โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

วิ่งแล้วเจ็บเข่า โรคฮิตนักวิ่ง เกิดจากสาเหตุใด แก้ไขอย่างไรดี

Campus Star

เผยแพร่ 19 ส.ค. 2564 เวลา 04.46 น.
วิ่งแล้วเจ็บเข่า เกิดจาก วิ่งผิดท่า การวิ่งด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เป็นสาเหตุสำคัญที่พบได้บ่อย เช่น งอลำตัวไปข้างหน้าขณะวิ่ง วิ่งก้าวยาวเกินไป

วิ่งแล้วเจ็บเข่า สาเหตุ-การป้องกัน แก้ไข

วิ่งแล้วเจ็บเข่า เกิดจากสาเหตุใด ?

สาเหตุจากการวิ่งที่ทำให้เกิดอากาเจ็บเข่า มาจาก 4 สาเหตุหลักดังนี้

วิ่งผิดท่า

การวิ่งด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เป็นสาเหตุสำคัญที่พบได้บ่อยที่สด เช่นงอลำตัวไปข้างหน้าขณะวิ่งมาก วิ่งก้าวยาวเกินไป หรือวิ่งลงส้นเท้า ทำให้ผิวลูกสะบ้าถูกแทกจนอักเสบ (Patellofemoral Pain Syndrome) จึงรู้สึกเจ็บเข่าขณะวิ่ง โดยตามรายงานระบุว่าเกิดกับเพศหญิง มากกว่าเพศชาย เพราะผู้หญิงมีสะโพกกว้างกว่า ส่งผลให้เกิดแรงกดทับที่ลูกสะบ้าได้มากกว่า

อุบัติเหตุ

การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เช่น ข้อเท้าพลิก หกล้ม ชนสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เสี่ยงต่ออาการเอ็นร้อยหวายอักเสบ หรือกล้ามเนื้อบริเวนต้นขาอักเสบ เป็นต้น

วิ่งหักโหมเกินไป

กรณีนี้เป็นการบาดเจ็บจากการวิ่งที่เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อ และข้อต่อผิดวิธี หรือมากจนเกินไป ทำให้มีอาการรองช้ำ เอ็นใต้ฝ่าเท้าอักเสบ(Plantar Fasciitis) หรือมีอาการเจ็บที่หน้าเข่า เป็นการเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ลูกสะบ้าอักเสบ หรือ โรค Runner’s knee ได้ง่ายเช่นกัน

น้ำหนัก

ในคนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรือ เป็นโรคอ้วน จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงวิ่งแล้วเจ็บเข่ามากกว่าคนทั่วไป เพราะหัวเข่าต้องทำหน้าที่แบกรับน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ส่งผลให้กระดูกอ่อนเข่าหรือลูกสะบ้าอักเสบได้

วิ่งแล้วเจ็บเข่า ทำอย่างไรดี?

เมื่อเกิดอาการวิ่งแล้วเจ็บเข่า หากต้องการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัย จากแพทย์กระดูกและข้อ เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง จากนั้นแพทย์จะแนะนำแนวทางการรักษา ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่การปรับวิธีการวิ่ง ฝึกทักษะการวิ่งอย่างถูกต้อง การเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแรงวิ่งได้อีกครั้ง

แนวทางการรักษา อาการเจ็บเบื้องต้น สำหรับนักวิ่ง

สำหรับนักวิ่งโดยทั่วไปแล้ว เมื่อเกิดอาการบาดเจ็บปวดเข่าเฉียบพลันควรยึดหลัก R.I.C.E ดังนี้

  • R = Rest หยุดพัก เมื่อเกิดอาการ
  • I = ICE ประคบเย็นบริเวณที่บาดเจ็บในช่วง 2-3 วันแรก
  • C = Compress การพันกระชับให้บริเวณที่บาดเจ็บเคลื่อนไหวน้อยที่สุด
  • E = Elevation ยกเท้าสูง ให้เลือดไหลเวียนในกรณีที่ทำทั้ง 4 ข้อแล้ว ยังไม่หาย หรือกลับเป็นซ้ำเรื่อย ๆ ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดจากการอักเสบเรื้อรัง

เคล็ดลับนักวิ่ง วิธีป้องกันวิ่งแล้วเจ็บเข่า

เชื่อว่านักวิ่งหลายคนไม่อยากเจ็บตัวเมื่อออกวิ่ง อาการวิ่งแล้วเจ็บเข่าสามารถป้องกันได้ ตั้งแต่ก่อนออกวิ่ง ด้วยการฝึกซ้อมและเตรียมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่ออย่างถูกต้อง โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้

การวอร์มอัพ เตรียมตัวก่อนออกวิ่ง

ก่อนออกวิ่งต้องมีการวอร์มอุ่นเครื่อง ( Dynamic Stretching ) เพื่อให้กล้ามเนื้อ และข้อต่อให้ได้ยืดหดอย่างเหมาะสม แนะนำให้วิ่งเหยาะ ๆ 10-15 นาที เพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 50% ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด และเมื่อออกวิ่ง หากมีอาการบาดเจ็บ วิ่งแล้วเจ็บเข่า ต้องพักหรือหยุดวิ่ง ห้ามฝืน เพราะจะทำให้อาการบาดเจ็บทวีความรุนแรงมากขึ้นได้

หลังออกวิ่ง คูลดาวน์ และ ยืดเหยียด

เมื่อใกล้จะหยุดยิ่ง นักวิ่งควรค่อย ๆ ลดเความเร็วลง อย่าหยุดทันที ต้องค่อย ๆ ผ่อนเพื่อให้หัวใจค่อย ๆ ทำงานเบาลง และเมื่อหยุดพักจนหายเหนื่อย ควรทำการ ยืดเหยียด (Static stretching) 10-15 วินาที เพื่อคลายกล้ามเนื้อ จึงช่วยลดอาการบาดเจ็บลงได้“การวิ่ง” เป็นการออกกำลังกายที่ดีต่อสุขภาพ แต่เพื่อให้สามารถวิ่งได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องเสี่ยงวิ่งแล้วเจ็บเข่า หรือได้รับบาดเจ็บ นักวิ่งที่ดีต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม อาจจะเลือกใช้อุปกรณ์เสริม อย่างรองเท้าวิ่งดีๆ ก็จะช่วยให้คุณ มีสุขภาพที่ดีได้ง่าย ๆ แล้ว

บทความแนะนำ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...