“ธนกฤต” เผย คกก.ส่งความเห็นกรณีลงโทษ 3 แพทย์ ปมชั้น14 ให้ “สมศักดิ์” แล้ว
“ธนกฤต” เผย คกก.ส่งความเห็นกรณีลงโทษ 3 แพทย์ ปมชั้น14 ให้ “สมศักดิ์” แล้ว มองยังมีบางส่วนขาดหายแต่ไม่เป็นผลกระทบอยู่ที่ดุลยพินิจของนายกสภาพิเศษ ด้าน “นายกสมาคมทนาย” ประเด็นแพทย์ไม่กระทบคดีไต่สวน 13 มิ.ย.นี้ ด้านด้าน “รมต.สมศักดิ์” เผยเตรียมพิจารณาความเห็นคกก. ปมลงโทษแพทย์ มั่นใจทันกรอบเวลา อุบวีโต้หรือไม่
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข และนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย แถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนัดสุดท้ายของคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณากรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จาก รพ.ราชทัณฑ์ ไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งคณะกรรมการเสนอความเห็นฯ ได้ยื่นความเห็นของคณะกรรการ ทั้ง 9 รายที่มีต่อแพทย์ทั้ง 3 รายที่ถูกแพทยสภาลงโทษแบบแยกรายบุคคลให้กับนายสมศักดิ์เทพสุทินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ผ่านตัวแทน และเป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจของคณะกรรมการทั้ง 9 คน
ดร.ธนกฤต เผยว่า มติแพทยสภาที่ส่งมาให้พิจารณา เป็นการมัดรวมความเห็นที่กล่าวถึงแพทย์ทั้ง 3 รายแต่คณะกรรมการเสนอความเห็นฯ ได้พิจารณาแยกเป็นรายบุคคล เพราะบางเรื่องเกี่ยวข้องกับทางการแพทย์ และบางเรื่องเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย
ดร.ธนกฤต ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวมองว่ากระบวนการของแพทยสภา ก็ครบถ้วนและเป็นไปตามช่องทางของแพทยสภา แต่อาจจะไม่รองรับตัวกฎหมาย หรืออาจหยิบข้อกฎหมายมาพิจารณาไม่ครบถ้วน เพราะเรื่องนี้ มีทั้งหมด 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ แพทยสภา กรมราชทัณฑ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คงไม่สามารถนำกฎหมายในบ้านเราไปใช้กับบ้านคนอื่นได้ ซึ่งทุกหน่วยงานมีกฎหมายของตัวเอง แต่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อาจจะมีความแตกต่างกันในแต่ละหน่วยงาน ดังนั้น หากจะต้องพิจารณาลงโทษหรือไม่ลงโทษใคร ก็ควรดูให้ครบทุกองค์ประกอบ ทั้งความเห็น ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการเสนอความเห็นฯ ทั้ง 9 ราย เห็นตรงกันว่า ในการพิจารณาครั้งนี้ ยังขาดรายละเอียดของเอกสารบางส่วน ที่ก่อนหน้านี้ได้ขอไปกับทางแพทยสภา แต่ไม่ได้มีส่งเพิ่มเติมมาให้
ส่วนกรณีที่มีข้อกังขาเกี่ยวกับความเห็นของคณะกรรมการเสนอความเห็นฯ นั้น ดร.ธนกฤต เผย คงไม่สามารถกังขาได้ เพราะส่วนตัวไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ และส่วนตัวเป็นนักกฎหมาย อยู่คนละสายอาชีพกับแพทย์
อย่างไรก็ตาม ปลายทางของเรื่องนี้ก็ต้องไปจบที่แพทยสภา ส่วนขั้นตอนของนายสมศักดิ์ เป็นเพียงขั้นตอนตามกฎหมายที่แพทยสภา ระบุให้สภานายกพิเศษมีความเห็นตอบกลับมา ว่า จะเห็นด้วยหรือจะยับยั้งมติของแพทยสภา ซึ่งในครั้งนี้นายสมศักดิ์ จะมีเวลาพิจารณา 2-3 วัน ก่อนจะส่งความเห็นกลับไปให้แพทยสภา ซึ่งช่วงที่เหมาะสมตามกรอบระยะเวลา 15 วัน ก็ควรเป็นวันที่ 29 พฤษภาคมนี้
ด้านนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย บอกว่า หากนายสมศักดิ์เห็นด้วยกับมติแพทยสภา แพทย์ทั้ง 3 คนที่ถูกลงโทษก็ต้องได้รับโทษไปตามนั้น แต่หากมีการวีโต้กลับไป ก็ไม่ได้ส่งทั้งในทางการเมืองหรือทางการแพทย์ และไม่ได้มีผลในทางคดีกรณีชั้น 14 ที่ศาลไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ เนื่องจากศาลก็มีข้อมูลจากหลายทาง ซึ่งประเด็นของแพทย์ทั้ง 3 รายนั้นไม่ใช่ข้อมูลหลัก เพราะเป็นเพียงการสอบจริยธรรม แต่หากมีเหตุต้องสงสัยศาลก็สามารถขอข้อมูลจากแพทยสภาเข้าไปประกอบการไต่สวนได้
ขณะที่เวลาต่อมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมายังกระทรวงฯ พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับความเห็นจากทั้ง 9 ท่าน ก็เตรียมไปพิจารณาความเห็น ซึ่งจะต้องเสร็จภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด มั่นใจยังไงก็ทันเพราะข้อมูลแต่ละท่านไม่ได้ยาว ส่วนจะวีโต้หรือไม่นั้นก็ยังไม่ทราบ
ส่วนการขอเอกสารแม้ทางแพทยสภาจะไม่ได้ส่งกลับมาก็ไม่เป็นไร ก็จะเดินหน้าต่อ ยืนยันข้อมูลที่ได้มาไม่มีข้อกังขา ทุกอย่างชัดเจน สิ่งที่ต้องการแพทยสภาไม่ได้ส่งมาให้ก็ไม่เป็นไร