าการลงทุนรวม 5,000 ล้านบาท อาทิ โอโซ่ พัทยา โอโซ่กรุงเทพฯ และ อีคิว ภูเก็ต ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนเป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อรองรับแผนการลงทุนดังกล่าว ล่าสุดบริษัทเตรียมจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อลงทุนในโรงแรมที่ศักยภาพของออนิกซ์ ฮอสพิทาลีตี้ กรุ๊ป รวม 4 แห่ง มูลค่าประมาณ 6,500 ล้านบาท และเตรียมเสนอขายในไตรมาส 4 หรือราวเดือนต.ค.ปีนี้
ประกอบด้วยโรงแรมอมารี กรุงเทพ ตั้งอยู่ใกล้ในย่านธุรกิจและท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯ และใน 3-4 ปี จากนี้จะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเพิ่มศักยภาพของโครงการมากยิ่งขึ้น โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา 82% โรงแรมอมารี พัทยา และ โรงแรมโอโซ่ พัทยา ซึ่งทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่ใจกลางพัทยาเหนือ ใกล้ร้านอาหารและศูนย์การค้า ทำให้ได้รับความนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา 80% และ 89% ตามลำดับ
ส่วนอีกแห่ง เป็นโรงแรมโอโซ่ ภูเก็ต ใกล้หาดกะตะ 150 เมตร ห่างจากสนามบินภูเก็ต 1 ชั่วโมง มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา 86%
โดยปัจจุบันบริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (แบบไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเข่าอสังหาริมทรัพย์ออนิกซ์ (ONYX Leaschold Real Estate Investrent Trust) หรือ ONYXRT แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต.
โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นทรัสตี และมีบริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ออนิกซ์ฯ เตรียมขาย 4 โรงแรม เข้ากองทรัสต์ 6.5 พันล. รองรับลงทุนใหม่อีก 4 โครงการ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th