โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เปิดบทวิเคราะห์แนวโน้ม “เงินเยน” พร้อมมองปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น

การเงินธนาคาร

อัพเดต 09 ก.ค. 2567 เวลา 09.52 น. • เผยแพร่ 09 ก.ค. 2567 เวลา 02.52 น.

เปิดบทวิเคราะห์ StashAway ทำไม "เงินเยน" ถึงอ่อนค่าและแนวโน้มจะเป็นอย่างไร และจะกระทบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างไร

ปัจจุบัน เงินเยน อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 160 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 40 ปี โดยการอ่อนค่าของเงินเยน ซึ่งลดลงกว่า 2% ในเดือน มิ.ย. และ 14% YTD ทำให้ตลาดการเงินโลกกำลังจับตามองสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

นายยศกร นิรันดร์วิชย CFA, กรรมการผู้จัดการ บลจ. สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด มองว่าแม้ยังไม่ชัดเจนว่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลงในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า และความผันผวนของค่าเงินเยนก็อาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนระยะสั้นได้ แต่มุมมองของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ StashAway ที่มีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นในระยะกลางบนพื้นฐานโครงสร้างทางเศรษฐกิจยังเป็นบวกเหมือนเดิม

อะไรทำให้เงินเยนอ่อนค่า?

เงินเยนได้เริ่มอ่อนค่าลงนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2022 เมื่อ Fed เริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วและรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

กลับกันธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป ต่างจากธนาคารกลางหลักอื่นๆ ทำให้ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของทั้ง 2 ประเทศ กลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง

เงินเยน

ทิศทางค่าเงินเยนจะเป็นอย่างไรต่อไป?

สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า จะขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางไหน รวมถึงท่าทีของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • ในสหรัฐ เงินเฟ้อที่ยืดเยื้ออาจทำให้ Fed คงดอกเบี้ยไว้ ‘Higher for Longer’ ทำให้ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยของสหรัฐกับญี่ปุ่นยังคงกว้างอยู่ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันค่าเงินเยนต่อไป อย่างไรก็ตาม ตลาดได้ Price In โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 1-2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะช่วยให้ช่องว่างนี้แคบลง
  • ในญี่ปุ่น การดำเนินนโยบายแบบเป็นกลางมากขึ้น (จากเดิมที่ใช้นโยบายแบบผ่อนคลายพิเศษ) เช่น การขึ้นดอกเบี้ยและลดการซื้อพันธบัตร จะช่วยลดส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยของสหรัฐกับญี่ปุ่น และจะช่วยสนับสนุนค่าเงินเยนให้แข็งค่าขึ้น โดยปัจจุบัน ตลาดได้ Price In โอกาสที่ BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ (ครั้งต่อไปอาจเกิดขึ้นในเดือน ก.ค. นี้)
เงินเยน

ขณะที่ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นก็อาจเข้าแทรกแซงการอ่อนค่าของค่าเงินเยนอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ ทางการญี่ปุ่นเคยแทรกแซงค่าเงินเยนมาแล้วหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็มักช่วยลดแรงกดดันได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น

นอกจากนี้ บรรดาผู้เล่นในตลาด ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะส่งผลต่อทิศทางของค่าเงินเยน ซึ่งดูเหมือนว่า ปัจจุบันตลาดมองว่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า ตามข้อมูลต่อไปนี้

  • FX forwards ตลาดสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ามักสะท้อนการคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในอนาคต โดยปัจจุบันได้สะท้อนว่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 156 เยนต่อดอลลาร์ฯ ภายในสิ้นปีนี้
    • FX options บรรดา Trader ในตลาด Options คาดการณ์ว่าเงินเยนจะแกว่งตัวอยู่ที่ 150-165 เยนต่อดอลลาร์ฯ ในช่วง 1 ปีข้างหน้า
    • การคาดการณ์โดยนักเศรษฐศาสตร์ บรรดานักเศรษฐศาสตร์มีมุมมองว่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้น โดยค่า Median อยู่ที่ 150 เยนต่อดอลลาร์ฯ ภายในสิ้นปีนี้
เงินเยน

ค่าเงินเยนส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างไร?

โดยทั่วไปแล้ว เงินเยนที่อ่อนค่าลงมักจะทำให้กำไรของภาคเอกชนแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะบริษัทที่พึ่งพาการส่งออก

เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงจะเป็นแรงขับเคลื่อนการส่งออกของญี่ปุ่น และหากเราตั้งสมมติฐานว่าต้นทุนส่วนใหญ่ของภาคเอกชนญี่ปุ่นอยู่ในสกุลเงินเยน หมายความว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงก็จะช่วยเพิ่ม Margin กำไรของบริษัทญี่ปุ่นด้วย กลับกัน หากเงินเยนแข็งค่าขึ้นก็จะส่งผลกระทบตรงกันข้าม และจะเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ทั้งนี้ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก โดยบริษัทในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม (เช่น Mitsubishi หรือ Hitachi) และกลุ่มธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือย (เช่น Toyota หรือ Sony) คิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ในดัชนี TOPIX

ความผันผวนของเงินเยนอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนระยะสั้นในตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดย StashAway ยังคงเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม มุมมองของเราที่มีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นในระยะกลางยังเป็นบวกเหมือนเดิม

มุมมองนี้อยู่บนพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดและเศรษฐกิจญี่ปุ่น เช่น การปฏิรูปภาคเอกชน การปฏิรูปเศรษฐกิจ และการออกกฎหมายเพื่อกระตุ้นการลงทุนภายในประเทศเมื่อเร็วๆ นี้

ยกตัวอย่างเช่น การปฏิรูปภาคเอกชนส่งผลให้มีการซื้อหุ้นคืน (Stock Buybacks) และการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

รวมถึงความพยายามครั้งล่าสุดของตลาดหุ้น Tokyo Stock Exchange ที่พยายามผลักดันให้ภาคเอกชนใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่ม ROE (อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น) ซึ่งทั้งหมดนี้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้นักลงทุนกลับมาสนใจตลาดหุ้นญี่ปุ่นอีกครั้ง และช่วยสนับสนุนให้ราคาหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น

ในระยะข้างหน้า ค่าเงินเยนอาจเคลื่อนไหวได้ทั้ง 2 ทิศทาง

เมื่อพิจารณาในระยะข้างหน้า ทิศทางของค่าเงินเยนอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ที่ค่อนข้างซับซ้อน โดยแต่ละปัจจัยก็มีอิทธิพลที่จะขับเคลื่อนค่าเงินเยนได้ทั้งขึ้นและลง และนี่คือบางตัวอย่างที่ทีมงานด้านการลงทุนของ StashAway กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด

ปัจจัยที่อาจกดดันให้เงินเยนอ่อนค่าลง

  • หากไม่มีปัจจัยกระตุ้นให้ค่าเงินเยนกลับตัว แนวโน้มตลาดในปัจจุบันอาจทำให้เกิดวัฎจักร ‘Self-fulfilling’ (ทฤษฎีว่าด้วยความคาดหวังทำให้เกิดสิ่งนั้นจริงๆ) ซึ่งการที่ตลาดคาดหวังว่าเงินเยนจะอ่อนค่าลง อาจทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงอีกจริงๆ ในระยะข้างหน้า

ปัจจัยที่อาจสนับสนุนให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น

  • เงินเยนมีชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในสกุลเงิน Safe-haven หมายความว่า หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจใดๆ ก็ตาม ก็อาจทำให้นักลงทุนหันมาหลบภัยในสกุลเงินที่มั่นคงและปลอดภัย ซึ่งจะทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น
  • หากอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ชนะการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐในเดือน พ.ย. นี้ ก็อาจกดดันให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกนโยบายที่ทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น เพื่อให้สหรัฐลดการขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่น คล้ายกับการทำข้อตกลง Plaza Accord ในปี 1985

ทั้งนี้ แม้เป็นเรื่องที่ดีที่นักลงทุนจะติดตามความเคลื่อนไหวของตลาด เช่น การอ่อนค่าของเงินเยน แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ควรบดบังความสำคัญของแผนการลงทุนระยะยาว เพราะการตัดสินใจบนพื้นฐานความผันผวนของตลาดในระยะสั้นมักไม่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี

ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจึงควรให้ความสำคัญกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมและโอกาสระยะยาวในตลาดที่คุณกำลังลงทุนอยู่ โดยการติดตามข้อมูลอย่างรอบคอบและรอบด้านยังคงมีความสำคัญ แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การยึดมั่นในแผนการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของตัวเองในระยะยาว

📌 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ สถานการณ์เศรษฐกิจเอเชีย ทั้งหมด ได้ที่นี่ 📌

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...