บลจ. ชี้แจงวิธีจัดการหุ้นกู้ EA ไม่ให้กระทบผู้ลงทุน
ภายหลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ ผู้บริหารของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กรณีร่วมกระทำการทุจริต การจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ และ/หรือทุจริตการจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ EA ผ่านบริษัทย่อย 2 บริษัทดังกล่าว เป็นเหตุให้บุคคลทั้ง 3 รายได้รับผลประโยชน์ จำนวนรวม 3,465.64 ล้านบาท
บลจ. ที่มีการลงทุนตราสารหนี้ของ EA ชี้แจงวิธีบริหารจัดการหุ้นกู้ในพอร์ตทั้งวิธีการคัดแยก หุ้นกู้ EA ออกจากกองทุน ขณะที่บางบลจ.ได้ยกเลิกกองทุนหลังผู้ถือหน่วยเทขายจนเข้าเกณฑ์ให้ปิดกองทุน
บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิด วรรณ ดีไลท์ (ONE-DELIGHT) และกองทุนเปิดวรรณตราสารหนี้ปันผล (ONE-DI) ชี้แจงว่า กองทุน ONE-DELIGHT และ ONE-DI ได้มีการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (“หุ้นกู้ EA”) ครั้งที่ 22562 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 (EA248A) ซึ่งจะครบกำหนดอายุในวันที่ 15 สิงหาคม 2567
โดยที่ผ่านมาบริษัทจัดการได้มีการติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อกองทุนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ EA และรวมถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ที่ได้มีการกล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร EA บริษัทจัดการพิจารณาแล้วเห็นว่าหุ้นกู้ EA อาจมีแนวโน้มขาดสภาพคล่อง และไม่สามารถจำหน่ายหลักทรัพย์ได้ด้วยราคาที่เหมาะสม
ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเป็นการดูแลผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย บริษัทจัดการจึงขอความเห็นชอบและได้รับอนุมัติจากผู้ดูแลผลประโยชน์แล้วในการดำเนินการคัดแยกหุ้นกู้ EA ออกจากทรัพย์สินอื่น ๆ ของกองทุนรวม (Side Pocket) ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. โดยบริษัทจัดการจะไม่นำหุ้นกู้ดังกล่าวมาคำนวณรวมในมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567
อย่างไรก็ดี ผู้ถือหน่วยลงทุนจะยังคงได้รับผลประโยชน์ใด ๆ ที่พึงมีจากการลงทุนในหุ้นกู้ EA โดยหากกองทุนรวมได้รับการชำระหนี้คืนจาก EA เมื่อหุ้นกู้ครบกำหนดอายุในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 บริษัทจัดการจะดำเนินการคืนเงินให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียน ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เวลา 08.00 น. ภายใน 45 วันหลังจากวันที่กองทุนได้รับการชำระหนี้คืน และผู้ถือหน่วยลงทุนที่ทำรายการตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป มูลค่าหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนในหุ้นกู้ดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจัดการขอให้ความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน/ผู้ลงทุนทุกท่านว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยลงทุน/ผู้ลงทุนทุกราย และการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนแต่อย่างใด ผู้ถือหน่วยลงทุนยังคงสามารถทำรายการซื้อ ขาย และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ตามปกติ
บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บลจ.อีสท์สปริง โดยความเห็นชอบของผู้ดูแลผลประโยชน์ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าหุ้นกู้ EA ที่ลงทุนมีปัญหาขาดสภาพคล่อง และการจำหน่ายจะไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุนโดยรวม
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นการดูแลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย บลจ.อีสท์สปริง จึงดำเนินการตามประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ สน.9/2564 ภาคผนวก 6 เรื่อง กรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้หรือลูกหนี้ตามสิทธิเรียกร้องผิดนัดชำระหนี้
โดย บลจ.อีสท์สปริง ได้พิจารณาแยกส่วนการลงทุนที่เป็นหุ้นกู้ EA ออกจากทรัพย์สินอื่น ๆ ของกองทุนรวม (Set Aside) และจะไม่นำหุ้นกู้ EA มาคำนวณรวมใน NAV ของกองทุนตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ซึ่งทำให้การทำรายการตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป ไม่ได้รับผลกระทบด้านราคามูลค่าหน่วยลงทุนจากการลงทุนในหุ้นกู้ EA
ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนจะยังคงได้รับผลประโยชน์ใด ๆ ที่พึงมีจากการลงทุนในหุ้นกู้ EA โดย บลจ.อีสท์สปริง จะนำเงินคืนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียน ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เวลา 08.00 น.
บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของ EA ที่เกิดขึ้น SCBAM ขอเรียนแจ้งว่ากองทุนรวมภายใต้การจัดการของ SCBAM ไม่มีการลงทุนในหุ้นของ EA
แต่มีการลงทุนในหุ้นกู้ของ EA โดย SCBAM พิจารณาแล้วเห็นว่า EA มีความเสี่ยงที่สถานะทางการเงินของบริษัทจะถดถอยลง สอดคล้องกับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของทริสเรตติ้งที่ “Negative” ทั้งนี้ SCBAM ได้ดำเนินการด้วยความพยายามสูงสุดในการปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ EA มาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดด้านสภาพคล่องของตราสาร การปรับลดสัดส่วนการลงทุนอาจต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการดังกล่าว
ในการนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน SCBAM จึงพิจารณาแยกส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ EA ออกจากทรัพย์สินอื่นของกองทุนรวม ด้วยการใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง Side Pocket ตามเกณฑ์สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 โดยหุ้นกู้ EA จะไม่นำมารวมคำนวณใน NAV ของกองทุน มีผลให้การเปลี่ยนแปลงด้านราคาของหุ้นกู้ EA จะไม่ส่งผลกระทบต่อกองทุน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการคำนวณมูลค่า NAV และผู้ลงทุนที่เข้าลงทุนในกองทุนภายหลังไม่ต้องรับผลกระทบจากหุ้นกู้ EA
บลจ.แอสเซท พลัส ออกประกาศเลิกกองทุนเปิด แอสเซทพลัส ตราสารหนี้ เดลี่ พลัส (ASP-DPLUS) โดยมั่นใจว่าการยุติการดำเนินงานของกองทุนในครั้งนี้ เป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องเผชิญกับความเสี่ยงและต้นทุนการหาสภาพคล่องที่สูงขึ้น และคาดว่าจะสามารถชำระเงินคืนผู้ถือหน่วยราว 40%ได้ภายใน 7 วันทำการ
“การยุติการดำเนินงานของกองทุน ASP-DPLUS ในครั้งนี้ เป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนโดยรวมต้องเผชิญกับความเสี่ยงและต้นทุนการหาสภาพคล่องที่สูงขึ้น”
พร้อมกันนี้ บลจ.แอสเซท พลัส ได้จัดทำแผนประมาณการสัดส่วนการชำระเงินคืนผู้ถือหน่วยลงทุน โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับเงินลงทุนคืน 40% ภายใน 7 วันทำการ (คำนวณจาก NAV ประมาณการ ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2567) และจะได้รับเงินลงทุนคืนเกือบครบ 100% ภายในเดือนมกราคม 2568 (คำนวณจาก NAV ประมาณการ ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2567) ตามตารางประมาณการชำระคืนเงินของผู้ถือหน่วยลงทุน กองทุน ASP-DPLUS ทั้งนี้กองทุน ASP-DPLUS มีมูลค่าสินทรัพย์ประมาณ 24,000 ล้านบาท ( ณ 16 ก.ค.67
บลจ. ที่ไม่มีการลงทุนในหุ้นกู้ EA
บลจ.บัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนรวมทุกประเภทของ บลจ.บัวหลวง ไม่มีการลงทุนในหุ้นและหุ้นกู้ของบริษัท EA
บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า กองทุนรวมของ บลจ.กสิกรไทย ไม่มีการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัท EA ส่วนกองทุนตราสารทุน มีการลงทุนในหุ้น EA แต่จำกัดเฉพาะกลุ่มกองทุนดัชนี (Passive Fund) เท่านั้น โดยเป็นไปตามนโยบายของกองทุน
สำหรับกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนแบบอิงดัชนี ได้แก่ กองทุน K-TNZ, K-SET50, K-ENERGY, KS50RMF และ KS50LTF ซึ่งหุ้น EA จะมีสัดส่วนในดัชนีไม่เกิน 0.5% ยกเว้น K-ENERGY ที่มีสัดส่วนในดัชนีประมาณ 1.5% ส่วนกองทุนตราสารทุนอื่น ๆ ทุกกองทุนที่ทาง KAsset ลงทุนจะไม่มีการลงทุนในหุ้น EA
บลจ.บางกอกแคปปิตอล ชี้แจงว่ากองทุนรวมตราสารทุนของบลจ.บางกอกแคปปิตอล (BCAP) มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น EA (ข้อมูล ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2567) จำนวน 4 กองทุน แต่ไม่มีการลงทุนในตราสารหนี้ของEA แต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ทีมลงทุนของ BCAP ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ
📌 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ “บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA)” ทั้งหมด ได้ที่นี่ 📌